“อนุญาตโฆษณากัญชา โดยไม่อนุญาตคนไทยปลูก เพื่อสอดรับการนำเข้ากัญชาจากบริษัทต่างชาติ ใช่หรือไม่!?”

“อนุญาตโฆษณากัญชา โดยไม่อนุญาตคนไทยปลูก เพื่อสอดรับการนำเข้ากัญชาจากบริษัทต่างชาติ ใช่หรือไม่!?”

 

 

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

“อนุญาตโฆษณากัญชา โดยไม่อนุญาตคนไทยปลูก เพื่อสอดรับการนำเข้ากัญชาจากบริษัทต่างชาติ ใช่หรือไม่!?”

 

ข่าวว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบ หลักการร่างกฎกระทรวง ของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องขออนุญาต – ออกใบอนุญาตโฆษณากัญชา โดยวางหลักเกณฑ์ 6 ข้อนั้น


มีคำถามว่าเหตุใดต้องรีบร้อนออกกฎกระทรวงเรื่องนี้ ทั้งที่เวลานี้ยังไม่อนุญาตให้คนไทยปลูก จึงมีคำถามว่าที่รีบอนุมัติการออกกฎกระทรวงโฆษณากัญชา เพื่อสอดรับกับการนำเข้ายากัญชาเพื่อการค้าจากบริษัทยาต่างชาติ ใช่หรือไม่?


ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้หรือไม่?ว่า การอนุมัติโฆษณากัญชาสอดคล้องกับข่าวคำให้สัมภาษณ์ของรองเลขาธิการ อ.ย เมื่อ2-3อาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. ชี้แจงว่า จากข้อมูลผู้มาแจ้งครอบครองมีประมาณ 22,000 คน ร้อยละ 90 แจ้งว่าเป็นผู้ป่วย เบื้องต้นน่าจะประมาณ 2,000-3,000 คน ที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชาเร่งด่วน...โดยเป็นการนำเข้ากัญชาในช่วงสั้นๆ ตามข้อสั่งการของคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และ รมต.ยุติธรรมเป็นประธาน ซึ่งได้สั่งการให้สามารถนำเข้ากัญชาได้หากมีความจำเป็นในการนำมาให้ผู้ป่วยระหว่างที่รอผลผลิตตามกฎหมาย”
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/835841


อันที่จริง ภารกิจของอย.น่าจะรีบสนับสนุนให้กลุ่มนักวิจัยได้รับอนุญาตเพื่อเดินหน้าการวิจัยต่อไปโดยเร็ว หมอยาพื้นบ้านหรือตำรับยาพื้นบ้านควรจะได้รับการรับรองโดยเร็ว การรับรองตำรับยาแผนไทย ควรผลักดันให้มีการผลิตยากัญชาเพื่อการพึ่งพาตนเองในประเทศก่อน ไม่ใช่เตรียมการนำเข้า และวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์การเกษตรควรจะได้รับอนุญาตให้ปลูกวัตถุดิบกัญชาโดยเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกประกาศหลักเกณฑ์ให้คนไทยสามารถปลูกกัญชาได้ และยังไม่มีหน่วยงานใดที่มีงานวิจัยกัญชา ที่สามารถผลิตเป็นยาออกมาใช้กับผู้ป่วยได้


การรีบร้อนออกกฎกระทรวงในการโฆษณากัญชานั้น จึงถูกตั้งข้อสงสัยว่า น่าจะเป็นการเกื้อหนุนการโฆษณาในทางการค้าของบริษัทยาต่างชาติ ที่มีความพร้อมในการนำเข้าตามกฎกระทรวง 6ข้อดังกล่าว เช่น บริษัท GW ฟาร์ม่า ที่เคยมาขอสิทธิบัตรกัญชา และถูกคัดค้านจากประชาชน จนคสช.ต้องออกมาตรา44 ให้กรมทรัพย์สินทางปัญญายกเลิกคำขอสิทธิบัตรกัญชาของบริษัทดังกล่าว ใช่หรือไม่?


นี่อาจเป็นนิทานเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ของรัฐบาล ใช่หรือไม่ ?ที่เมื่อไม่สามารถเปิดทางให้บริษัทต่างชาติได้สิทธิบัตรกัญชาก่อนคนไทย ก็ให้นำเข้ายาของบริษัทเหล่านั้นมาใช้เสียเลย หลังจากนั้นบริษัทยาอาจจะอ้างสิทธิว่ายาที่นำเข้ามาใช้เป็นยามีสิทธิบัตรที่นักวิจัยไทยไม่สามารถพัฒนาตำรับยาในแบบเดียวกับเขา และอาจจะถูกกล่าวหาฟ้องร้องว่าลอกเลียนสิทธิบัตรของเขาได้หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่หน่วยงานรัฐต้องตอบคำถามนี้ โดยสุจริตและอย่างตรงไปตรงมา


รสนา โตสิตระกูล
19 มิ.ย 2562

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2629410