เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 อาคารสุทธิอุทกากร การประปานครหลวง (กปน.) สำนักงานใหญ่ นางสาวสุวรา ทวิชศรี ผู้ว่าการ กปน. พร้อมด้วย นายวชิรวิทย์ โพธิวิจิตร ผู้เชี่ยวชาญ กปน. ระดับ 10 ในฐานะพยานดร.ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) และนายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ หรืออุปกรณ์ที่ได้รับฉลากแสดงประสิทธิภาพอุปกรณ์ประหยัดน้ำ (ฉลากประหยัดน้ำ) ของการประปานครหลวง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และดูแลรักษาทรัพยากรน้ำให้มีใช้อย่างเพียงพอและยั่งยืน

 

 

 

 

นางสาวสุวรา ทวิชศรี ผู้ว่าการ กปน. กล่าวว่า กปน. และทั้ง 2 บริษัทฯ ต่างตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำและการบริหารจัดการการใช้น้ำ (Demand Side Management : DSM) จึงได้ลงนามร่วมกันในครั้งนี้ โดยบริษัท บริทาเนียฯ จะนำอุปกรณ์ประหยัดน้ำ หรืออุปกรณ์ที่ได้รับฉลากประหยัดน้ำของ กปน. ไปติดตั้งรวม 14 โครงการ และบริษัท พฤกษาฯ จะนำไปติดตั้งรวม 20 โครงการ เพื่อร่วมกันลดปริมาณการใช้น้ำ และเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า ทั้งนี้ กปน. ได้ให้การรับรองฉลากประหยัดน้ำไปแล้วเกือบ 300 รุ่น และผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ได้นำอุปกรณ์ประหยัดน้ำไปใช้ในโครงการบ้านจัดสรรเกือบ 15,000 แห่ง โดย กปน. จะขยายผลให้มีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

 

 

 

ดร.ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บริทาเนีย จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจ ควบคู่ไปกับการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายใต้แนวคิด CRAFTING FOR EVERLASTING GROWTH หรือการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน และเชื่อว่าความสำเร็จที่แท้จริงนั้น ไม่เพียงแค่การสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่สวยงามและใช้งานได้จริง แต่ยังรวมถึงการผลิตบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายและเป้าหมายในการจัดการด้านความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเสนอกลยุทธ์การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ชัดเจน

 

 

 

นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจตามกรอบนโยบายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ที่จะช่วยสร้างคุณค่าทางด้านเศรษฐกิจ ลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคม ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับประเทศและสากล การลงนามในวันนี้ นอกจากจะสอดคล้องกับนโยบายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของบริษัทฯ แล้ว ยังช่วยประหยัดรายจ่ายค่าน้ำประปาให้กับผู้พักอาศัย และเป็นการช่วยรักษาทรัพยากรน้ำให้มีใช้อย่างยั่งยืนอีกทางหนึ่งด้วย