ฟ้าทะลายโจรไม่ใช่ยาวิเศษ แต่ฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่ต้านโควิด-19 ได้

ฟ้าทะลายโจรไม่ใช่ยาวิเศษ แต่ฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่ต้านโควิด-19 ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

ฟ้าทะลายโจรไม่ใช่ยาวิเศษ แต่ฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่ต้านโควิด-19 ได้

 

ในสถานการณ์ที่การระบาดของโควิด-19 ระลอกที่3 ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วทำให้คนติดเชื้อจำนวนมากจนอาจทำให้ระบบสาธารณสุขล่ม เพราะไม่สามารถรองรับผู้ติดเชื้อมากักตัวในร.พ และ ร.พ สนาม ขณะนี้พบกรณีคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต้องรอคิวตรวจเชื้อเป็นอาทิตย์ หรือคนที่ตรวจเชื้อแล้วพบผลบวก แต่ยังไม่มีที่รองรับในร.พ ทั้งของรัฐและร.พ เอกชน ขนาดคนที่มีเงินจ่ายค่าห้องคืนละหมื่นบาทก็ยังไม่มีห้องรองรับ ไม่ต้องพูดถึงคนจนที่หาเช้ากินค่ำ หากเป็นผู้ที่มีความเสี่ยง ต้องรอคิวตรวจ หรือตรวจพบเชื้อบวก แต่ไม่มีที่รองรับในการกักตัว ย่อมทำให้เชื้อแพร่ระบาดเป็นวงกว้างยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้หลายพื้นที่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

 

การที่ดิฉันเสนอให้นำฟ้าทะลายโจรมาช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยของประชาชนในวิกฤตช่วงนี้ ก็มีคนต่อว่าคัดค้าน บางคนพูดรุนแรงถึงกับว่า “จะฟังหมอหรือฟังหมา” กันเลยทีเดียว พากันยกข้อมูลอันตรายของฟ้าทะลายโจรราวกับกลัวประชาชนจะเข้าใจผิดว่าฟ้าทะลายโจรเป็นยาวิเศษ
ฟ้าทะลายโจรไม่ใช่ยาวิเศษ แต่ฟ้าทะลายโจรเป็นแค่ยาสามัญประจำบ้านตัวหนึ่ง

 

ที่มีสรรพคุณตัดไข้หวัดตั้งแต่ต้นก่อนที่จะลุกลามไปเป็นไฟกองใหญ่ กลายเป็นวิกฤตของระบบสาธารณสุข ดิฉันจึงแนะนำให้นำฟ้าทะลายโจรมาใช้ควบคู่กับมาตรการอื่นๆกับคนที่มีอาการหวัดจากไวรัสในระยะเริ่มต้น เป็นการป้องกันแบบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม หรือตัดไข้ตั้งแต่ต้นทาง

 

ฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ประชาชนรู้จักใช้กันมาอย่างยาวนาน และอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติของกระทรวงสาธารณสุข แสดงว่ามีความปลอดภัยสูง จึงอนุญาตให้ซื้อขายกันได้ในร้านโชวห่วย ไม่ต้องซื้อในร้านขายยาที่มีเภสัชกรด้วยซ้ำไป

 

ศจ.น.พ เสม พริ้งพวงแก้ว อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข เคยพูดเมื่อราว80 ปีที่ผ่านมาว่า โรคเกิดที่ไหน สมุนไพรรักษาก็อยู่ที่นั่น สมัยที่ท่านเป็นผู้อำนวยการ ร.พ เชียงรายประชารักษ์ ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ประเทศไทยขาดแคลนยาแผนปัจจุบัน ท่านก็ได้ใช้สมุนไพรทั้งโมกหลวงรักษาโรคบิดและ กาสามปีกรักษาไข้มาลาเรีย ซึ่งเป็นโรคระบาดชุกชุมในเวลานั้น อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยหลายท่าน ได้แก่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์และพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณล้วนรอดชีวิตมาได้ด้วยยาบดผงและยาต้มสมุนไพรพื้นบ้าน ในอดีตคนไทยผ่านพ้นสงครามและโรคระบาดมาได้อย่างไรโดยไม่มียาจากภายนอก แต่เราก็รอดพ้นกันมาได้ด้วยภูมิปัญญาสมุนไพรในบ้านเราเอง

 

ฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า50ปี ใช้รักษาไข้หวัดตัวร้อนอันเกิดจากไวรัสหลายชนิด ผลงานวิจัยที่พบว่าฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อโควิด-19ในเซลเยื่อหุ้มปอดของมนุษย์ที่ติดเชื้อโควิด-19 แม้เพียงในหลอดทดลอง ก็ต้องถือว่าเป็นการรับรองความรู้การใช้ฟ้าทะลายโจรของคนไทย และถ้าหากรัฐบาลจะสนับสนุนการวิจัยต่อเนื่องในหนูทดลองและในคน ให้สมบูรณ์แล้ว ฟ้าทะลายโจรก็จะยกระดับเป็นยาสามัญขนานหนึ่งที่กลายเป็นยาแชมเปี้ยนได้ ไวรัสยังอยู่กับเราอีกนาน หรืออาจจะแปรสภาพไปเป็นโรคประจำถิ่นต่อไปก็ได้ แต่เราก็มีฟ้าทะลายโจรซึ่งเป็นพืชพันธุ์ที่หาได้ง่าย เราสามารถพัฒนาและผลิตได้เองเพื่อรักษาตัวเองได้ และยังสามารถช่วยเหลือชาวโลกที่ถูกรุกรานจากเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือสายพันธุ์อื่นในอนาคต

