ฟ้าทะลายโจรในมหาสงครามโควิด-19 CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล
CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล
ฟ้าทะลายโจรในมหาสงครามโควิด-19
วันนี้(26 พ.ค 2564) มีข่าวดีที่นายกฯลุงตู่ยอมประกาศสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการใช้ฟ้าทะลายโจรควบคู่กับยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อที่มีภาวะอักเสบ และยังระบุว่า “ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรมีแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ซึ่งเป็นสารสำคัญมีฤทธิ์ต้านไวรัส และในการวิจัยพบว่า สามารถฆ่าไวรัสในหลอดทดลอง และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัวในหลอดทดลองได้ด้วย นอกจากนี้ฟ้าทะลายโจรยังเป็นยาลดไข้ บรรเทาอาการหวัดที่ดี และลดการอักเสบ โดยได้ใช้เป็นยาในบัญชียาหลักในการรักษาโรคหวัดตั้งแต่ปี 2559 และสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีภาวะอักเสบ ฟ้าทะลายโจรสามารถช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยกำลังศึกษาวิจัยเพิ่มเติมการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อป้องกันโควิด-19 อีกด้วย”
ในบัญชียาหลักแห่งชาติฉบับพ.ศ.2556 ยาฟ้าทะลายโจร ถูกจัดอยู่ในบัญชียาจากสมุนไพร บัญชีที่ 2 คือ ยาพัฒนาจากสมุนไพร ซึ่งเป็นบัญชียาสมุนไพรตัวเดียวโดยระบุให้ยาฟ้าทะลายโจรเป็นยารักษาได้ 2 กลุ่มอาการ คือ (1)ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินอาหาร ที่ใช้บรรเทาอาการท้องเสีย และ(2)ยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมียาฟ้าทะลายโจรโดดเด่นอยู่ในบัญชีนี้เพียงตำรับเดียว (First Line Drug) ที่ใช้บรรเทาอาการหวัด เจ็บคอ โดยปกติ ตามพ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ยาพัฒนาจากสมุนไพรตัวเดียว อย่างเช่น ยาฟ้าทะลายโจร ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ เช่นเดียวกับยาแผนไทยที่เป็นตำรับยาสมุนไพรหลายตัว จึงทำให้ยาฟ้าทะลายโจรไม่ได้รับการยอมรับจากแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ ทั้งที่แพทย์และเภสัชกรแผนปัจจุบันสามารถสั่งจ่ายยาแผนไทยได้

ในวิกฤตโควิด-19ในขณะนี้ที่เกิดการระบาดระลอก3 ตั้งแต่เดือนเมษายน เป็นต้นมา ระบบสาธารณสุขไม่สามารถแบกรับการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อของประชาชนได้อย่างทั่วถึง ทำให้มีการใช้ฟ้าทะลายโจรอย่างแพร่หลายในหมู่ประชาชนเพื่อบรรเทาอาการ ไข้ ครั่นเนื้อครั้นตัว หวัด เจ็บคอ ในคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีรพ.รับ ต้องกักตัวดูแลรักษาตัวเองอยู่ในบ้าน
ดิฉันได้กระจายยาแคปซูลผงฟ้าทะลายโจรผ่านอาสาสมัครสาธารณสุขในกรุงเทพมหานคร (อสส.กทม.) รวม65 ศูนย์ วัดสะพาน และเครือข่ายอาสาสมัครชุมชนในคลองเตย รวมทั้งพระสงฆ์ในกทม.และต่างจังหวัด เรือนจำในกทม.และต่างจังหวัด ประชาชนรายเล็กรายน้อยที่ติดต่อเข้ามา เป็นต้น พบว่าทั้งหมดมีอาการดีขึ้นโดยยาแคปซูลผงฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ที่น้อยกว่า 180 มก./วัน
