มาปลูกฟ้าทะลายโจรกระตุ้นเศรษฐกิจยุค โควิด-19 กันเถิด

มาปลูกฟ้าทะลายโจรกระตุ้นเศรษฐกิจยุค โควิด-19 กันเถิด

 

 

 

 

 

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

มาปลูกฟ้าทะลายโจรกระตุ้นเศรษฐกิจยุค
โควิด-19 กันเถิด
 
 
 
 
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ไปดูฟ้าทะลายโจรที่ปลูกที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก เมล็ดฟ้าทะลายโจรที่ให้คุณพิภพ ธงไชยเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ฟ้าทะลายโจรที่ปลูกเมื่อเดือนมีนาคม ถึง กลางเดือนพฤษภาคม ประมาณ 2เดือนครึ่ง โตเกือบจะเก็บเกี่ยวได้แล้ว
 
ประจวบกับวันนี้ (19 พ.ค 2564)ได้รับทราบข่าวจากคุณแม่ของเด็กชายภคพล อายุ4ขวบที่ติดเชื้อโควิดต้องไปอยู่รพ.เด็ก เพื่อกักตัวรักษาอาการ ปรากฎว่าคุณแม่ คุณพ่อของน้องภคพล ได้กินฟ้าทะลายโจรตลอดตั้งแต่พบว่าตัวเองมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด ในการตรวจครั้งแรก ก็ไม่พบว่าติดเชื้อ ส่วนคุณแม่น้องภคพลต้องไปอยู่เป็นเพื่อนลูกในรพ. ก็ได้ตรวจเชื้ออีกหนึ่งครั้งก็ไม่พบเชื้อเมื่อออกจากรพ. แล้วก็ได้ไปตรวจเชื้อเองอีกครั้ง ผลการตรวจออกมา ก็พบว่าผลเป็นลบ
ในขณะที่น้องสะใภ้คุณแม่น้องภคพลที่เสี่ยงติดโควิดมาด้วยกันไม่ได้กินยาฟ้าทะลายโจร เมื่อไปตรวจเชื้อก็พบว่าติดโควิดจริงและได้ไปกักตัวใน hospitel เป็นเวลา14วันโดยถูกจัดให้อยู่รวมกับคนอื่นที่ติดเชื้ออีก2 คน ปรากฏว่าน้องสะใภ้ และรูมเมทอีกคนหนึ่งที่ถูกกักตัวได้กินฟ้าทะลายโจร ที่นำติดตัวไปด้วยส่วนอีกคนไม่ได้กินฟ้าทะลายโจร ผ่านไป7วัน พบว่าเชื้อลงปอดจึงถูกแยกออกไป แต่น้องสะใภ้และรูมเมทที่ใช้ยาฟ้าทะลายโจรหายดี กลับบ้านได้เมื่อวานนี้เอง(18 พ.ค.)
กรณีนี้เป็นเรื่องที่มีนัยยะสำคัญสำหรับดิฉันมาก สองสามีภรรยากินฟ้าทะลายโจรตั้งแต่แรก ได้รับการตรวจเชื้อ2-3ครั้งไม่พบเชื้อโควิด ในขณะที่ลูกชายวัย 4ขวบติดเชื้อ โดยที่คุณแม่ที่อยู่กับลูกตลอดเวลาในรพ.ก็ไม่ติดเชื้อ ส่วนน้องสะใภ้และรูมเมทเมื่อพบว่าติดเชื้อต้องไปกักตัวและกินฟ้าทะลายโจรก็พบว่าเชื้อไม่ลงปอด ส่วนอีกคนหนึ่งซึ่งถูกกักตัวรวมกัน ไม่ได้กินฟ้าทะลายโจรพบว่าเชื้อลงปอด ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่
 
นอกจากนี้ข่าวเมื่อวันที่17 พ.ค 2564 ระบุว่าเรือนจำเชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิดในเรือนจำเกือบ 4 พันราย และนายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ แถลงข่าวว่า “กรณีผู้ต้องขังติดเชื้อก็ให้กินยาฟ้าทะลายโจร กินวิตามินซี ดื่มน้ำขิง น้ำกระชายขาว (กระชายแกง)ซึ่งปรากฏว่า มีภูมิคุ้มกันและหายได้เกือบ 3,000 คน”
ดิฉันเห็นว่าเป็นข่าวที่น่ายินดีที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่า การใช้ฟ้าทะลายโจร สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสโควิด-19 เมื่อฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยลดเชื้อไวรัสได้แล้ว ร่างกายผู้ป่วยก็จะฟื้นตัวขึ้นจนสามารถปรับสมดุลภูมิคุ้มกันภายในตัวเองสู้กับเชื้อโควิดที่เหลือให้หมดไป
 
