รำลึก150ปี มหาตมะคานธี ผู้นำปฏิวัติโลกด้วยสัจจะ ความรัก และอหิงสา

รำลึก150ปี มหาตมะคานธี ผู้นำปฏิวัติโลกด้วยสัจจะ ความรัก และอหิงสา

 

 

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล
 
 

 

รำลึก150ปี มหาตมะคานธี ผู้นำปฏิวัติโลกด้วยสัจจะ ความรัก และอหิงสา

 

 

 

เมื่อวานนี้(4 ตุลาคม 2562) ดิฉันได้ร่วมฉลองชาตกาล 150 ปี มหาตมะคานธี และวันสันติวิธีสากล(International Day of Non-Violence)ที่UN มีพี่น้องและเด็กๆเยาวชนชาวอินเดียมาร่วมงานเป็นส่วนใหญ่ มีการฉายประวัติท่านคานธีและการประกวดวาดภาพของเด็กเกี่ยวกับคุณูปการของมหาตมะคานธี ซึ่งเหลือเชื่อมากว่าเด็กอายุ11-15ปีหลายคนรังสรรค์ภาพและสะท้อนความคิดแบบที่มืออาชีพเห็นแล้วต้องทึ่ง

 

สำหรับดิฉัน มหาตมะคานธี เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานทางสังคมของดิฉัน มหาตมะคานธีกล่าวว่า ในชีวิตของเรามีเพียง2เรื่องที่สำคัญ ทางกายภาพคือการประกอบอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีวะ และทางจิตใจด้านใน คือการขัดเกลาให้ลดความเห็นแก่ตัว

การต่อสู้เพื่อเอกราชของอินเดีย มหาตมะคานธีให้ความสำคัญกับเอกราชทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับเอกราชทางการเมือง ดังที่คานธีทำสัตยาเคราะห์นำพาผู้คนทำเกลือใช้เอง และเผาเสื้อผ้าที่นำเข้ามาจากอังกฤษ

 

และรณรงค์ให้ชาวอินเดียหันกลับมาทอผ้าพื้นเมืองคาดี้เพื่อใช้เองอย่างแพร่หลาย  ถ้อยคำที่จับใจดิฉันตลอดมาคือ คืออินเดียจะรอดได้มิใช่ด้วยการผลิตขนาดใหญ่ (Mass Production) แต่อินเดียและโลกจะรอดได้ด้วยการผลิตโดยคนส่วนใหญ่ (Production by the Mass)

 

อาจกล่าวได้ว่านอกจากมหาบุรุษของอินเดียที่มีอิทธิพลต่อดิฉันมากที่สุดคือองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ที่รองลงมาคือมหาตมะคานธี ซึ่งทั้งสองท่านช่วยเปิดดวงตาภายในของดิฉันให้เห็นแสงแห่งความจริงอันประเสริฐ โดยพระบรมศาสดาทรงสอนเรื่องอริยสัจ4 เพื่อการดับทุกข์ในใจ ส่วนมหาตมะคานธีสอนเรื่องสัตยาเคราะห์ คือการใช้ขบวนการแห่งสัจจะเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น

 

ดิฉันไม่เคยสงสัยในสันติวรบทของพระพุทธองค์และสันติวิธีของมหาตมะ
คานธีว่าเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยมวลมนุษย์ให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้
แต่ดิฉันก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ในโลกยุคปัจจุบันยังมีผู้นำรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่นใน
แนวทางสันติวิธี และสัตยาเคราะห์หลงเหลืออยู่หรือไม่

รสนา โตสิตระกูล
5 ต.ค 2562