วิริยะประกันภัย ปรับลุคยูนิฟอร์มใหม่ ใส่ใจทุกเจนเนอเรชัน
วิริยะประกันภัย ปรับลุคยูนิฟอร์มใหม่ ใส่ใจทุกเจนเนอเรชัน
ตอบโจทย์ความหลากหลาย ด้วยสไตล์ “Business Casual”
การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค ถือเป็นแนวทางที่วิริยะประกันภัยดำเนินมาตลอด 78 ปี ของการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย สะท้อนผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ได้มาตรฐาน การส่งมอบบริการอันเป็นเลิศ ตลอดจนการแสดงออกถึงอัตลักษณ์ขององค์กรในทุกมิติ โดยสิ่งหนึ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญนั้นก็คือ “ชุดยูนิฟอร์ม” ที่ช่วยถ่ายทอดภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ ความน่าเชื่อถือ และความมุ่งมั่นของบุคลากรวิริยะประกันภัยทุกภาคส่วน
คุณอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้มีการปรับลุคยูนิฟอร์มให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนทำงานในยุคปัจจุบัน มีความเป็น Business Casual หรือ ชุดทำงานที่ไม่เน้นความทางการมากนัก เพื่อให้พนักงานรู้สึกคล่องตัว สวมใส่สบาย แต่ยังคงความเป็นมืออาชีพ ดูดี เหมาะสมกับการทำงาน และที่สำคัญเราใช้หลักการออกแบบเพื่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง เพศ หรือวัยไหน ก็สวมใส่ชุดยูนิฟอร์มได้อย่างมั่นใจและเป็นตัวของตัวเอง พนักงานทุกคนจึงสามารถแสดงออกถึงอัตลักษณ์ของวิริยะประกันภัยได้อย่างภาคภูมิใจ”
“ความพิเศษของการออกแบบในครั้งนี้ คือ การกำหนดรูปแบบเสื้อท่อนบนเป็นหลัก ทั้งเสื้อแจ็คเก็ต เสื้อเชิ้ต เสื้อโปโล เสื้อยืด และเสื้อเฉพาะตำแหน่งงานอื่น ๆ เพื่อให้พนักงานสามารถเลือกสวมใส่ท่อนล่างได้เองตามโทนสีและรูปแบบที่บริษัทกำหนดไว้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของความยืดหยุ่นในการแต่งกายให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่ จึงกำหนดให้พนักงานใส่ชุดยูนิฟอร์มเฉพาะวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี และสามารถแต่งชุดไปรเวทมาทำงานได้ทุกวันศุกร์ รวมทั้งยังมีสวัสดิการชุดยูนิฟอร์มให้แก่พนักงานทุกคน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพนักงานได้ในอีกทางหนึ่ง” คุณอมร กล่าว
“ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของวิริยะประกันภัย ในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวทาง ESG ที่บริษัทฯ ยึดถือมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบยูนิฟอร์มใหม่ที่คำนึงถึงความหลากหลายของพนักงาน การใส่ใจต่อผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หรือแม้กระทั่งการจัดการกับยูนิฟอร์มเก่าอย่าง
สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน ซึ่งล้วนเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยผลักดันให้องค์กรเติบโตไปพร้อมกับสังคมอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมมุ่งสู่อนาคตที่น่าอยู่สำหรับทุกคนต่อไป” คุณอมร กล่าวทิ้งท้าย