นอกจากนี้มีข่าวร่ำลือในโซเชียล มีเดียว่า “อย่ากินฟ้าทะลายโจร จะทำให้เชื้อโควิดหลบใน ตรวจไม่เจอ “ ดิฉันได้สอบถามศาสตราจารย์แพทย์แผนปัจจุบันด้านโรคติดเชื้อว่าข้อมูลเช่นนี้จริงหรือไม่ ท่านได้ตอบดิฉันว่า “หลบไม่ได้หรอกค่ะ RT-PCR คือการตรวจหา RNA (ของไวรัส )ฟ้าทะลายโจรไม่ได้ไปบดบังอะไรที่ RNAเพียงแต่ให้มันเพิ่มจำนวนไม่ได้ เพราะใช้ส่วนของเซลล์ไม่ได้...การตรวจไม่พบเชื้อ ก็แปลว่าถูกร่างกายกำจัดไปแล้ว ก็ยิ่งจะดีใหญ่ กระบวนการเดียวกับ Favipiravir เลยค่ะ... พอมีชื่อฝรั่ง ก็เลยไม่หาเรื่อง 555 “
อาจารย์หมอท่านนั้นให้ข้อมูลเพิ่มว่า “ไวรัสมีส่วนประกอบไม่ครบพอที่จะเป็นเซลล์ และไม่มีชีวิต จึงไม่มีการตาย ไม่มีการทำให้ตาย(ฆ่า)... แต่อาจจะมีการใช้คำผิดไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร...มันมีแต่สารพันธุกรรม RNA.หรือ DNA.สำหรับขยายพันธุ์ แต่ต้องได้เข้าไปในเซลล์ก่อน... แต่ถ้าเข้าเซลล์แล้ว มียาไปกั้นไม่ให้มันใช้เซลล์เป็นโรงงานผลิตพวกมันได้ ก็จะหยุดได้แค่เข้าไปเฉยๆ...ไวรัสในร่างกายที่เข้าเซลล์ไม่ได้ เข้าไปแล้วเพิ่มจำนวนไม่ได้ ก็หมดฤทธิ์ ทำลายเซลล์ไม่ได้ ภูมิต้านทานในร่างกายก็จะทำหน้าที่กำจัด(กิน)ไป เป็นการลดจำนวน”
 
 
 
อาจารย์หมอท่านนั้นให้ข้อมูลดิฉันเพิ่มเติมว่า “ยาต้านไวรัส จะไม่มีชนิดไหนที่กำจัด (ฆ่า)ไวรัส เพราะไวรัสเป็น RNA, DNA. เท่านั้น แพร่พันธุ์เองไม่ได้ ต้องไปอยู่ใน เซลล์ และใช้อุปกรณ์ของเซลล์ในการเพิ่มจำนวน...การกำจัด(ฆ่า)ไวรัส ต้องทำลายเซลล์ให้ตายไปด้วยกัน ปริมาณไวรัสที่ลดลงได้ เกิดจากการที่มันเข้าเซลล์ไม่ได้ และสลายไปตามเวลา หรือภูมิต้านทานทำให้มันไม่คงความเป็น nucleic acid.( RNA, DNA) ที่จะถ่ายทอดพันธุกรรมให้กับการสร้างตัวใหม่ขยายพันธุ์ โดยใช้ชิ้นส่วนของเซลล์...
หรือเมื่อเข้าไปในเซลล์แล้ว ยาไปยับยั้งไม่ให้ไวรัสใช้ส่วนของเซลล์เพื่อดำเนินการต่อไปได้ และถูกเซลล์กำจัดในที่สุด...ไวรัสไม่มีชีวิต ไม่ตาย ถ้าเข้าร่างกายมนุษย์/สัตว์ไม่ได้ จะสลายตามกาลเวลา หรือโดนกำจัดด้วยสิ่งที่กำจัดมันได้ เช่น alcohol... ถ้าเข้าร่างกายหรือเข้าเซลล์ได้ ก็ต้องใช้ภูมิต้านทานกำจัด โดยยาที่ไปยับยั้งการแบ่งตัวเป็นเครื่องมือช่วยให้ง่ายขึ้น กลไกของฟ้าทะลายโจรน่าจะอยู่ตรงนี้..”
 
ดิฉันเห็นว่าฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส จึงมีความสำคัญในการลดอาการรุนแรงในคนที่ติดเชื้อโควิด และฟ้าทะลายโจรยังเป็นความมั่นคงทางยาของประเทศได้ เพราะไวรัสจะยังคงอยู่คู่กับมนุษยชาติไปอีกนานแสนนาน ขออย่าได้รังเกียจชื่อแบบไทยๆ ว่า “ฟ้าทะลายโจร”เลย เพราะสนนราคานำเข้าของ Favipiravir เม็ดละ 120-150 บาท นำเข้า 5ล้านเม็ด ก็ตก 600-750 ล้านบาท ถ้าองค์เภสัชกรรมผลิตได้ ราคาถูกที่สุดที่เราจะได้ก็ยังคงเป็นเม็ดละ 25-30บาท ในขณะที่ฟ้าทะลายโจรชนิดผงบรรจุแคปซูล 50 แคปซูล ราคา ไม่เกิน 80 บาท
ถ้าเราส่งเสริมคนไทยร่วมกันปลูกฟ้าทะลายโจร ใช้เงินซื้อฟ้าทะลายโจรจากคนไทย แค่ 600 ล้านบาท จะช่วยให้คนไทยได้ใช้ยาฟ้าทะลายโจรอย่างทั่วถึง และเศรษฐกิจในประเทศจะหมุนเวียนได้พอสมควรในภาวะวิกฤตโควิด-19ขณะนี้ และถ้ารัฐบาลส่งเสริมให้มีการทำวิจัยมากขึ้น เราอาจสามารถส่งออกยาฟ้าทะลายโจรไปขายประเทศเพื่อนบ้านที่ล้วนประสบชะตากรรมจากมหันตภัยโรคระบาดนี้เช่นเดียวกัน
ดิฉันจึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมกันปลูกฟ้าทะลายโจรไว้ใช้ในครัวเรือน และเป็นพืชเศรษฐกิจสร้างความมั่นคงทางยาของชาติ
รสนา โตสิตระกูล
19 พ.ค 2564