 

แต่อย่างไรก็ตามฟ้าทะลายโจรยังเป็นยาสามัญของชาวบ้านธรรมดาสามัญ ที่ช่วยให้เราพึ่งพาตนเองได้ เพราะงานทดลองของนักวิจัยพบว่าผงรวมของฟ้าทะลายโจรมีสรรพคุณดีกว่าสารสกัดบริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีสารสำคัญหลายตัวในฟ้าทะลายโจรที่ละลายได้ดีในน้ำ ดังนั้นการปลูกไว้ใช้เองในครัวเรือน และนำใบมาชงเป็นชาดื่มอาจจะได้ผลดีที่สุด งานทดลองจึงเป็นการรับรองการใช้ฟ้าทะลายโจรแบบสามัญว่าดีที่สุด และทำให้ชาวบ้านพึ่งตนเองได้

 

แม้ขณะนี้จะมีความพยายามโฆษณาว่าสารสกัดของฟ้าทะลายโจรดีกว่าฟ้าทะลายโจรแบบผงรวมถึงขนาดอ้างว่าในสารสกัดได้สกัดเอาสาร AP3 ที่ทำให้แขนขาอ่อนแรงออกไป เพื่อให้เข้าใจผิดว่า ในผงฟ้าทะลายโจรที่ขึ้นทะเบียนเป็นยาไทยแผนโบราณมีสารAP3 ที่เป็นอันตราย ทั้งที่ไม่มีงานวิจัยรองรับ เป็นการช่วงชิงทางการตลาดเพื่อให้คนหันไปใช้สารสกัดโดยอ้างว่าฟ้าทะลายโจรแบบสารสกัดมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่แน่นอนกว่า

 

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยู่ในงานวิจัยกลับพบว่า AP3 ช่วยลดการอักเสบของปอด และแบบจำลองการจับตัวในระดับโมเลกุล(Molecular Docking)ในคอมพิวเตอร์ (Computational modeling) พบว่าAP3สามารถล็อคไวรัสเข้าสู่เซลได้ถึง4 ตำแหน่ง และหนึ่งในนั้นคือ ตำแหน่งโปรตีนที่มีหนาม(spike protein)ของเชื้อไวรัสโคโรน่าแบบเชื้อโควิด-19ด้วย

 

 

อันที่จริงควรมีการส่งเสริมพัฒนาการปลูกฟ้าทะลายโจรให้มีคุณภาพ และพัฒนาเครื่องมือที่เป็นเทคโนโลยี่ที่เหมาะสมสำหรับประชาชน เช่น Test kit ที่สามารถตรวจสอบสารแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจรเพื่อให้ได้วัตถุดิบสมุนไพรที่มีสรรพคุณดีที่สุด โดยที่ฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญที่การใช้แบบผงมีสรรพคุณดีกว่าสารสกัดเดี่ยว จึงยากแก่การผูกขาด ก็เลยไม่มีใครสนใจลงทุนพัฒนาเพื่อประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาลจึงควรลงทุนพัฒนาฟ้าทะลายโจรทั้งรูปแบบผลิตในเชิงอุตสาหกรรม แต่ไม่ทอดทิ้งการพัฒนาเพื่อให้ประชาชนพึ่งตนเอง เพราะสิ่งที่เป็นคุณค่าพื้นฐานของสังคมไทยคือการพึ่งตนเอง และการแบ่งปันที่ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ร่มเย็นและเป็นสุข กว่าการมุ่งผูกขาดเพื่อประโยชน์ของตนเองและคนกลุ่มน้อย

 

ข่าวดีวันที่ 22 เมษายน นี้ จะมีอีเว้นท์ของกระทรวงสาธารณสุข แถลงเปิดตัวโครงการใหญ่ “ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรไทย เพื่อคนไทย ต้านภัยโควิด-19” ในงานจะมีพิธีKick Offมอบยาฟ้าทะลายโจร แก่ตัวแทนบุคลากรสาธารณสุขเพื่อนำไปใช้สำหรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า
2019(COVID-19)ในพื้นที่ระบาดทุกจังหวัด

 

ดิฉันต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลที่กล้าเปิดตัวฟ้าทะลายโจร สมุนไพรไทยต้านภัยโควิดอย่างชัดเจน เพื่อร่วมด้วยช่วยกันกับทุกมาตราการ สู้รบให้ “ไทยชนะโควิด” ให้จงได้
รสนา โตสิตระกูล
20 เมษายน 2564