CHANGE in-your-life เรื่อง : ปราริชาติ ปลื้มจิตต์ตระกูล
 

พระครูบาคำฝั้น อินทวัณโณ เกจิอาจารย์เจ้าตำรับเครื่องราง…ที่พึ่งทางใจ ปลุกความหวัง..พลังศรัทธาแห่งเมืองล้านนา..ตำรามอญแปลง

     ปัจจุบันที่ผู้คนหลงไหล ชื่นชอบเครื่องรางของขลัง ตามความเชื่อและศรัทธาก่อกำเนิดการสร้างวัตถุมงคลปลุกเสกโดยเกจิอาจารย์ต่างๆหลากหลายกันไป ทั้งตะกรุดลูกอม สีผึ้ง เหรียญ ฯลฯ

      พระครูอินทจักรโสภณ ครูบาคำฝั้น ในวัย82ปี เจ้าอาวาสวัดกอโชค แม่ก๊าสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ ที่เป็นเจ้าตำรับการศึกษาวิชามอญแปลงสืบทอดกัน มาแต่บรรพบุรุษจนเป็นที่รู้จักของเอกชนบางแห่งได้เสาะแสวงหาและจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ท่านปลุกเสกจนมีชื่อเสียงแพร่หลายในกลุ่มที่เดี๋ยวนี้ เค้าเรียกว่า สายมู ต่างนิยมเสาะแสวงหาเช่ามาเป็นของตน การชวนเชื่อบวกกับความเชื่อถือเป็นทุน โดยวัตถุมงคลต่างๆ ได้ถูกนำมา เป็นเครื่องประดับเข้ากับยุคสมัยของคนรุ่นใหม่และเป็นธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินมหาศาลก็ว่าได้แต่ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องของความเชื่อความศรัทธาและเป็นวิจารณญาณของแต่ละบุคคลนั้นๆ

     ครูบาคำฝั้น เล่าว่า ท่านเป็นคนมอญ อพยพตามครอบครัวมาอยู่ที่สันป่าตองเชียงใหม่ และบวชเรียนเป็นตั้งแต่ ปีพ.ศ.2505 และศึกษาพระธรรมคำสอนในฐานะพระสงฆ์ จนปี พ.ศ.2529 จึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดกอโชคจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งมีผู้คนต่างๆหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้หลวงปู่ทั้งชาวจีนและชาวไทยมาขอธรรมะและต้องการที่พึ่งทางใจเพราะบางคนเป็นนักธุรกิจค้าขายต้องการประสบความสำเร็จต้องการโชคลาภ มาขอหลวงปู่อยากให้ทำบางอย่างให้ เช่นต้องการขายบ้านหรือที่ดินโดยมาขอพรจากหลวงปู่และเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือขอของขลังจากพระตามความเชื่อของเค้า

     แต่หลวงปู่ก็แฝงธรรมะให้กับคนเหล่านี้โดยตามคำสอนของพระพุทธเจ้าสิ่งใดที่คิดดีทำดี มีประโยชน์เราก็จะได้รับความจริงและความแน่นอนในสิ่งที่เราปฏิบัติ โดยคนที่ศรัทธาในหลวงปู่เค้าก็จะมาขออนุญาตทำเครื่องรางของขลัง ทำเหรียญ เครื่องรางต่างๆหลวงปู่ก็อนุญาตเพราะนึกว่าใครอยากจะทำก็ทำแต่ขอให้คิดดีทำดี ซึ่งเป็นเรื่องของโยมหลวงปู่ไม่เกี่ยว แค่เขามานิมนต์ให้ไปปลุกเสก ซึ่งก็สวดมนต์ภาวนาและขอให้ทุกคนเป็นคนดีแต่บุคคลเหล่านั้นเขาประสบความสำเร็จ โดยเมื่อนำไปให้คนต่างๆบูชามีหลายคนประสบความสำเร็จสามารถซื้อบ้านราคา 20 กว่าล้านซื้อรถในราคาแพงเค้าทำแล้วเค้าได้ดีจึงเกิดการเล่าลือ และเดินทางมาเพื่อให้หลวงปู่ได้ปลุกเสกในเครื่องรางต่างๆดังที่หลายหลายคนได้ยินมา โดยวัตถุมงคลต่างๆที่จัดสร้าง เช่นตะกรุดนางรับที่ผู้คนรู้จักและต่างพากันมาเช่าไปไว้ติดตัว ซึ่งมีผู้นิยมเช่าหากันมาก ลูกอมท้าวเวสสุวรรณ สีผึ้ง แมลงภู่ เครื่องรางต่างๆเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเมตตามหานิยม

     ซึ่งหากบางคนบอกว่าเป็นเรื่องของการสร้างความงมงายหลวงปู่บอกว่าแล้วแต่ใครจะคิดไม่ว่ากัน ซึ่งทั่วประเทศหลายหลายวัดก็ทำเหมือนกัน โดยหลวงปู่มองว่าวัตถุมงคลเหล่านี้บางทีก็เป็นพลังใจให้กับบุคคลซึ่งบางครั้งท้อแท้โดยที่หากเขาคิดว่าการทำดีไม่ได้ดีการทำชั่วได้ดีนั้นหลวงปู่อยากบอกว่า คนทำชั่วต้องได้รับชั่วและผลกรรมต้องตอบสนอง การทำดีย่อมได้ดีแต่คนสมัยนี้บางครั้งพูดไม่จริงโกหกตอแหล ดังนั้นโยมต้องคิดให้ดีนะทำดีต้องได้ดีตามที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ ทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่วเช่นกัน แต่จิตใจคนเราสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ช่วงชิงกันโกหกหลอกลวง พูดเท็จดังนั้นเราต้องมีสติปัญญาเพื่อที่ไตร่ตรองให้ดี

     ส่วนคนที่เข้ามาเช่าเครื่องรางของขลังของหลวงปู่เป็นเรื่องของความนิยมชมชอบและเขาต้องการพลังใจ ซึ่งวิชาของหลวงปู่เป็นวิชามอญแปลงที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยสมัยคุณปู่ ทวด ตายายอยู่พม่าและถูกไล่มาจนเข้ามาอาศัยใต้ร่มพระบารมีในประเทศไทย เราอพยพกันมาห้าครอบครัวและมาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่บ้านกอโชคสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยหลวงปู่บวชเป็นเณรตั้งแต่ปีพ.ศ. 2500 และบวชเป็นพระในปีพ.ศ. 2505

     หลวงปู่บอกว่าหากใครต้องการเดินทางเพื่อมาหาหลวงปู่ก็ยินดีต้อนรับทุกคน แต่ขอให้มาเพื่อรับธรรมะ มาคารวะกันแต่ถ้าจะมาสังเกตการณ์หรือไม่ชอบกันหลวงปู่ก็บอกว่าเป็นเรื่องนานาจิตตัง ซึ่งหลวงปู่ไม่มีเทคนิคพิเศษอะไรในการดูแลตนเองหลวงปู่เป็นพระธรรมดาที่ปฏิบัติกิจของสงฆ์และไม่เคยคิดว่าตนเองวิเศษวิโสอะไรเลย คนที่เข้ามานับถือหลวงปู่กันเอง ด้วยหลวงปู่ก็คุยและมีเมตตากับทุกคนที่มาวัดด้วยความบริสุทธ์ใจเพื่อเพิ่งบารมีของหลวงปู่และรับธรรมะไปหล่อเลี้ยงจิตใจให้มีพลังในการดำรงตน

     ด้วยวัตรปฏิบัติของหลวงปู่ครูบาคำฝั้น จากที่ท่านพูดคุยนั้น กระแสแห่งความเมตตาจากหลวงปู่ที่ให้กับผู้ที่เดินทางมายังวัดกอโชคด้วยความหวังหรือต้องการที่พึ่งทางใจจึงมีผู้รักและศรัทธาในบารมีเดินทางมาที่วัดก็โชคกันอย่างไม่ขาดสายซึ่งหลวงปู่บอกกับเรา ท่านคือพระธรรมดารูปหนึ่ง ส่วนโยมท่านใดจะยกให้หลวงปู่เป็นเกจิอาจารย์ครูบาแห่งล้านนาหรืออะไรก็ตามเป็นเรื่องของโยมซึ่งหลวงปู่อยู่ในเพศบรรพชิตมาถึง65 พรรษาแล้ว

     ก่อนที่เราจะกราบนมัสการลากลับหลวงปู่ พระนักบุญแห่งล้านนา ได้อำนวยแก่ผู้ที่รับชมและอ่านนิตยสาร CHANGE-into ตลอดจนทุกท่านว่า ‘หลวงปู่ขออนุโมทนาส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญบารมีมาทั้งหมด…

     ขอให้โยมลูกหลานทั่วทุกคนจงประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งยิ่งขึ้นไปอยู่เย็นเป็นสุขอายุมั่นขวัญยืนตลอดปี 2565 เทอญ.