ดีแทค แอคเซอเลอเรท ปี 7 ปั้นหลักสูตร A Academy ปลดล็อคสตาร์ตอัพไทยซีรี่ส์ A ขึ้นแท่นยูนิคอร์น
ดีแทค แอคเซอเลอเรท ปี 7 ปั้นหลักสูตร A Academy ปลดล็อคสตาร์ตอัพไทยซีรี่ส์ A ขึ้นแท่นยูนิคอร์น
· ดีแทค แอคเซอเลอเรทชี้ 90% ของสตาร์ตอัพไทยติดกับดัก Series A
· เปิดหลักสูตร A Academy ช่วยผลักดันสตาร์ตอัพไทยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนจาก VCs
· เชื่อมโยงเทคโนโลยีจากธุรกิจสตาร์ตอัพมาช่วยสร้างระบบนิเวศน์ 5G พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย
20 กุมภาพันธ์ 2562 – ดีแทค แอคเซอเลอเรท เปิดโครงการ ปี 7 จัดหลักสูตรใหม่ A Academy สำหรับสตาร์ตอัพ ที่จัดอยู่ในกลุ่มการลงทุน ระดับซีรี่ส์ A ซึ่งเป็นการลงทุนของกลุ่มนักลงทุนในระดับ Venture Capital และ Corporate Venture Capital ที่มีมูลค่าการลงทุนจะอยู่ในช่วง 1 - 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเป็นเงินไทยที่ 33 - 495 ล้านบาท เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในภูมิภาคเอเชียและระดับโลก หลังพบว่าสตาร์ตอัพไทยติดกับดัก ซีรี่ส์ A หรือ Series A bottleneck ไม่สามารถโตต่อไปได้
นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ดีแทคมีความตั้งใจที่จะนำเอาดีแทค แอคเซอเลอเรท สตาร์ตอัพเข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจใน 2 ด้านหลักคือ
1.สร้างพลังในการขับเคลื่อนองค์กรใหญ่ของดีแทค ไปสู่ Digital Transformationโดยการปรับวัฒนธรรมการทำงานในองค์กรแบบอไจล์ (Agile) ที่นำเอาแนวคิดการทำงาน และที่ปรึกษาสตาร์ตอัพ จาก ดีแทค แอคเซอเลอเรท เข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของพนักงานในองค์กร เพื่อพัฒนางานให้ได้ประสิทธิภาพตามเป้าหมาย
2. การสร้างระบบนิเวศน์ เป็นหัวใจสำคัญของการเปิดให้บริการ 5G รวมทั้งหากรณีศึกษา เพื่อการใช้งานจริงในโลกธุรกิจ ดีแทค แอคเซอเลอเรท เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของดีแทคจะช่วยผลักดันให้เกิดบริการที่สร้างสรรค์ โดยได้นำเอาแพลตฟอร์มของสตาร์ตอัพ มาช่วยสนับสนุนต่อยอดนำเทคโนโลยีมาพัฒนาบริการ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและสังคมโดยการแสวงหาความร่วมมือ จากหลายหน่วยงาน และนำเอาสตาร์ตอัพเข้าร่วมโครงการทดสอบ 5G Testbed สนามทดลองขนาดใหญ่เพื่อเร่งรัดการพัฒนาระบบ 5G โดยมีแพลตฟอร์มจากสตาร์ตอัพ Ooca และ Globlish เข้าร่วมทดสอบด้วย”
ปลดล็อคสตาร์ตอัพไทย ขึ้นแท่นยูนิคอร์น
ปัจจุบันดีแทค แอคเซอเลอเรทมีสตาร์ตอัพที่ผ่านการระดมทุนระดับ Series A จำนวน 6 ธุรกิจในขณะที่ยังมีอีก 23 ธุรกิจที่ผ่านการระดมทุนระดับเริ่มต้น (Seed) โดยมูลค่าของการระดมทุนจะอยู่ในช่วง 20,000 - 50,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 600,000 - 1.5 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถระดมทุนต่อไปถึง Series A ได้ ดังนั้นจึงเปิดตัวโครงการ A Academy นี้ขึ้นมาเพื่อที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจสตาร์ตอัพเหล่านั้นให้ก้าวไปสู่การระดมทุนระดับ Series A โดยในโครงการนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมสำหรับ การระดมทุนในรอบการระดมทุนที่มีมูลค่าสูง รวมไปถึงการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น และการนำเทคโนโลยีขั้นสูง เข้ามาปรับใช้กับธุรกิจ เช่น นำการเรียนรู้ของ Machine Learning และAI มาปรับใช้กับธุรกิจ เป็นต้น ในโครงการนี้ ได้เชิญ VC ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย เช่น 500Tuktuks/ Golden Gate Ventures/ Line Ventures/ KK Fund และ Monk’s Hill Ventures เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับการระดมทุน การจัดรูปแบบด้านการเงิน และแบ่งปันเทคนิคต่างๆ และยังได้ร่วมมือกับ Google Launchpad Accelerator นำหลักสูตรผู้บริหาร ของ Google “Leaders Lab” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักสูตรผู้บริหารสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ดีที่สุด มาฝึกอบรมให้กับสตาร์ตอัพ รวมถึงผู้เชียวชาญด้าน Machine Learning และAI จาก Amazon Web Service และ Google Cloud