ในขณะนี้ทราบว่ากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกำลังนำเสนอสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ ขนาด 180 มก./วัน เพื่อใช้ในการรักษาอาการติดเชื้อโควิดระยะเริ่มต้น เเละปานกลาง โดยจะนำเข้าบัญชียาหลักอีกครั้ง เพื่อระบุจะใช้ฟ้าทะลายโจรจาก ’สารสกัด’ 180มก./วันในการรักษาโควิด-19เท่านั้น ทั้งที่ในการทดลองมีการใช้ทั้งผงฟ้าทะลายโจร และสารสกัดเทียบเท่ากันเพียง60 มก./วันเท่านั้น แต่เหตุใดกรมการแพทย์แผนไทยจึงเสนอให้ใช้แต่ ‘สารสกัด’ ฟ้าทะลายโจร และสูงกว่าที่ทดลองถึง3 เท่าคือ180มก./วัน
ดิฉันเห็นว่าในการศึกษาทางคลีนิกแบบ R2R (Routine to Research)ที่ผ่านมายังไม่ได้เก็บข้อมูลในส่วนของผงยาฟ้าทะลายโจรบรรจุแคปซูลที่มีการใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะเริ่มต้นที่ตกหล่นจากระบบการรักษาทางการของภาครัฐ แต่กักตัวรักษาในบ้านด้วยฟ้าทะลายโจร และเท่าที่ทราบข่าว ก็ยังมีสถานบริการสาธารสุขบางแห่ง เช่นรพ.เรือนจำในหลายจังหวัด และรพ.ในส่วนภูมิภาค ที่ได้จ่ายยาฟ้าทะลายโจรที่มีการขึ้นทะเบียนอ.ยตามปกติ โดยใช้ตามขนาดและวิธีในฉลากยาของแต่ละยี่ห้อ และพบว่าใช้แล้วได้ผลดี
ดิฉันได้กระจายยาฟ้าทะลายโจรเป็นแคปซูลผงฟ้าทะลายโจร ที่ขึ้นทะเบียนกับอ.ย เป็นยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ตามประกาศบัญชียาหลักที่มีโททอลแลคโตน โดยคำนวณเป็นแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่าร้อยละ6 โดยน้ำหนัก (ww/ww) และมีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ร้อยละ1 โดยน้ำหนัก (ww/ww)ซึ่งได้มีข้อบ่งใช้ บรรเทาอาการเจ็บคอ แก้ไข้ บรรเทาอาการโรคหวัด (common cold) เช่นเจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อกินครั้งละ 1.5-3 กรัม วันละ 4 ครั้ง
ดิฉันเห็นว่ากรมการแพทย์แผนไทยฯไม่ควรรีบร้อนระบุขนาดยาฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์เป็นมาร์กเกอร์สูงถึง 180 มก./วัน โดยเป็น”สารสกัด”เท่านั้น ที่จะสามารถใช้กับคนไข้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ เพราะเป็นปริมาณที่อาจจะสูงเกินความจำเป็นหรือไม่ สมควรมีการศึกษาว่าฟ้าทะลายโจรชนิดผงบรรจุแคปซูลที่มีการขึ้นทะเบียนอ.ยอยู่แล้ว ที่ประชาชนใช้กันมาอย่างยาวนาน ในระดับแอนโดรกราโฟไลด์ที่ระบุก็น่าจะสามารถใช้รักษาอาการเริ่มต้นของการติดเชื้อโควิด-19ได้แล้ว และสามารถสกัดกั้นไม่ให้เชื้อลุกลามลงปอดได้เช่นกัน ซึ่งดิฉันมีรายงานของคนไข้ติดเชื้อโควิดรายงานมาว่าใช้ได้ผลดี
ดังนั้นจึงควรตั้งโจทย์วิจัยใหม่ว่า ปริมาณการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในขนาดที่น้อยที่สุดและได้ผลดีที่สุดสำหรับการใช้กับโควิด ควรเป็นเท่าไหร่ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญให้ผู้ป่วยได้รับยาเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อตัดปัญหาผลไม่พึงประสงค์ของยาหากใช้ในขนาดที่สูงเกินความจำเป็น และเพื่อเป็นการส่งเสริมการผลิตที่มีอยู่แล้วโดยประชาชนเข้าถึงยาได้ง่าย และมีราคาย่อมเยา
