“ปลดปล่อยใบ-ราก-กิ่งกัญชาสู่ภูมิปัญญาอาหารไทย”

“ปลดปล่อยใบ-ราก-กิ่งกัญชาสู่ภูมิปัญญาอาหารไทย”

 

 

 

 

 

 

  

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

“ปลดปล่อยใบ-ราก-กิ่งกัญชาสู่ภูมิปัญญาอาหารไทย”

 

ประเทศไทยอาจจะเป็นประเทศเดียวที่ใช้ใบ,ราก,กิ่งกัญชาประกอบอาหาร เพราะส่วนประกอบกัญชาช่วยให้เกิดรสชาติอาหารโดยไม่ต้องใช้ผงชูรส ใบกัญชาปรุงเมนูอาหารพบทั้งภาคกลาง ภาคเหนือและภาคใต้ และปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษรว่ากัญชาอยู่ในตำรับอาหารคือ “ตำราแม่ครัวหัวป่าก์”โดยท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ซึ่งเป็นถึงอุปนายิกาสภากาชาดไทย นอกจากนั้นมีคำบอกเล่าของชาวบ้านสุโขทัยว่ามีการใช้ใบกัญชาและรากกัญชาใส่ในน้ำแกงต่างๆ ในก๋วยเตี๋ยวกันมาหลายชั่วอายุคน โดยเฉพาะช่วงลงแขกทำนา เก็บข้าวโพด การใช้กัญชาปรุงอาหารทำให้เจริญอาหารและอารมณ์ดี
ส่วนที่ใช้ปรุงยานั้นมีหลายตำรับที่สืบย้อนกลับไปได้ถึง300ปี ในยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเช่นตำรับศุขไสยาสน์ ช่วยให้นอนหลับสบาย

 

หลังจากที่ต่างประเทศได้ขึ้นบัญชีกัญชาเป็นยาเสพติด ประเทศไทยก็ได้ออกกฎเสนาบดีประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติด เมื่อปี 2468 การใช้กัญชาอย่างเปิดเผยก็หยุดไป แต่แพทย์แผนไทยยังได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชาเพื่อปรุงยารักษาคนไข้เฉพาะรายของตน จนกระทั่งหลังประกาศใช้พ.ร.บ ยาเสพติดให้โทษ 2522 กัญชาก็ถูกห้ามใช้โดยเด็ดขาด แม้แต่หมอไทยที่เคยใช้ปรุงยา ก็ถูกห้ามเด็ดขาด
อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยเรื่องยาเสพติดให้โทษ ปี 1961 (พ.ศ 2504) ในบทนิยามได้ให้ความหมายกัญชาที่เป็นยาเสพติดว่า “ กัญชา หมายความว่า ยอด ดอก หรือผลของต้นกัญชา(แต่ไม่รวมถึงเม็ดหรือใบซึ่งไม่มียอดติดอยู่ด้วย)ที่ยังไม่ได้สกัดยางไม้ออก

 

ประเทศไทยเมื่อมีพ.ร.บ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ 2522 ก็ไม่ได้กำหนดนิยามตามในอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ 1961 ที่ไม่รวมใบกัญชาและเมล็ดอยู่ในสารเสพติด เพราะไม่มีสารเมาTHC แต่ข้าราชการไทยอาจจะเป็นพวกทำอะไรแบบอำนาจนิยมชอบใช้อำนาจเกินขอบเขตอย่างที่เคยมีคนตั้งข้อสังเกตไว้ ดังนั้นในกฎหมายไทยเลยสั่งห้ามใช้กัญชาไปทุกส่วนเสียเลยเพราะขี้เกียจแยกแยะ และมีอำนาจเยอะดี นอกจากนั้นก็ไม่สนใจทำวิจัยหรือใช้กัญชาทางการแพทย์เหมือนประเทศอื่นๆ ที่เขาไม่เคยมีการบริโภคกัญชาอยู่ในวิถีชีวิตของเขามาก่อนเลย ปล่อยให้แพทย์ชาวอิสราเอลกลายเป็นบิดากัญชาโลก ได้รับรางวัลโนเบลเพราะพบสารความสุข อนันดามายด์ ทั้งที่การแพทย์แผนไทยมีภูมิปัญญาการใช้กัญชาทั้งทางการแพทย์ และการดูแลสุขภาพ มา 300 ปี อนุสัญญาเดี่ยวก็เปิดช่องไว้ให้ ส่วนประเทศตะวันตกที่ออก อนุสัญาเดี่ยวฯ ก็พากันวิจัยกัญชาจนจดสิทธิบัตรกัญชากันมากมาย

 

เมื่อมีการคลายล็อคพ.ร.บ ยาเสพติดให้โทษ 2522 ในการแก้ไขครั้งที่7 พ.ศ 2562 ก็ยังกำหนดให้หน่วยราชการผูกขาดไว้5ปี และแม้แต่หมอแผนไทย หมอพื้นบ้านที่มีองค์ความรู้ ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชา หรือใช้กัญชารักษาคนไข้ของตนได้