หลักสูตร A Academy นับเป็นโครงการที่จะช่วยให้ธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถที่จะสร้างมูลค่าของบริษัทให้ได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสตาร์ตอัพสัญชาติไทยที่เป็นหนึ่งในโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท ให้กลายเป็นยูนิคอร์นต่อไป สำหรับเป้าหมายของดีแทค แอคเซอเลอเรท ปี 7 คือ มองหาธุรกิจที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพ เกษตรกรรม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน e-commerce การท่องเที่ยว insurtech และอื่นๆ
การลงทุนในสตาร์ตอัพไทย ตกต่ำลงเป็นปีแรก
นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวถึง ในประเทศไทยมีสตาร์ตอัพไม่ถึง 10% ที่ได้รับการลงทุนจาก Seed ไปถึง Series A อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ดีแทค แอคเซอเลอเรท เข้ามาช่วยปลดล็อคการลงทุนใน Series A เพื่อช่วยให้ สตาร์ตอัพไทย เติบโตต่อไปได้และไม่กลายเป็นซอมบี้ (Zombie) ซึ่งในกลุ่มสตาร์ตอัพ ดีแทค แอคเซอเลอเรท มีถึง 25% ที่สามารถระดมทุนจาก Seed ถึง Series A ซึ่งเราอยากที่จะเพิ่มอัตราส่วนการลงทุนในสตาร์ตอัพไทยให้ได้มากกว่านี้
การลงทุนในสตาร์ตอัพไทยข้อมูลจาก Techsauce Startup Report 2561 ระบุถึงสถิติการลงทุนในสตาร์ตอัพไทย ตั้งแต่ปี 2558 มีการลงทุนเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 2561 ที่ผ่านมา การลงทุนลดลงเหลือเพียง 61 ล้านเหรียญสหรัฐ จากปี 2560 ที่มีจำนวน 105 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะไม่มีการลงทุนในดีลใหญ่ๆที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา
สาเหตุหลักที่ไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่มี 3 ประการคือ
1. นักลงทุนหันไปลงทุนในประเทศ กลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่าในไทย เช่น ไปลงทุนที่เวียดนาม เนื่องจากมีคนที่มีความสามารถทางด้านเทคโนโลยีที่มากขึ้น ทำให้เวียดนามสามารถดึงดูดนักลงทุนให้ไปลงทุนได้มากกว่า ในเวียดนามมีการลงทุนถึง 890 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 92 ดีล
2. การแข่งขันที่รุนแรง จากแพลตฟอร์มซุปเปอร์แอป (super app) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นที่ครอบคลุมทุกบริการ และต้องการให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้งานเป็นประจำทุกวัน ทำให้สตาร์ตอัพในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง ต้องออกจากธุรกิจไป เนื่องจากสู้กับซุปเปอร์แอปเหล่านี้ไม่ได้ เช่น Line และ Grab ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซุปเปอร์แอปดังกล่าว แสวงหาความร่วมมือกับพันธมิตร หรือควบรวมกิจการ สร้างอีโคซิสเต็ม ขยายบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองผู้ใช้งานได้ครบครันในแอปเดียว เช่น บริการ ส่งของ ส่งอาหาร บริการด้านการเงิน ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกสบาย โดยไม่ต้องใช้แอปอื่น
3. ต้นทุนในการได้มาซึ่งลูกค้า (Customer Acquisition Cost: CAC) เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจสตาร์ตอัพจำนวนมากจึงเริ่มที่จะเปลี่ยนรูปแบบจาก B2C (Business to Consumer) คือ การที่ธุรกิจขายสินค้าและบริการให้แก่ผู้บริโภคทั่วๆไปโดยตรง ไปสู่ B2B (Business to Business) ทำธุรกิจโดยขายสินค้าหรือบริการ ให้กับ
