“ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงงบ 6,100 ล้านบาทที่ใช้จัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่

“ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงงบ 6,100 ล้านบาทที่ใช้จัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่

 

 

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล
 
 
“ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงงบ 6,100 ล้านบาทที่ใช้จัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่
เปลี่ยนมาใช้จ่ายในการรบกับเชื้อไวรัสโควิด-19 แทน”
 
 
 
 
ข่าวจากสื่อมวลชนรายงานว่าการประชุมครม.วันนี้ (31 มีนาคม 2563) ในการประชุมมีวาระที่รมช.กลาโหม ขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำ โดย ในสัญญาการต่อเรือแอลพีดี ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก 1 ลำ คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 6,100 ล้านบาท ในข่าวไม่ได้รายงานว่า ครม.มีมติอนุมัติหรือไม่
 
 
ดิฉันเชื่อว่าประชาชนที่รับทราบข่าวนี้ คงไม่สบายใจหากรัฐบาลจะอนุมัติงบประมาณเพื่อจัดหาเรืออเนกประสงค์ดังกล่าวในช่วงวิกฤติโควิดนี้ และเชื่อว่าประชาชนจะยินดีมากกว่า ถ้ารัฐบาลจะใช้งบฯดังกล่าวเพื่อเป้าหมายการสู้รบในสงครามโควิดและสงครามเศรษฐกิจให้ได้ชัยชนะเสียก่อน
 
 
 
ในการทำสงครามกับเชื้อไวรัสโควิดครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งรัฐบาลต้องใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมากเพื่อการนี้
 
 
ปัจจุบันมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่ระบบการรองรับผู้ป่วยของเรายังไม่เพียงพอต่อการขยายตัวของผู้ป่วย เรายังต้องการ ร.พ สนามจำนวนมากกว่านี้ที่จะรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น เรายังต้องการเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ในห้องICU เช่น เครื่องช่วยหายใจ ห้องความดันลบที่ป้องกันการแพร่เชื้อ รวมทั้งยาต้านไวรัสโควิดที่มีราคาแพง ซึ่งปัจจุบันยังต้องระดมทุนจากประชาชนในการจัดซื้อ
 
 
เรายังต้องการอาวุธหรืออุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันนักรบของเราคือแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข ได้แก่ชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อจำนวนมาก เรายังต้องการหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 เป็นต้น ทั้งสำหรับบุคลากรสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่นและสำหรับประชาชน ที่ยังขาดแคลนไม่เพียงพอ และต้องขอระดมจากประชาชนอีกเช่นเดียวกัน
 
 
เรายังต้องการการจัดระบบเฝ้าระวัง หรือ การเอ็กซเรย์โรคเชิงรุกในการค้นหาผู้ติดเชื้ออย่างเข้มข้น เพื่อให้รู้จำนวนผู้มีโอกาสแพร่เชื้อและแยกคนเหล่านี้ออกมาอยู่ในสถานที่ที่ควบคุมได้แน่นอน เพื่อลดจำนวนการแพร่เชื้อในวงกว้างได้อย่างแท้จริง โดยศึกษาตัวอย่างจากประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมโรค ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนไม่น้อย
 
 
ในการทำสงครามกับเชื้อโรคครั้งนี้ รัฐบาลต้องการงบประมาณจำนวนมากในการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบเพื่อสอดรับกับมาตรการทางสังคมและภาวะฉุกเฉินที่รัฐบาลประกาศใช้
 
 
 
ดิฉันเชื่อว่าประชาชนจะเห็นด้วยกับท่านนายกรัฐมนตรีหากจะมีการประกาศให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการว่าครม.ได้มีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ในขณะนี้ รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้างด้านอื่นๆที่ยังไม่จำเป็นเร่งด่วน มาเป็นงบประมาณเพื่อเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพในการทำสงครามรบกับเชื้อโควิดเป็นหลัก
 
 
รสนา โตสิตระกูล
31 มีนาคม 2563