“กทม.หมดปัญญาแล้วหรือ!?ที่จะทำราคารถไฟฟ้าเพื่อบริการสาธารณะถ้วนหน้า”

“กทม.หมดปัญญาแล้วหรือ!?ที่จะทำราคารถไฟฟ้าเพื่อบริการสาธารณะถ้วนหน้า”

 

 

 

 

 

 

  

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

“กทม.หมดปัญญาแล้วหรือ!?ที่จะทำราคารถไฟฟ้าเพื่อบริการสาธารณะถ้วนหน้า”

 

 

ดูอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าของประเทศต่างๆ เทียบกับอัตราค่าแรงต่อชั่วโมงของแต่ละประเทศ จะพบว่าค่ารถไฟฟ้าของไทยมีราคาแพงสุดๆเมื่อเทียบกับอัตราค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมง
ขอบคุณภาพเปรียบเทียบของ mangozero ที่ทำไว้เมื่อปี 2562 นี่ถ้ากทม.ปรับขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียว เป็น 104บาทตลอดสาย ราคาค่ารถไฟฟ้าของกทม.คงพุ่งสูงกว่าสถิติโลกมากนี้อีก

 

การที่ราคาค่ารถไฟฟ้าของกทม.แพงทะลุเพดานกว่าประเทศต่างๆ เพราะใช้สูตรคิดราคาค่าโดยสารที่ไม่มีใครเขาทำกัน คือเอาทุนค่าก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ไปบวกรวมกับค่าใช้จ่ายการเดินรถ พูดให้เห็นภาพง่ายๆคือ หากใครอุตริเอาต้นทุนค่าก่อสร้างถนน บวกลงไปในค่าโดยสารรถเมล์ จะเกิดอะไรขึ้น!?

 

 

ถ้ารัฐบาลและกทม.เปลี่ยนวิธีคิดว่าระบบราง และระบบโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟฟ้าก็คือถนน ที่รัฐบาลต้องใช้ภาษีอากรมาสร้าง ไม่ใช่ให้เอกชนได้สัมปทานสร้างถนน และเดินรถไปพร้อมกัน ด้วยวิธีคิดแบบนี้ จึงทำให้ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพงไปเรื่อยๆ เมื่อให้สัมปทานสร้างถนนบวกเดินรถกับเอกชน เอกชนลงทุนย่อมต้องการกำไรสูงสุด ค่าโดยสารจึงแพง ทั้งที่หน่วยงานรัฐควรเป็นผู้กำหนดราคาค่าโดยสาร ก็ไม่สามารถกำหนดค่าโดยสารที่เป็นธรรมต่อประชาชนได้ กลายเป็นว่ารถไฟฟ้าที่ควรเป็นขนส่งสาธารณะที่ทุกคนสามารถใช้ได้ เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลบนท้องถนน กลับกลายเป็นว่ารถไฟฟ้าเป็นแค่ทางเลือกสำหรับคนที่มีฐานะพอจ่ายได้

 

ถ้ากทม.คิดใหม่ในทิศทางว่ารถไฟฟ้าคือสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ต้องทำให้ราคาอยู่ในความสามารถที่ประชาชนทุกคนใช้บริการได้ จึงจะเปลี่ยนแปลงความอับจนปัญญาในขณะนี้ได้ เพราะ
“วิธีคิดเป็นตัวกำหนดวิธีการ”

 

และถ้าจะพูดให้ถูกต้องขึ้นไปอีกก็คือ “วิธีคิด ประสิทธิภาพ และธรรมาภิบาลเป็นตัวกำหนดวิธีการ” ว่ารัฐบาลท้องถิ่นทำเพื่อใคร?
รสนา โตสิตระกูล
22 มกราคม 2564