ลูกค้าที่เป็นลูกค้าองค์กร ไม่ใช่รายบุคคล เพื่อสร้างรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งรูปแบบธุรกิจ แบบB2B ที่มีศักยภาพในการเติบโตแบบก้าวกระโดด (scalable business model) ได้นั้นก็ทำได้ยาก
ในปี 2561 ที่ผ่านมา มีการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติไทยทั้งสิ้น 34 รายการ โดยมีมูลค่าระดมทุนทั้งสิ้น 61 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมี 7 รายการที่เป็นสตาร์ตอัพจาก ดีแทค แอคเซอเลอเรท โดยมีมูลค่าระดมทุนทั้งสิ้น 11 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่ากับ 17% ของการลงทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจสตาร์ตอัพไทยที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ Fastwork ซึ่งเป็นสตาร์ตอัพที่มีมูลค่าการระดมทุนสูงที่สุดในระดับ Series A ที่ผ่านมา นอกจากนี้ Ricult เองก็ได้รับการระดมทุนระดับ Seed Fund ที่สูงที่สุดของหมวดเกษตรกรรมประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันดีแทค แอคเซอเลอเรท มีสตาร์ตอัพในโครงการรวมทั้งสิ้น 46 ธุรกิจ ซึ่งมีอัตราความสำเร็จของธุรกิจคิดเป็น 70% โดยคิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท และมีปริมาณการระดมทุนคิดเป็นมูลค่า 870 ล้านบาท
ดีแทค แอคเซอเลอเรท เปิด 2 หลักสูตร สร้างสตาร์ตอัพไทย และสตาร์ตอัพ Series A
ดีแทค แอคเซอเลอเรท ปี 7 เปิด 2 หลักสูตร คือ
1. หลักสูตรบ่มเพาะสตาร์ตอัพน้องใหม่ ทั้งในระดับ Incubator Track สำหรับ ผู้ที่มีไอเดีย แต่ยังไม่เกิดเป็นธุรกิจและ Accelerator Track สำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว
2. หลักสูตร A Academy สำหรับสตาร์ตอัพในครอบครัวดีแทค แอคเซอเลอเรท ที่จัดอยู่ในกลุ่มการลงทุนระดับ ซีรี่ส์ A โดยร่วมกับ Google / 500 สตาร์อัพ และ VCs กลุ่มนักลงทุนชั้นนำในเอเชีย เป็นการสนับสนุนเส้นทางการหาเงินทุน ที่จะช่วยให้สตาร์ตอัพได้เงินทุนในมูลค่าถึง 100 ล้านเหรียญ และช่วยผลักดันสตาร์ตอัพในครอบครัวดีแทค แอคเซอเลอเรท ได้เป็นยูนิคอร์นจากประเทศไทย เป็นรายแรก
dtac accelerate batch 7 forms up A Academy program to help Thai Series A round startups become unicorns
· dtac accelerate points out that 90% of Thai startups get caught in Series A round of funding.
· The A Academy program is launched to help Thai startups get closer to the VCs.
· Improving quality of life for Thai people by connecting technologies from startups to create the 5G ecosystem.
February 20, 2019 – dtac accelerate introduces the batch 7 with a new program, A Academy, for startups that receive Series A round of funding by venture capital and corporate venture capital firms between 1 - 15 million USD or 33 – 495 million THB. The program helps create opportunities for Thai startups, that are struck with Series A bottleneck, to grow by getting closer to the funding sources in Asia and worldwide.
Ms. Alexandra Reich, Chief Executive Officer, Total Access Communication PLC. or dtac, said “dtac’s greater ambition is to go beyond connectivity and build strong industry ecosystems that can support 5G sustainably. dtac accelerate is key to this mission, as startups constitute critical building blocks to the industry verticals we are invested in, such as smart farming and smart vehicles. dtac accelerate also supports our internal transformation very directly, providing mentorship for our employees to embrace more agile ways of work.”
