ในสถานการณ์โควิด 19 ของประเทศไทย ทำไมต้องฟ้าทะลายโจร?

ในสถานการณ์โควิด 19 ของประเทศไทย ทำไมต้องฟ้าทะลายโจร?

 

 

 

 

 

 

  


CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

ในสถานการณ์โควิด 19 ของประเทศไทย ทำไมต้องฟ้าทะลายโจร?

 

แน่นอน ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเครื่องมือหลักในการแก้ปัญหาโควิด 19 ที่ชาวไทยและคนทั้งโลกกำลังรอคอย คือ วัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโควิด 19 แต่ก็มีสุภาษิตไทยเตือนใจว่า “อย่าหวังนำ้บ่อหน้า”เช่น วัคซีนจากต่างแดน จนลืม”สิบเบี้ยใกล้มือ”อย่างฟ้าทะลายโจรใกล้ตัว

 

สำหรับดิฉันเองที่เคยมีประสบการณ์ตรงกับฟ้าทะลายโจรมาอย่างยาวนาน เพราะเคยอยู่ในทีมเก็บข้อมูลการใช้จริงของชาวบ้าน และนักวิจัยในไทย จำได้ว่าประทับใจเมื่อมีสมาชิกเก่าแก่ของโครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเองท่านหนึ่งได้บอกชื่อฟ้าทะลายโจรในภาษาจีนกลางว่า “ชวนซินเหลียน” ‘ชวน’ แปลว่า สวมใส่, ‘ซิน’ แปลว่า หัวใจ , ‘เหลียน’ แปลว่า ดอกบัว รวมความแล้วแปลว่า”ดอกบัวอยู่ในหัวใจ” ซึ่งมีความหมายที่ดีงาม เป็นมงคลกับชีวิต ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรแก้ไข้ที่ใช้กันแพร่หลายในจีนและอินเดีย วงการแพทย์จีนได้จัดยาฟ้าทะลายโจรขึ้นทำเนียบยาตำราหลวงที่มีสรรพคุณโดดเด่นมากตัวหนึ่ง ส่วนอินเดีย 

 

นอกจากสรรพคุณแก้ไข้แล้ว ยังใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาบำรุงในระยะพักฟื้นหลังจากหายไข้ด้วย กล่าวเฉพาะฤทธิ์แก้ไข้ของฟ้าทะลายโจร ทางโครงการสมุนไพรของเราได้สัมภาษณ์ประสบการณ์จากคนที่ใช้จริงว่า ฟ้าทะลายโจรใช้ได้ดีกับไข้หวัดชนิด ”หวัดร้อน”คือ คนไข้มีอาการอุ้งมืออุ้งเท้าร้อน ลมหายใจร้อน ขอบตาร้อน กระหายน้ำ ไอ เจ็บคอ ร้อนผ่าวในลำคอ ปัสสาวะสีเข้มจัด ท้องผูก ถ้ามีอาการลักษณะนี้ใช้ฟ้าทะลายโจรในขนาด วิธีใช้ตามมาตรฐานได้เลย โดยเฉพาะถ้าชงใบฟ้าทะลายโจรกับน้ำร้อนเพียงแก้วแรก หลังจากนั้นสักหนึ่งชั่วโมงเหงื่อจะออกท่วมตัว ไข้สงบลง กินยาภายใน 3 วันอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จะทุเลาลงจนหายขาด ถ้ากินฟ้าทะลายโจรภายใน3วันแล้ว หากอาการไข้ไม่ทุเลาลง แสดงว่าไม่ใช่หวัดน้อย หวัดใหญ่ธรรมดา ต้องพบแพทย์เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็นจัดอันเป็นคุณสมบัติของยารสขมทั่วไป จึงไม่เหมาะกับคนไข้ที่มีอาการหนาวสะท้านท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน 

 

ถ้าจะใช้ฟ้าทะลายโจรกับคนไข้ที่เป็น ”หวัดเย็น” ต้องใช้สูตรตำรับผสมพริกไทย คือผงฟ้าทะลายโจร 1 1/2 ช้อนชา ผสมผงพริกไทยล่อน 1/2 - 1 ช้อนชา ตามสภาพคนไข้ กินยาสูตรนี้ 1 ช้อนชา ละลายกระสายน้ำผึ้งวันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน ไข้หวัดหนาวสะท้านจะทุเลาลงที่เล่าประสบการณ์ข้างต้นก็เพื่อตอบโจทย์ข้อแรกว่า ทำไมต้องใช้ฟ้าทะลายโจรแก้ไข้ ไอ เจ็บคอ ในสภาพอากาศเย็นและเต็มไปด้วยฝุ่นจิ๋วPM 2.5 ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการไข้จากโรคทางเดินหายใจ ไข้หวัดธรรมดา ที่ไม่ใช่ไข้โควิด 19 ฟ้าทะลายโจรก็เป็นยาทางเลือกที่ใช้รักษาได้ใน 3 วันแรก หากไข้ไม่ทุเลาก็ส่งต่อแพทย์ได้

 

