เอ็กโคแล็บ ผนึกกำลัง เอสซีจี ลงนามบันทึกความร่วมมือ เดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจ
เอ็กโคแล็บ ผนึกกำลัง เอสซีจี ลงนามบันทึกความร่วมมือ
เดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจ พร้อมขับเคลื่อน ESG สู่ Net Zero
กรุงเทพฯ, 1 กันยายน 2568 – เอ็กโคแล็บ (Ecolab) ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันและบริการเกี่ยวกับน้ำ สุขอนามัย และการป้องกันการติดเชื้อ และเอสซีจี (SCG) กลุ่มธุรกิจชั้นนำในอาเซียน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่มิถุนายน 2568 ถึงพฤษภาคม 2573 เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสซีจี ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนบริหารจัดการกระบวนการผลิต ควบคู่การขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้าน ESG เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero คาดช่วยให้เอสซีจีเพิ่มสัดส่วนการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่จาก 13.10% ในปี 2567 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสานต่อความร่วมมือกว่า 30 ปี ที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านความยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเอ็กโคแล็บและเอสซีจีนี้ มุ่งสร้างผลลัพธ์ที่ช่วยเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้เอสซีจี ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ไปจนถึงการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญภายใน 5 ปีข้างหน้า ควบคู่กับการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยเอ็กโคแล็บจะร่วมมือกับเอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) และเอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) ในการแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ผ่านการส่งมอบโซลูชันนวัตกรรมและการปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดการใช้น้ำ ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และปรับปรุงคุณภาพน้ำ แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน และสนับสนุนการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ ซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างความยั่งยืนและความแข็งแกร่งทางธุรกิจในระยะยาว
นายคริสตอฟ เบ็ค ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็กโคแล็บ (Ecolab) กล่าวว่า “กว่า 30 ปีที่ผ่านมา เอ็กโคแล็บภูมิใจที่ได้เคียงข้างเอสซีจีบนเส้นทางสู่ความยั่งยืน ความร่วมมืออันยาวนานนี้ตั้งอยู่บนความเชื่อร่วมกันว่า การดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบไม่เพียงช่วยปกป้องโลกของเรา แต่ยังสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับทั้งองค์กรและชุมชนอีกด้วย
ด้วยโซลูชันด้านการจัดการน้ำและความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิต เอ็กโคแล็บได้เป็นพันธมิตรที่เอสซีจีไว้วางใจในการช่วยสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และเมื่อมองไปข้างหน้า เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมืออย่างต่อเนื่องที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการเติบโตอย่างยั่งยืน จะช่วยเร่งการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของเอสซีจี พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมโดยรวม และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมสร้างความสำเร็จไปกับเอสซีจีต่อไป”
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี (SCG) กล่าวว่า “เอสซีจี เชื่อมั่นว่าความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนต้องดำเนินควบคู่กันไป ความร่วมมือกับเอ็กโคแล็บครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุน ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และเสริมสร้างขีดความสามารถขององค์กร โดยตั้งเป้าเพิ่มอัตราการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ให้สูงกว่า 13.10% จากปี 2567 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ดีขึ้น ความร่วมมือครั้งนี้ยังสอดคล้องกับการขับเคลื่อนเป้าหมายด้าน ESG ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นพลังของความร่วมมือที่สามารถสร้างคุณค่าร่วมกันได้ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมในระดับสากลอย่างแท้จริง โดยในระยะแรก ความร่วมมือดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับ SCGP และ SCGC พร้อมโอกาสขยายสู่ธุรกิจอื่น ๆ ในอนาคต”
นายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ SCGP ในการส่งมอบโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ด้วยการผสานหลักการออกแบบเพื่อความยั่งยืน (Circular Design) และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพของ SCGP เข้ากับความเชี่ยวชาญของเอ็กโคแล็บ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างคุณค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าและชุมชนได้ดียิ่งขึ้น”
ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ และนวัตกรรม เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) กล่าวว่า “สำหรับ SCGC ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการใช้น้ำและพลังงานในทุกมิติของการดำเนินงาน ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจด้านความยั่งยืนของ SCGC ภายใต้แนวทาง Low Waste, Low Carbon พร้อมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระยะเวลา 5 ปีดังกล่าว ตอกย้ำพลังของความร่วมมือระหว่างผู้นำในอุตสาหกรรมทั้งเอ็กโคแล็บและเอสซีจี ที่สามารถเปลี่ยนพันธกิจด้านความยั่งยืนให้เป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ เพื่อเร่งขับเคลื่อนธุรกิจสู่เป้าหมาย Net Zero ควบคู่กับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในทุกอุตสาหกรรม
Ecolab and SCG Sign MOU to Enhance Business Competitiveness
and Drive ESG Progress Toward Net Zero
Bangkok Thailand, September 1, 2025 – Ecolab, a global leader in water, hygiene, and infection prevention solutions and services, and SCG (Siam Cement Group), ASEAN’s leading business conglomerate, have signed a Memorandum of Understanding (MOU) in view of five year partnership to strengthen SCG’s competitiveness through efficiency gains and cost savings, while advancing its ESG strategy as a pathway to Net Zero. Running from June 2025 to May 2030, the agreement will help SCG reduce its greenhouse gas emissions and increase its water reuse ratio beyond the 13.10% baseline in 2024. This MOU builds on a 30-year partnership that continues to deliver impactful innovations in sustainability, efficiency, and environmental stewardship.
Building on this foundation, the MOU focuses on outcomes that strengthen competitiveness — from optimizing water use to significantly cutting CO₂ emissions within the next five years, while improving efficiency to lower operational costs. Ecolab will partner with SCG Packaging (SCGP) and SCG Chemicals (SCGC) to explore potential initiatives that deliver more efficient and productive processes with high-quality output. Through innovative solutions and process improvements, operations will not only save water, reduce footprint, and enhance water quality, but also lower energy consumption, improve energy efficiency, and explore opportunities for renewable energy integration — ultimately driving sustainability impact alongside long-term business resilience.
Christophe Beck, Chairman and CEO of Ecolab, said, “For more than 30 years, Ecolab has been proud to support SCG and their sustainability journey. Our long-standing collaboration has been grounded in a shared belief that responsible business practices can both protect our planet and create long-term value for companies and communities.
Through our water solutions and process expertise, we’ve become a trusted partner that helps SCG deliver measurable outcomes. As we look ahead, we’re confident that our continued collaboration—powered by innovation and a focus on sustainable growth—will help accelerate SCG’s environmental ambitions and inspire progress across the broader industry. I look forward to seeing what we can accomplish together."
Thammasak Sethaudom, President and Chief Executive Officer of SCG, said, “At SCG, we believe competitiveness and sustainability go hand in hand. This MOU with Ecolab is a strategic move that enables us to reduce costs, improve efficiency, and strengthen our resilience by increasing our water reuse ratio beyond 13.10% in 2024 and reducing greenhouse gas emissions, while advancing our ESG priorities as the foundation towards Net Zero 2050. Partnering with a global leader like Ecolab demonstrates how collaboration can create shared value through knowledge exchange and innovation at a world-class level. To begin, this collaboration will involve SCGP and SCGC, with the potential for other businesses to join as opportunities arise.”
Danaidej Ketsuwan, Chief Financial Officer of SCGP, added, “For SCGP, this partnership supports our commitment to deliver sustainable packaging solutions. By integrating circular design principles and resource efficiency with Ecolab’s expertise, we will create packaging that minimizes environmental impact and adds value for our customers and communities.”
Dr.Suracha Udomsak, Chief Operations and Innovation Officer of SCGC, added, “For SCGC, the collaboration is an opportunity to further advance water and energy efficiency across our operations. This collaboration aligns with SCGC’s sustainability commitment of ‘Low Waste, Low Carbon’, while strengthening our competitiveness.”
This five-year MOU underscores how collaboration between industry leaders can turn sustainability commitments into measurable outcomes, accelerating the journey toward Net Zero while strengthening competitiveness across industries.
