ยุทธศาสตร์ขนมครกควรใช้ฟ้าทะลายโจรหยุดระบาดโควิด
CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล
ยุทธศาสตร์ขนมครกควรใช้ฟ้าทะลายโจรหยุดระบาดโควิด
ข่าวจากสื่อมวลชนวันนี้ว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดตามคลัสเตอร์ต่างๆเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และสมุทรปราการ ในขณะที่เตียงผู้ป่วยในรพ.สำหรับผู้ป่วย โควิดถึงจุดวิกฤตคือไม่มีเตียงเพียงพอจะรับผู้ป่วยหนัก
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขถึงกับเสนอยุทธศาสตร์ขนมครก คือการลงไปแก้ปัญหาแต่ละคลัสเตอร์หรือแต่ละหลุมขนมครกเป็นจุดๆไป โดยสื่อรายงานว่า ภาพรวมในจังหวัดสมุทรปราการมีการติดเชื้อทุกอำเภอ มีคลัสเตอร์เกิดขึ้นถึง 41 คลัสเตอร์ ทั้งการติดเชื้อในโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม ตลาด ชุมชน คอนโดมิเนียม และแคมป์คนงานก่อสร้าง เนื่องจากการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ ในการควบคุมการระบาดของโรค จึงเสนอให้ใช้ยุทธศาสตร์ ขนมครก โดยสุ่มตรวจพื้นที่ต่างๆ ในชุมชนที่มีการติดเชื้อ เมื่อพบผู้ติดเชื้อนำเข้าสู่การรักษา และใช้วัคซีนฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่นั้น โดยกำหนดจำนวนให้เหมาะสมเพื่อควบคุมโรคในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้ ประสบความสำเร็จมาแล้วในพื้นที่เขตบางแค และคลองเตย กรุงเทพมหานคร
ดิฉันเห็นว่าในระหว่างการจัดหาวัคซีนมาฉีดเชิงรุกให้กับคลัสเตอร์เหล่านี้ อาจจะไม่ทันการณ์ เข้าตำรากว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้หมดแล้ว เพราะแต่ละคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นเพราะมีผู้ติดเชื้อแล้ว คนติดเชื้อก็จะแพร่เชื้อต่อให้คนในพื้นที่นั้น แพร่เชื้อให้คนในครอบครัว ให้คนในชุมชนทำให้การระบาดขยายวงกว้างขึ้นไม่สิ้นสุด
สิ่งที่ควรทำในขณะนี้คือประกาศให้แต่ละคลัสเตอร์ที่ติดโควิดให้ใช้ฟ้าทะลายโจรทันที จากการใช้ฟ้าทะลายโจรที่ผ่านมาพบว่าฟ้าทะลายโจรเหมาะอย่างยิ่งกับผู้เริ่มติดเชื้อหรือผู้เสี่ยงติดเชื้อ สามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้ทันทีในระยะเวลาอันสั้น ควรทำอย่างด่วนที่สุดทุกคลัสเตอร์หรือทุกหลุมขนมครกได้ทันที โดยไม่ต้องใช้วิธีสุ่มตรวจเลยเพราะใช้งบประมาณไม่มากและฟ้าทะลายโจรมีความปลอดภัยสูง