การที่นายกรัฐมนตรี พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ประกาศยอมรับฟ้าทะลายโจรในการรักษาควบคู่ไปกับยาฟาวิพิราเวียร์นั้น เป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะช่วยให้หมอแผนปัจจุบันยอมรับการใช้ฟ้าทะลายโจร การที่หมอแผนปัจจุบันไม่ยอมสั่งจ่ายฟ้าทะลายโจรนั้นน่าจะมาจากแนวทางเอกสารเวชปฏิบัติการรักษาของแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขฉบับปรับปรุง วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ได้ระบุแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่กำหนดให้ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ และไม่สนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจร ดังปรากฎในไกด์ไลน์ข้อที่11 ระบุว่า
“ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนถึงผลของการรักษาอื่น ๆ เช่น การใช้ฟ้าทะลายโจร ....... ยังไม่เป็นแนวทางมาตรฐาน การใช้ให้ เป็นตามวิจารณญาณของแพทย์ “ (ดูเอกสารประกอบ)

หากท่านนายกรัฐมนตรีพล.อประยุทธ์ จันทร์โอชามีดำริและสนับสนุนให้ใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาร่วมรักษาโควิด-19 ย่อมสามารถมอบหมายอธิบดีกรมการแพทย์ให้แก้ไขเพิ่มเติมไกด์ไลน์เวชปฏิบัติข้างต้นได้ และให้แพทย์แผนปัจจุบันสามารถสั่งจ่ายฟ้าทะลายโจรทั้งยาผงฟ้าทะลายโจรบรรจุแคปซูลใช้ได้ทันที โดยสามารถเบิกจ่ายจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้อยู่แล้วเพราะฟ้าทะลายโจรเป็นยาในบัญชียาหลักมาตั้งแต่ปี 2542
ไม่มีความจำเป็นที่กรมการแพทย์แผนไทยฯต้องรีบร้อนเอาฟ้าทะลายโจรเข้าบัญชียาหลักเพื่อที่จะให้ใช้แต่สารสกัดฟ้าทะลายโจร 180มก./วันกับโควิดเท่านั้น

ส่วนการที่เสนอเข้าบัญชียาหลักกำหนดขนาดยาที่เป็นสารสกัดมีสารแอนโดรกราโฟไลด์เป็นตัวมาร์กเกอร์ถึง 180 มก./วันว่าสามารถใช้ร่วมรักษาโควิด-19 ก็ไม่ใช่เหตุผลที่หมอแผนปัจจุบันจะสั่งใช้ เพราะขนาดยาฟาวิพิราเวียร์ ไม่มีรายงานผลการทดลองว่าสามารถรักษาโควิดได้ และยังไม่ได้อยู่ในบัญชียาหลักของยาแผนปัจจุบันแต่แพทย์แผนปัจจุบันก็ยังสั่งใช้กันได้ตามไกด์ไลน์ ทั้งที่มีราคาแพงมากกว่าฟ้าทะลายโจรไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ยาฟาวิพิราเวียร์นำเข้าปัจจุบันราคาเม็ดละ 120-150บาท ในขณะที่ผงฟ้าทะลายโจรแคปซูลละ 1-2 บาทเท่านั้น และยังเป็นของผลิตได้เองในประเทศ เป็นความมั่นคงทางยาเเละทางเศรษฐกิจของประเทศ และหากแพทย์แผนปัจจุบันยอมใช้ฟ้าทะลายโจรก็จะเป็นการช่วยให้ชาวบ้านได้ปลูกฟ้าทะลายโจรเป็นทางออกของวิกฤตเศรษฐกิจในยุคโควิด-19ได้บ้าง
จึงขอกราบเรียนมายังนายกรัฐมนตรีพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้โปรดสนับสนุนให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมไกด์ไลน์เวชปฏิบัติให้แพทย์แผนปัจจุบันใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาในการร่วมรักษาโควิด-19 และท่านนายกรัฐมนตรีไม่ควรสนับสนุนให้มีการบรรจุฟ้าทะลายโจรที่มีสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณสูงเกินจำเป็นเข้าบัญชียาหลักที่ระบุให้ใช้แต่สารสกัด หรือแม้แต่ใช้ผงฟ้าทะลายโจรแคปซูลที่ต้องมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ถึง180มก./วัน และขอให้ท่านนายกฯโปรดสนับสนุนให้มีการศึกษาต่อเนื่องในการใช้ผงฟ้าทะลายโจรบรรจุแคปซูลในปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการร่วมรักษาโควิด-19 ซึ่งจะเป็นส่งเสริมการพึ่งตัวเองภายในประเทศต่อไป
รสนา โตสิตระกูล
26 พ.ค 2564