Make Thai startup a unicorn
Presently, dtac accelerate’s portfolio consists of 6 startups in Series A round and 23 startups with seed funding that is in between 20,000 – 50,0000 USD or 600,000 – 1.5 million THB. They still cannot raise to the Series A round. Therefore, the A Academy will help these startups reach the Series A round of financing by focusing on preparation for mega-funding round, connection with customers, and adaptation of advanced technologies, such as machine learning and AI, to the business. In this program, the leading VCs of Asia, for examples, 500 Tuktuks, Golden Gate Ventures, Line Ventures, KK fund, and Monk’s Hill Ventures, are invited to share their knowledge about fundraising, financial management, and other related techniques. With the collaboration with Google Launchpad Accelerator, the program gets Google’s executive workshop called “Leaders Lab”, which is one of the best executive workshops for technology-related business, to train the attending startups, along with experts in Machine Learning and AI from Amazon Web Service and Google Cloud.
The A Academy program tends to boost up the startup company values to 100 million USD. The program is a part of dtac accelerate to make Thai startup become a unicorn. The goal of dtac accelerate batch 7 is to look for businesses that adopt technologies to develop solutions for a variety of industries, such as healthcare, agriculture, real estate, energy, e-commerce, tourism, insurance, etc.
The investment in Thai startups falls for the first time
Mr. Sompoat Chansomboon, Managing Director of dtac accelerate, stated that less than 10% of total Thai startups have steadily received funding from Seed to Series A round, which certainly is a very small number. Thus, dtac accelerate has helped unlock the potential of Thai startups to secure the funding in Series A round, so that they can grow their business and will not become zombies. Twenty-five percent of dtac accelerate startups receive Seed to Series A round of funding, compared to the national average of 10%. dtac accelerate wants to increase this figure of investment in Thai startups.
According to Techsauce Startup Report 2018, the investment in Thai startups had been constantly rising since 2015 until 2018, when the funding was down to 61 million USD from 105 million USD in 2017. There were no big deals worth over 50 million THB in the previous year.
Three main reasons for not having immense investments on Thai startups:
1. Investors have found other countries in Southeast Asia more attractive than Thailand. For example, they invest in Vietnam since Vietnamese people possess more technological capabilities than Thai people do, resulting in 92 financing deals with the total valuation of 890 million US dollars.
2. Intense competition from the super app platforms, which cover all services for people’s daily life, forces startups in small and medium-sized businesses to step aside as they cannot compete with these super applications, e.g., Line and Grab. The super application can easily find partners or engage in merger and acquisition to create ecosystem and offer new services that address customers ‘needs by just one application, such as delivery service, food delivery, financial service, etc.
3. The customer acquisition cost (CAC) has continuously rising. Many startup businesses have started to change from B2C (Business to Consumer), selling products or services directly to individual customers, to B2B (Business to Business), selling products or services to corporate customers or between businesses, because they can generate greater revenues. However, the effective B2B that is a repeatable and scalable business model is very difficult to achieve.
In 2018, there were 34 Thai startups secured 61 million US dollars in investment. Seven of them are startups in dtac accelerate program with the total funding of 11 million US dollars or 17% of the total investment in Thailand in the previous year. The successful Thai startups are Fastwork, which received the highest valuation of investment from Series A round of funding and Ricult, which secured the funding in the Seed stage, the highest fundraising deals among agricultural tech startups in Southeast Asia. Currently, dtac accelerate has a total of 46 startups in the program with a combined valuation of over 5.1 billion baht and the success rate of 70% of its startups receiving follow-on funding that is worth total of 870 million baht.
dtac accelerate introduces 2 programs to create Thai startups and Series A round startups
dtac Accelerate batch 7 offers 2 courses as follows:
1. Incubator program for rookie startups consists of: 1. Incubator Track for startups who have ideas but have not started running the business; and 2. Accelerator Track for startups who want to grow their businesses rapidly.
The A Academy program for startups of the dtac accelerate family, who receive Series A round of funding with Google, 500 startups, and leading VCs in Asia. The program helps startups get $100 million US dollars fundraising and push them to become the first Thai Unicorn.