เมื่อวันที่17มิถุนายนที่ผ่านมา ดิฉันมีโอกาสฟังเสวนาเรื่องฟ้าทะลายโจรของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในรายการของนพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่4 สระบุรีได้เสนอประสบการณ์จากการเก็บข้อมูลผู้ต้องขัง(ผตข)ที่ติดเชื้อโควิดในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยท่านได้เปรียบเทียบการใช้ฟ้าทะลายโจร กระชายสกัด ฟ้าทะลายโจร+ กระชายสกัด และฟาวิพิราเวียร์ สิ่งที่ท่านรายงานน่าสนใจมาก ท่านพบว่า ผตข.ที่ใช้ฟ้าทะลายโจร หรือกระชายสกัด หรือฟ้าทะลายโจร+ กระชายสกัด ตรวจไม่พบเชื้อโควิดในร่างกาย ผตข.ภายใน8 วัน ส่วนผตขที่ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ตรวจไม่พบเชื้อในเวลา12วัน
สอดคล้องกับข้อมูลที่ดิฉันเก็บจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิดและผู้เสี่ยงติดเชื้อโควิด พบว่าฟ้าทะลายโจรคือยาที่ช่วยทะลายโควิดตั้งแต่เริ่มต้น กรณีหนึ่งในคลองเตยที่มีแรงงานหญิงชาวลาวตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด แต่ไม่มีรพ.สนามให้กักตัว ต้องกักตัวในห้องพัก และกินฟ้าทะลายโจร 3แคปซูล/มื้อ วันละ 3ครั้งเป็นเวลา5วัน เก็บตัวรวมทั้งสิ้น 24วัน หายเป็นปกติ และเมื่อไปตรวจเชื้อเมื่อวันที่1 มิถุนายน 2564 พบว่ามีภูมิคุ้มกันโควิดอีกด้วย
เคสต่อมาคือครอบครัวที่ลูกชายติดโควิด แต่รพ.ให้กลับบ้าน กว่าจะได้เตียง คนไข้ต้องพักอยู่บ้าน2วัน ดิฉันส่งยาฟ้าทะลายโจรให้ครอบครัวนี้กิน พ่อแม่ผู้ป่วยกินฟ้าทะลายโจรเป็นเวลา 5วัน วันละ3ครั้ง เมื่อไปตรวจเชื้อในวันที่5พ.ค พบว่าไม่ติดโควิด ส่วนลูกชายคนเล็กไม่ได้กินเพราะไม่คิดว่าจะติดเชื้อ เมื่อไปตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดต้องไปกักตัวที่บางขุนเทียน 14วัน
ดิฉันจึงเห็นว่ายุทธศาสตร์ขนมครกของท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ต้องทำด้วยความรวดเร็ว สิ่งที่เร็วที่สุด ง่ายที่สุด คือกระจายยาฟ้าทะลายโจรลงไปในแต่ละคลัสเตอร์ทันที เพื่อหยุดการแพร่ระบาดโควิดต่อ หลังจากนั้นก็ตรวจดูภูมิคุ้มกัน ถ้ามีภูมิคุ้มกันก็ไม่ต้องฉีดวัคซีน ถ้าไม่มีภูมิคุ้มกันค่อยฉีดวัคซีน เพราะอย่างไรก็ตามคนที่ฉีดวัคซีน ก็ต้องรอให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะไม่ทันการณ์กับการต้องรีบหยุดยั้งการขยายตัวของไวรัสโควิด สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว ไม่มีอะไรดีกว่าฟ้าทะลายโจร เพราะฟ้าทะลายโจรสามารถหยุดยั้งการขยายตัวของไวรัส และหยุดยั้งไวรัสเข้าเซลล์เพื่อใช้เซลล์เป็นที่ขยายตัว
ดิฉันขอประกาศถึงบรรดาคลัสเตอร์ที่ติดโควิดหากกระทรวงสาธารณสุขไม่กระจายฟ้าทะลายโจร ดิฉันจะขอบริจาคส่งให้ทุกคลัสเตอร์ที่ขอมา ขอให้ติดต่อดิฉันผ่านเพจ รสนา โตสิตระกูล
ขอให้เรามาช่วยกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดให้เร็วที่สุด เพื่อให้ธุรกิจต่างๆกลับมาทำการค้าขายได้โดยเร็ว เป็นการอยู่รอดของระบบเศรษฐกิจของประเทศและช่วยระบบสาธารณสุขที่กำลังตกอยู่ในสภาพวิกฤตไม่ล่มสลายไปกับการระบาดหนักของโควิด
รสนา โตสิตระกูล
23 มิถุนายน 2564