“รมว.พลังงานอาจจะเข้าข่ายประพฤติมิชอบทำให้รัฐเสียหายหรือไม่?กรณีเปิดประมูลบงกชเอราวัณโดยไม่ตรวจสอบคุณสมบัติเชฟรอน”
รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยืนยันเปิดซองประมูลบงกช เอราวัณในวันที่25 ก.ย 2561 โดยมี 5 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นเข้ายื่นซองประมูล
กรณีบริษัทเชฟรอนซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานในแหล่งเอราวัณได้มีการ
กระทำความผิดคือบริษัทเชฟรอน(ไทย)มีการขายน้ำมันเถื่อนให้กับบริษัทเชฟรอนสำรวจและผลิต(เชฟรอน สผ.) ที่นำน้ำมันใช้บนแท่นและมาใช้ในเรือสนับสนุ (supply boat )มาวิ่งรับส่งอุปกรณ์และพนักงานระหว่างแท่นขุดเจาะที่เอราวัณกับแผ่นดินใหญ่ และถูกจับได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ที่ด่านสงขลา พบน้ำมันเถื่อน 1.6 ล้านลิตร มูลค่า48 ล้านบาท
เชฟรอนขอระงับคดีกับกรมศุลกากรโดยยอมให้ยึดน้ำมันจำนวน1.6 ล้านลิตร มูลค่า48ล้านบาท ซึ่งอธิบดีกรมศุลกากรให้ข่าวในเดือนสิงหาคม 2561 ว่าได้ส่งรายได้48 ล้านบาทเป็นรายได้แผ่นดินแล้ว แสดงว่าคดีสิ้นสุดโดยสมบูรณ์แล้วว่าบริษัทเชฟรอนยอมรับผิดในพฤติกรรมซื้อขายและใช้น้ำมันเถื่อนโดยเกิดขึ้นเฉพาะที่แท่นขุดเจาะเอราวัณ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะเปิดประมูลรอบใหม่
พฤติกรรมของเชฟรอนที่มีการขายน้ำมันเถื่อน และนำน้ำมันเถื่อนมาใช้ที่แท่นเอราวัณ และในเรือสนับสนุนที่ใช้วิ่งในอ่าวไทยย่อมเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อสาธารณประโยชน์หรือกระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจหรือประโยชน์สุขของประชาชนอันเป็นคุณสมบัติของผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศไทย ที่กำหนดไว้ในสัญญาสัมปทานฉบับปัจจุบันว่ามีผลในการยกเลิกเพิกถอนสัมปทานในแหล่งดังกล่าวคือเอราวัณด้วย ใช่หรือไม่
การที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยืนยันจะเปิดซองประมูลของผู้ผ่านคุณสมบัติ5ราย ซึ่งมีเอกชนที่มีคุณสมบัติเบื้องต้นขัดต่อข้อกำหนดที่ว่าต้องไม่มีพฤติกรรมขัดต่อสาธารณประโยชน์หรือกระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจหรือประโยชน์สุขของประชาชน ย่อมแสดงว่ากระทรวงพลังงานไม่ได้พิจารณาคุณสมบัติต้องห้ามดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ซึ่ง อาจเข้าข่ายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ยิ่งกว่านั้นหากการเปิดซองประมูลโดยรับรองคุณสมบัติของบริษัทเชฟรอน แล้วต่อมาต้องเพิกถอนคุณสมบัติของเชฟรอน อาจทำให้รัฐเสียค่าโง่ โดยถูกบริษัทเชฟรอนฟ้องร้องได้ในภายหลัง ใช่หรือไม่???
ทั้ง2กรณีย่อมทำให้รัฐมีความเสี่ยง และรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานอาจจะเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติมิชอบ ที่ทำให้รัฐได้รับความเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 ใช่หรือไม่
ดิฉันขอเรียนรัฐมนตรีพลังงานด้วยความเคารพว่า หากท่านยังคงยืนยันดำเนินการต่อไป ดิฉันก็มีความจำเป็นต้องกล่าวโทษท่านต่อปปช. ต่อไป และหากท่านเชื่อมั่นว่ารัฐบาลคสช.จะมีอำนาจคุ้มครองท่านตลอดไป ก็ขอให้โปรดระลึกถึงคดีที่อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลที่แล้ว ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุกอดีตนายกรัฐมนตรีในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา157 และอดีตรัฐมนตรีบางคนก็ถูกจำคุกอยู่ในขณะนี้
ดิฉันเคยตรวจสอบและติดตามกรณีการทุจริตยาในกระทรวงสาธารณสุขเป็นเวลา6ปี กล่าวโทษและทำให้อดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขในคดีทุจริตยาถูกยึดทรัพย์ และถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา15ปีมาแล้ว
และกรณีนี้ ดิฉันยืนยันว่าจะติดตามปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนจนถึงที่สุด
รสนา โตสิตระกูล
23 ก.ย 2561