 

จากข้อกำหนดของอนุสัญญาเดี่ยว ที่ไม่ได้รวมใบ และเมล็ดกัญชาในนิยามยาเสพติด ทำให้ต่อมารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎกระทรวงปลดล็อค ใบ กิ่งก้าน ราก ของกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ซึ่งประกาศลงในราชกิจจาฯ เมื่อวันที่14 ธันวาคม 2563

 

การปลดล็อคในครั้งนี้ทำให้มียาไทย 5ตำรับที่ใช้ใบกัญชาเป็นส่วนผสม จะถูกปลดออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้โรงงานผลิตยาไทย และหมอแผนไทยสามารถไปขออนุญาตผลิตยาเข้ากัญชาได้
 
 
 
 

 

นอกจากนี้คณกรรมการอาหารของสำนักงานอาหารและยา (อ.ย) ก็ต้องถอดใบกัญชาออกจากข้อห้ามการนำไปปรุงอาหารอีกด้วย ซึ่งได้ข่าวว่าจะมีการประชุมในวันจันทร์ที่22 กุมภาพันธ์ 2564 ต้องติดตามดูว่าจะมีข้อกำหนดที่ทำให้การปฏิบัติยุ่งยากอีกหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีข้อสงสัยว่า อ.ย จะกำหนดให้ผู้ที่จะประกอบอาหารขายต้องมาอบรมและรับใบอนุญาตจึงจะขายอาหารใส่ส่วนประกอบรากและใบกัญชาได้ ต่อมาก็มีข่าวว่าร้านอาหารที่จะมีการใช้ส่วนประกอบของกัญชาต้องขึ้นทะเบียน จะจริงหรือไม่นั้นคงต้องรอฟังความคืบหน้าจากคณะกรรมการอาหารของ อ.ย ต่อไป

 

โชคดีที่ปัจจุบันมีข้อมูลการพบสารอะมิโนแอซิดถึง18 ชนิดในส่วนประกอบของกัญชาตั้งแต่ใบ ราก ลำต้น ซึ่งสารอะมิโนแอซิดเป็นองค์ประกอบของโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังพบสารอื่นๆเช่นแคลเซี่ยม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี ธาตุทองแดง ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย และการที่กัญชาทำให้เจริญอาหารเพราะมีกลูตามิกแอซิดที่ทำให้อาหารอร่อย โดยไม่ต้องใส่ผงชูรส

 

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่ายังมีคนที่กังวลกับการนำใบกัญชาและส่วนประกอบอื่นๆมาประกอบอาหาร ด้วยเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เพราะคนจำนวนไม่น้อยไม่มีประสบการณ์การปรุงอาหาร หรือกินอาหารที่ผสมใบกัญชา ที่จริงไม่ต้องเป็นกังวลถึงกับต้องให้ร้านขายอาหารใช้กัญชาปรุงอาหารต้องขึ้นทะเบียนเหมือนร้านขายสุราเพราะกัญชาที่ใช้ปรุงอาหารเป็นเพียงของเสริมรสให้อร่อย ไม่ใช่ส่วนประกอบหลักของอาหารแต่อย่างไร

 

 

เราไม่ควรวิตกจนเกินไปว่าใบกัญชาจะมีสาร THC ที่เป็นสารเมา หากจะมีก็น้อยมากๆ อย่างดีก็มี THC ไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัมต่อใบ กัญชา 5ใบก็มีTHC แค่ 1 มิลลิกรัมเท่านั้น ต่างประเทศกำหนดให้ขนมคุ๊กกี้มีTHC ได้ชิ้นละ 5 มิลลิกรัม และห่อหนึ่งมี2ชิ้น รวม 10 มิลลิกรัม ซึ่งถ้าเทียบTHC จากใบกัญชา THC 10 มิลลิกรัมก็ต้องใช้ใบกัญชาถึง 50 ใบทีเดียว

 

เมื่อคนไทยมีประสบการณ์กับกัญชามากขึ้น เราจะรับรู้ถึงคุณประโยชน์ที่มาจากภูมิปัญญาไทย ที่คนไทยในอดีตกินสมุนไพรในฐานะอาหารมากกว่ายา และเมื่อเรายอมรับกัญชาในฐานะสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีคุณประโยชน์มากกว่าโทษ เราจะได้ช่วยกันสืบสานภูมิปัญญาการใช้กัญชาในฐานะสมุนไพรที่เป็นอาหารสุขภาพและยารักษาโรคที่ปลอดภัย และพึ่งตนเองได้ และไม่ตกเป็นทาสการผูกขาดยาและอาหารจากกัญชาของอุตสาหกรรมผูกขาดซึ่งมีโอกาสเสวยผลประโยชน์จากการควบคุมทางกฎหมายมากกว่าประชาชนทั่วไป
รสนา โตสิตระกูล
20 กุมภาพันธ์ 2564