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่คุ้นเคยและไม่เชื่อถือยาสมุนไพร ก็ต้องขอบอกกล่าวในที่นี้ว่า ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีงานวิจัยรับรองทั้งทางด้านเภสัชกรรมและทางคลินิกมากที่สุดตัวหนึ่ง ดิฉันจำได้ว่าในประเทศไทยเราเอง สามารถสกัดสารแอนโดรกราโฟไลด์จากฟ้าทะลายโจรมาตั้งแต่ปี2532แล้วโดย ดร.เภสัชกรชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ แห่งคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ท่านยังเคยให้ข้อมูลวิจัยของท่านแก่โครงการสมุนไพรฯของเราว่า ในใบฟ้าทะลายโจรมีสารโปแตสเซี่ยมอยู่เป็นจำนวนมากถึงร้อยละ 3 ของใบแห้ง ทำให้มีฤทธิ์ขับปัสสาวะได้ดี ใช้เป็นยารักษาโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและใช้ลดความดันโลหิตสูงได้ ดังนั้นขณะใช้ยาฟ้าทะลายโจร ต้องระวังไม่ให้ใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ และยาลดความดันโลหิต

 

 

 

 

ที่ยังไม่ลืมคือ คณะเภสัชฯจุฬาฯนี้เขามีการทดลองพิษวิทยาว่าฟ้าทะลายโจรมีพิษข้างเคียงต่อการสืบพันธุ์หรือเปล่า เขาทดลองให้หนูตัวผู้กินยาฟ้าทะลายโจรขนาดสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน แล้วเอาหนูที่ได้รับยามากนี้ไปผสมพันธุ์กับหนูตัวเมียที่ไม่ได้รับยา พบว่าหนูตัวเมียตั้งท้อง ลูกที่ออกมาเป็นปกติทุกตัว
ในปี2532นั้นเอง มีการศึกษาพิษวิทยาของฟ้าทะลายโจร ที่น่าสนใจมากโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีการทดลองในหนูขาวเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งหนูออกเป็น4 กลุ่มๆละ24ตัว กลุ่มที่1 เป็น กลุ่มเปรียบเทียบไม่ได้กินฟ้าทะลายโจร กลุ่มที่2,3,4,ให้กินฟ้าทะลายโจรเทียบเท่ากับ 1, 10 และ 20 เท่าของขนาดที่ใช้สำหรับการรักษาคนไข้ ให้หนูกินยาทางปากนานถึง 6 เดือน ปรากฏว่าหนูทุกกลุ่มมีการเจริญเติบโตเป็นปกติ เมื่อตรวจสอบเลือดและอวัยวะภายในสำคัญ ได้แก่ สมอง หัวใจ ตับ ไต ไม่พบความผิดปกติที่ชัดเจน และหนูทุกตัวมีการเจริญของอัณฑะและรังไข่เป็นปกติ
รายงานนี้มีบทสรุปว่า”ผลการทดสอบความเป็นพิษ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ไม่พบความเป็นพิษหรืออาการข้างเคียงใดๆในสัตว์ทดลอง”

 

จากตัวอย่างผลการทดลองทางพิษวิทยาของไทยดังกล่าว จึงตอบโจทย์อีกข้อหนึ่ง ว่าทำไมจึงต้องเลือกใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยารักษาอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ในวงกว้างเพราะตอบโจทย์ ความปลอดภัยได้ แต่ก็ต้องศึกษาความเป็นพิษในคนต่อไปเพื่อการใช้ยาในขนาดที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับมนุษย์
ตรงบรรทัดนี้ ดิฉันขอย้ำถึงศักยภาพของฟ้าทะลายโจรในการรักษาโรคโควิด 19 ซึ่งทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมกับสถาบันวิจัยของรัฐแห่งอื่นๆกำลังทำการศึกษาทดลองนำร่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และปีใหม่ 2564 ก็มีการศึกษาวิจัยต่อเนื่องเรื่องการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 เป็นจำนวนมากขึ้น และยกระดับเป็นการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบการใช้ฟ้าทะลายโจรกับยาหลอก ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ทางกรมการแพทย์แผนไทยฯได้มีการเผยแพร่คลิปประชาสัมพันธ์ความก้าวหน้าของโครงการศึกษาวิจัยดังกล่าว นับเป็นบทบาทของภาครัฐที่ควรสนับสนุนอย่างยิ่งเพื่อพัฒนาศักยภาพของยาไทยต้านภัยโควิด 19 โดยบูรณาการกับการใช้ยาและวัคซีนที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะการหวังพึ่งความทันสมัยจากภายนอกโดยที่ไม่พัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ของเราพร้อมกันไปด้วยนั้น ย่อมไม่สามารถตอบโจทย์วิกฤตสุขภาพและวิกฤตเศรษฐกิจที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

 

 

 

สถานการณ์สุขภาพอันซับซ้อนในโลกปัจจุบัน การใช้การแพทย์เชิงเดี่ยวไม่สามารถตอบโจทย์สุขภาพของสังคมได้ รวมทั้งวิกฤตโควิด19 และวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ ฟ้าทะลายโจรเป็นวิถีแพทย์ทางเลือกจากภูมิปัญญาไทยที่มวลชนคนธรรมดาสามัญสามารถเข้าถึงและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในการดูแลสุขภาพของตนเอง ของครอบครัว และชุมชน จนสามารถขับเคลื่อนให้”เราชนะ”ไปด้วยกันได้โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแท้จริง

 

รสนา โตสิตระกูล
29 มกราคม 2564
คลิปสัมภาษณ์ ผอ.กองการแพทย์ทางเลือก และผอ.สนง.วิจัยการแพทย์แผนไทย เรื่องงานวิจัย ฟ้าทะลายโจร (26 มกราคม 2564)