'รสนา' แนะรัฐใช้ระบบเน็ตมิเตอร์ริ่งซื้อไฟโซลาร์ภาคประชาชน

'รสนา' แนะรัฐใช้ระบบเน็ตมิเตอร์ริ่งซื้อไฟโซลาร์ภาคประชาชน

 

 

 

 

 

 

  

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

 

'รสนา' แนะรัฐใช้ระบบเน็ตมิเตอร์ริ่งซื้อไฟโซลาร์ภาคประชาชน

 

 

“รสนา” แนะรัฐวางเกณฑ์ใหม่โซลาร์ประชาชน ควรส่งเสริมระบบ NET METERING พร้อมจี้ กกพ. คลายเงื่อนไขต้องใช้วิศวกรระดับสูงต้องตรวจเข้มอาคารชี้เพิ่มภาระผู้ติดตั้ง ด้าน กกพ. เร่งถก 2 การไฟฟ้า ก่อนออกประกาศรับซื้อฯในช่วงไตรมาส 1

 

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) เปิดเผยว่า คปพ.อยู่ระหว่างติดตามการปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย หรือ โครงการโซลาร์ภาคประชาชน จากทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้

 

โดยมองว่า ตามคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2563 ที่ให้ปรับเพิ่ม ราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากกลุ่มบ้านผู้อยู่อาศัย เป็น 2.20 บาทต่อหน่วย จากเดิมรับซื้อในราคาไม่เกิน 1.68 บาทต่อหน่วย และมีเป้าหมายการรับซื้อ 50 เมกะวัตต์ ระยะเวลารับซื้อ 10 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 นั้น ในส่วนนี้ ภาครัฐควรส่งเสริมให้ใช้ ระบบ NET METERING หรือ วิธีการหักกลบหน่วยอัตโนมัติจากไฟฟ้าที่ผลิตจาโซลาร์ใช้เองบนหลังคากับไฟฟ้าที่ใช้จากการไฟฟ้าแล้ว เพื่อให้กลุ่มบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปผลิตไฟฟ้าใช้เองเป็นหลัก เกิดการประหยัดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน
 
 
 
 
 
อีกทั้ง หากภาครัฐต้องการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในภาคประชาชนจริง ทาง กกพ.ก็ควรผ่อนคลายเงื่นไขที่กำหนดให้ต้องมีวิศวกรระดับสูงเข้ามาตรวจเข้มความพร้อมของอาคาร เพราะตรงนี้จะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

 

“หากรัฐบาล เร่งสนับสนุนการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัวจากผลกระทบโควิด-19 นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่าย เสริมรายได้แล้ว ยังก่อให้เกิดการจ้างงานแก่ นักศึกษา ปวช. ปวส.ที่จะมาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป และเกิดเป็นธุรกิจใหม่ New Normal และยังเป็นการใช้พลังงานสะอาด”