ข่าวการติดเชื้อของผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศที่ถูกเปิดเผยครั้งแรกในวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ทำให้มีการตรวจเชิงรุกเรือนจำทั้งประเทศ และพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า15,000 คน จากการตรวจเชิงรุกพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันที่13 พ.ค ถึง 2,052 ราย ในแต่ละวันพบผู้ติดเชื้อใหม่เป็นหลักพันคน

 

35,449 คือตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานตามข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-22 มิ.ย.2564

 

ในวันที่13 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 2,835คน วันนี้ (28 มิถุนายน 2564 ) เหลือผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเรือนจำ 9 คน การที่ผู้ติดเชื้อน้อยลงเหลือหลักเดียว แสดงว่าคนติดเชื้อในเรือนจำน้อยลง ดังที่เรือนจำปากพนังในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ดิฉันส่งฟ้าทะลายโจรไปให้ ทางผบ.เรือนจำบอกว่า นักโทษใหม่ ใครมีอาการไข้ หรือหวัด จะให้กินฟ้าทะลายโจรทันที ทำให้เรือนจำปากพนังไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด เพราะมีการเฝ้าระวังอย่างจริงจัง

 

ในขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในระดับประเทศกลับทะยานขึ้นจาก 2,052 ในวันที่13พ.ค เป็น 5,397คนในวันนี้

ปรากฎข่าวว่าหลายเรือนจำเช่นเรือนจำเชียงใหม่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพได้ใช้ฟ้าทะลายโจร กับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด การที่มีผู้ติดเชื้อลดลงจากหลักพัน เหลือหลักหน่วยเดียว เป็นสิ่งที่ควรมีการเก็บข้อมูล เพื่อการศึกษาวิจัยต่อไปอย่างจริงจังเพื่อนำมาปรับใช้กับการต่อสู้กับโควิด

 

ดังกรณีที่นพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่4 สระบุรี ที่ได้ทดลองและประเมินประสิทธิภาพของฟ้าทะลายโจรกับฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งมีการให้ยาฟ้าทะลายโจรที่เป็นผงบรรจุแคปซูล เทียบกับ ฟาวิพิราเวียร์ การใช้ฟ้าทะลายโจรและฟาวิพิราเวียร์เพียง5วัน กรณีผู้ต้องขังที่กินฟ้าทะลายโจร ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19ในเวลาเพียง8วัน แต่ฟาวิพิราเวียร์ไม่พบเชื้อโควิดในเวลา12วัน

 

ถ้าพิจารณาในแง่ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ฟ้าทะลายโจรมีราคาถูกที่สุด ได้ผลดีที่สุด ในขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์ราคาเม็ดละ 120-150บาท แต่ได้ผลเป็นที่โหล่ ฟ้าทะลายโจรผงหยาบราคาแคปซูลละ 1-1.50บาท กลับมีประสิทธิภาพดีกว่า

 

ฟ้าทะลายโจรจากประสบการณ์ผู้ใช้จำนวนมากที่ดิฉันได้กระจายฟ้าทะลายโจรให้ และจากการศึกษาของนพ.เอนก มุ่อ้อมกลางน่าจะมีผลเป็นที่ประจักษ์ที่รัฐบาล และศบค.ควรที่นำมาใช้จริงจัง ควรประกาศให้ผู้ติดเชื้อโควิด และผู้เสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิดให้ใช้ฟ้าทะลายโจรทันทีที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอหรือสัญญาณของหวัดตั้งแต่เริ่มแรก โดยเฉพาะในขณะนี้ที่เกิดวิกฤตขาดแคลนเตียงที่จะรองรับผู้ติดเชื้อโควิด

 

รัฐบาลจึงควรแยกกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ และอาการน้อยที่อาจจะต้องกักตัวในบ้าน หรือในชุมชน และให้กินฟ้าทะลายโจร5วัน วันละ4 ครั้งๆละ3-4แคปซูล เพื่อเก็บเตียงและอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยหนัก รัฐบาลควรแยกแยะผู้ป่วยอาการเล็กน้อยออกจากกลุ่มผู้ป่วยหนัก และให้รักษาด้วยฟ้าทะลายโจรเพื่อไม่ให้มีอาการทรุดหนักเชื้อลงปอดที่จะเป็นภาระให้กับระบบสาธารณสุข

 

ถ้าผู้ติดเชื้อโควิดสามารถใช้ฟ้าทะลายโจรในการรักษาตนเอง และหมดเชื้อโควิดได้ภายในเวลา 8 วัน เราจะมียาฟ้าทะลายโจรในการต่อสู้กับเชื้อโควิดได้ ธุรกิจต่างๆจะสามารถเปิดดำเนินการได้เร็วขึ้น เศรษฐกิจจะไม่ล่มสลาย การที่รัฐบาลต้องการเปิดประเทศใน120 วัน ก็มีทางเป็นไปได้หากนำฟ้าทะลายโจรมาใช้ควบคู่กับการฉีดวัคซีน

 

ขอให้รัฐบาลและศบค.ใช้ศักยภาพของฟ้าทะลายโจรที่เป็นพืชพันธุ์ของแผ่นดินไทยในการปกป้องคนไทยจากเชื้อโรคร้าย โดยการเร่งประกาศและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ติดเชื้อโควิด ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อใช้ฟ้าทะลายโจร

ตั้งแต่มีสัญญาณอาการหวัด เช่นครั่นเนื้อครั่นตัว ไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ มีน้ำมูกเป็นต้น เราก็จะมีโอกาสรอดจากความล่มสลายของเศรษฐกิจ สังคม และระบบสาธารณสุข

รสนา โตสิตระกูล

28 มิถุนายน 2564

#รสนาโตสิตระกูล #ฟ้าทะลายโจร #โควิด19