ภัยร้ายจากไข้เลือดออก ประสบการณ์ที่ “แต้ว” ไม่อยากเจออีก

ภัยร้ายจากไข้เลือดออก ประสบการณ์ที่ “แต้ว” ไม่อยากเจออีก

“ตอนเป็นไข้เลือดออก เรารับรู้แค่ว่าเราเหมือนผัก ทำให้รู้ว่าไข้เลือดออกอันตรายมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่ายุงตัวเล็กๆ จะทำให้เราทรมานได้ขนาดนี้ จนแต้วมาเป็นไข้เลือดออกเอง ....”

คำบอกเล่าของคุณแต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกชื่อดัง ถึงประสบการณ์เกี่ยวกับการเป็นโรคไข้เลือดออก แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของโรคไข้เลือดออกได้เป็นอย่างดี แทบทุกคนรู้จักไข้เลือดออก และส่วนมากทราบกันดีว่าไข้เลือดออกเกิดจากพาหะตัวเล็กๆ คือ ยุงลาย แต่น้อยคนนักที่ทราบว่าไข้เลือดออกเป็นโรคที่ไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้าถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ด้วย

“ตอนแรกแต้วไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเป็นไข้เลือดออก เพราะเริ่มจากการเป็นไข้สูงทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ได้จำแม่นว่าต่างจากโรคอื่นๆ คือ อาการปวดเมื่อยที่รุนแรง ขณะนั่งทำงานอยู่ก็รู้สึกว่าปวดเมื่อยมาก และเป็นไข้สูงด้วย จึงไปพบแพทย์ ไปครั้งแรกยังไม่ทราบว่าเป็นไข้เลือดออกจึงกลับมาพักผ่อนที่บ้านก่อน แต่ไข้ไม่ลดเสียที และมีไข้สูงเกิน 24 ชม. จึงกลับไปพบแพทย์อีก และทำให้ทราบว่าเป็นไข้เลือดออก”

คำบอกเล่าของคุณแต้วสอดคล้องกับลักษณะอาการทั่วไปของผู้ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก กล่าวคือ  มีอาการไข้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่ค่อยลดลง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว รวมทั้งเบื่ออาหาร

“แต้วรู้สึกเหมือนฟาดเคราะห์ครั้งใหญ่ ไม่น่าเชื่อว่าแค่ยุงตัวเล็กๆ จะสามารถทำให้เราล้มไปได้ขนาดนี้ แต้วต้องนอนโรงพยาบาลอยู่เกือบเดือน อาการตอนที่อยู่โรงพยาบาล คือ มีไข้สูง ต่อให้เช็ดตัวหรือทานยาแก้ไข้ก็ไม่ลด และปวดเมื่อยตลอดเวลา ไม่รู้สึกอยากทานอะไร เบื่ออาหาร เกล็ดเลือดต่ำ ความดันต่ำ เกือบจะช็อค โชคดีที่รู้ตัวเร็ว และไปพบแพทย์ได้ทันเวลา”

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีเหมือนกับคุณแต้ว หลายคนไม่ได้ป้องกันไว้ก่อน เป็นไข้เลือดออกชนิดรุนแรง และไปพบแพทย์ไม่ทันเวลา จนทำให้เสียชีวิตได้ โดยในประเทศไทยรวมทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครเองนั้นมีผู้ป่วยไข้เลือดออก 63,310  ราย เสียชีวิต 61 รายในปีก่อน และในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยไข้เลือดออกในประเทศไทยเกินครึ่งล้าน หรือทั้งหมด 552,900 คน รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตจากไข้เลือดออกมากถึง 520 คน*

เพราะไม่อยากเสี่ยงกับความรุนแรงของไข้เลือดออกอีกแล้ว ทั้งไม่อยากเสียโอกาสในการทำงาน และการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ คุณแต้วจึงพยายามป้องกันตนเองจากไข้เลือดออกให้ได้มากที่สุด “แต้วคิดว่าไข้เลือดออกอันตรายมาก ทำให้เสียชีวิตได้ เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ายุงกัดเราตอนไหน ยากมากที่จะควบคุมไม่ให้ยุงกัด เพราะเป็นพาหะที่มาหาเราได้ตลอดเวลา ไม่ว่าที่ใดก็ตาม แต่แต้วก็พยายามป้องกันตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ปรึกษาแพทย์ หาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีป้องกันไข้เลือดออกในอินเตอร์เน็ต หรือหากต้องไปถ่ายละครและค้างคืนที่อื่น ก็จะพกมุ้งไปด้วย”

 นอกจากนี้ในฐานะผู้ที่เคยต้องเผชิญกับความรุนแรงของไข้เลือดออกมาแล้ว คุณแต้วยังได้เข้าร่วมโครงการ                     

 ’ต้านภัยไข้เลือดออก’ โดย สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปและคนรุ่นใหม่ทราบถึงวิธีป้องกัน ความเสี่ยงและความรุนแรงของโรค ด้วยการใช้ศิลปะ กิจกรรมในครอบครัว และกิจกรรมในชุมชนเป็นสื่อกลางในการสื่อสารแง่มุมสุขภาพ และปลูกจิตสำนึกในการรู้จักดูแลตนเองด้วยการป้องกันโรคอย่างถูกวิธี 

“สิ่งที่อันตรายที่สุดของโรคไข้เลือดออก คือ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ และควบคุมยาก ดังนั้น ควรป้องกันตัวคุณเองและลูกหลาน โดยเริ่มจากในบ้านคุณตั้งแต่วันนี้ จะได้ไม่เสียดายว่าทำไมเราไม่ดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ เราต้องตระหนักก่อนว่าไข้เลือดออกเป็นโรคที่รุนแรงและเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แล้วเราจะเห็นความสำคัญของการป้องกันในที่สุด แต้วอยากให้ทุกคนดูแลตัวเอง ก่อนที่จะไปดูแลคนอื่น โดยอาจปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเกี่ยวกับแนวทางการป้องกัน ช่วยกันดูแลกันและกัน นึกถึงส่วนรวม ถ้าช่วยกันนอกจากทำให้เราเองปลอดภัย ก็จะทำให้คนไทยเป็นโรคไข้เลือดออกน้อยลงด้วย ” คุณแต้วกล่าวสรุปในฐานะผู้ที่เคยเผชิญกับความรุนแรงของไข้เลือดออกมาแล้ว และไม่อยากให้ใครต้องมาเผชิญกับโรคที่อาจทำให้เกิดการเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเหมือนกับตนเองอีก

*ที่มา: กลุ่มระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทยปี 2559, updated 5 January 2017. Available at http://www.thaivbd.org/n/uploads/file/file_PDF/Dengue/2559/DHF%2052.pdf; Last accessed 11 May 2017