"ศาลอุทธรณยืนไม่รับฟ้องคดีปตท.กล่าวหารสนากล่าวเท็จเรื่องปตท.มีบริษัทลูกหลานในเกาะฟอกเงินที่เคย์แมน 32แห่ง "
"ศาลอุทธรณยืนไม่รับฟ้องคดีปตท.กล่าวหารสนากล่าวเท็จเรื่องปตท.มีบริษัทลูกหลานในเกาะฟอกเงินที่เคย์แมน 32แห่ง "
ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องไม่รับฟ้องคดีที่บมจ.ปตท.กล่าวหาดิฉันว่านำความเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ในบทความที่ดิฉันระบุว่าปตท.และบริษัทในเครือมีการจัดตั้งบริษัทลูกหลานในเกาะเคย์แมน 32บริษัทและบริษัทอื่นๆในเกาะที่มีชื่อว่าเป็นเกาะฟอกเงิน
สรุปสาระสำคัญในคำพิพากษา
1 ) ข้อเท็จจริงที่ว่าบริษัททั้งหลายต่างเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากกันจึงเป็นเพียงผลในทางนิตินัยเท่านั้น แต่ด้วยความเชื่อมโยงเกี่ยวพันดังกล่าวมาในเบื้องต้นวิญญูชนทั่วไปย่อมเข้าใจได้โดยสุจริตว่าบริษัทย่อยของปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEF ที่จัดตั้งขึ้นและดำเนินธุรกิจอยู่ที่เกาะเคย์แมนนั้นเป็นบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือของโจทก์และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโจทก์ด้วยและโจทก์ต้องมีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจให้มีการเปิดบริษัทย่อยและดำเนินการบนเกาะดังกล่าว
2 ) โจทก์จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าบริษัทที่เปิดและดำเนินกิจการบนเกาะเคย์แมนดังกล่าวไม่เกี่ยวพันหรือเป็นบริษัทของโจทก์ตามที่จำเลยกล่าวหา
3 )เมื่อคำนึงถึงสถานะขององค์กรโจทก์ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรัฐบาลถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่ จึงถือได้ว่าองค์กรโจทก์เป็นสมบัติของชาติที่พลเมืองไทยมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของและมีสิทธิมีเสียงที่จะแสดงความเห็นได้โดยสุจริต
4 )ประกอบกับได้ความจากคำตอบคำถามค้านของพยานโจทก์ปากนายจตุพร จันทร์พัฒนะ ว่าบุคคลทั่วไปจะเข้าใจในทำนองว่าบริษัที่จดทะเบียนบนเกาะเคย์แมนมีวัตถุประสงค์ในการเลี่ยงภาษี ดังนั้นการที่โจทก์ไปจัดตั้งบริษัทย่อยและดำเนินธุรกิจอยู่ที่เกาะเคย์แมนย่อมทำให้บุคคลทั่วไปเคลือบแคลงน่าสงสัยถึงความโปร่งใสในการบริหารจัดการองค์กรของโจทก์ได้
5 )การที่จำเลยในฐานะพลเมืองทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภานำเรื่องไม่ชอบมาพากลดังกล่าวขึ้นตีฆ้องร้องป่าวให้คนในชาติรู้ถึงความไม่ปกติและความเสียหายที่อาจจะเกิดมีขึ้นได้โดยไม่ปรากฎว่าจำเลยจะมีสาเหตุโกรธเคืองหรือมีผลประโยชน์ขัดกันกับโจทก์ด้วย ไม่ปรากฎว่าจำเลยประกอบธุรกิจด้านพลังงานแข่งขันกัน
6 )โจทก์เป็นองค์กรมหาชนสมควรที่จะยอมรับให้มีการตรวจสอบจากประชาชนซึ่งไม่น่าจะเกิดความเสียหายใด ๆ จึงเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะและเพียงเพื่อต้องการพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติเท่านั้น
7 )ยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนานำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและปลอมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
8 )ส่วนที่มีบุคคลอื่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นก็มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและเห็นต่างกับจำเลย แต่ก็ไม่ปรากฎว่าจำเลยจะได้ต่อต้านหรือกีดกันความเห็นที่ไม่คล้อยตามจำเลย โดยยินยอมให้มีการแสดงความคิดเห็นได้โดยอิสระเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาสนับสนุนและยินยอมให้บุคคลอื่นนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ของตน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าอุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้นจึงยืนตามศาลชั้นต้นทีไม่รับฟ้อง