น้ำมันดีเซลเถื่อนขายลิตรละ 22บาทได้ ทำไมรัฐบาลจะขายดีเซลลิตรละ 25 บาทไม่ได้!?
CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล
น้ำมันดีเซลเถื่อนขายลิตรละ 22บาทได้ ทำไมรัฐบาลจะขายดีเซลลิตรละ 25 บาทไม่ได้!?
เมื่อราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั้มแพงกว่าราคาเนื้อน้ำมันมาก ก็ทำให้เกิดการขายน้ำมันเถื่อนมากขึ้น ซึ่งทำให้รัฐบาลเสียประโยชน์ที่ไม่ได้ภาษีน้ำมันดังปรากฎเป็นข่าวในสื่อมวลชนว่า “เมื่อ16 ตุลาคม 2564 ตำรวจน้ำนำกำลังเข้าจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลเกือบเต็มระวางเรือ 1.2 ล้านลิตร กัปตันเรือไม่สามารถแสดงเอกสารที่มาที่ไปได้ จึงดำเนินการยึดของกลาง ผู้ต้องหาอีก 9 คน
ผ่านไปแค่ 3 วัน 19 ตุลาคม ตำรวจจับเรือบริการรับของเสีย ใกล้เกาะสีชัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี บรรจุน้ำมันดีเซล 400,000 ลิตร ผู้ต้องหาอีก 4 คน ไม่สามารถแสดงที่มาที่ไปของน้ำมันได้เช่นกัน” ข้อสังเกตที่ต้องขีดเส้นใต้ให้ชัดๆคือ น้ำมันดังกล่าวมีมาร์กเกอร์สีเขียว แสดงว่าเป็นน้ำมันดีเซลที่กลั่นในไทย ที่มีการแอบอ้างว่าส่งไปขายต่างประเทศแล้วลักลอบนำกลับมาขายเพราะราคาถูกกว่า เนื่องจากน้ำมันส่งออกไปขายต่างประเทศไม่มีภาษี จึงทำให้เกิดการค้าขายน้ำมันเถื่อนต่ำกว่าราคาหน้าปั้มตลอดมา
การที่นโยบายรัฐบาลของทุกรัฐบาล ไม่เก็บภาษีน้ำมันส่งออก เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดช่องโหว่ ในการลักลอบค้าขายน้ำมันเถื่อนตลอดมา เป็นคำร่ำลือว่าธุรกิจสีดำพวกนี้เป็นธุรกิจที่ผูกพันกับนักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น เป็นการหาเงินเพื่อการเลือกตั้ง ใช่หรือไม่
คนที่กล้าขนน้ำมันเถื่อนจำนวนมหาศาลเป็นล้านลิตรมาขายเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่คนค้าของเถื่อนกระจอกแน่นอน ก็หวังว่าผบตร.จะสามารถสาวเอาคนผิดตัวใหญ่ๆมาลงโทษได้จริง ประชาชนก็จะรอดูว่าไม่ใช่แค่ปาหี่เอาไว้ขู่กันในเชิงการเมือง เมื่อเกี่ยเซี้ยกันได้ก็จบข่าว ใช่หรือไม่
กรณีนำน้ำมันดีเซลเถื่อนมาขายในน่านน้ำไทย ไม่ใช่เพิ่งเกิดครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เกิดมานานแล้ว คดีจับผู้ค้าน้ำมันเถื่อนแม้จับได้คาหนังคาเขาอย่างกรณีบริษัทขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่ที่เคยอ้างนำน้ำมันดีเซลส่งออกที่ไม่เสียภาษีไปใช้ที่แท่นขุดเจาะยังแหล่งเอราวัณ อ้างว่าแหล่งเอราวัณอยู่ในพื้นที่ไหล่ทวีปนอกน่านน้ำไทยไม่ได้อยู่ในอธิปไตยของไทยทั้งที่ขอสัมปทานจากไทย โดยมีข้าราชการระดับสูงให้ความร่วมมือตีความว่าการนำน้ำมันออกไปใช้ในพื้นที่ไหล่ทวีปคือการส่งออกที่ไม่ต้องเสียภาษี ดิฉันติดตามกรณีน้ำมันเถื่อนที่บริษัทดังกล่าวอ้างส่งไปแท่นขุดเจาะ แล้วนำกลับมาใช้ในน่านน้ำไทย จนถูกนายด่านศุลกากรที่สงขลายึดเป็นของหลวง และขายเป็นเงินที่จะส่งคลัง แต่ก็ยังมีความพยายามช่วยกันโดยไม่ยอมส่งเงินที่ขายน้ำมันดีเซลที่ยึดได้เข้าคลังหลวงเป็นเวลา 2-3ปี ดิฉันติดตามตรวจสอบอยู่ จนในที่สุดผู้บริหารกรมศุลกากรยอมส่งเงินที่ถูกยึดส่งหลวงและบันทึกว่าบริษัทดังกล่าวทำผิดกฎหมายขายน้ำมันเถื่อน แต่กรณีที่มีการขนน้ำมันไม่เสียภาษีไปแท่นขุดเจาะไม่ใช่แค่เที่ยวเดียวที่ถูกจับได้ แต่ทำหลายครั้ง ซึ่งตรวจสอบได้จากการสำแดงเอกสารส่งออกเป็นเท็จเพื่อไม่เสียภาษีน้ำมัน ซึ่งควรตรวจสอบและเอาผิดถึงแม้ไม่สามารถจับน้ำมันเถื่อนเที่ยวอื่นๆ แต่ก็มีหลักฐานให้สามารถขยายผลให้บริษัทนั้นต้องเสียค่าปรับให้รัฐบาลในมูลค่าน้ำมันบวกค่าปรับสี่เท่า ซึ่งนับเป็นจำนวนมากกว่าหมื่นล้านบาท แต่ก็ช่วยกันให้จ่ายแค่ภาษีน้ำมันที่หลีกเลี่ยงไม่จ่ายเท่านั้นโดยไม่มีการปรับให้เข็ดหลาบ ใช่หรือไม่
จึงต้องจับตาว่ากรณีจับน้ำมันเถื่อนในครั้งนี้จะมีการดำเนินการแบบไม่ลูบหน้าปะจมูกหรือไม่ หรือจะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู ที่เกิดขึ้นเสมอมา ถ้าคนๆนั้นใหญ่พอและตกลงผลประโยชน์ส่วนตัวกันได้ ใช่หรือไม่
ถ้ารัฐบาลจะแก้ปัญหาน้ำมันเถื่อน ก็ควรให้การส่งออกน้ำมันบวกภาษีแล้วยังแข่งขันได้ รวมทั้งควรขายคนไทยในราคารวมภาษีแล้วมีราคาไม่ต่างกัน จึงจะเป็นธรรมกับคนไทยที่รับมลภาวะจากการกลั่นน้ำมันในประเทศ แต่กลับต้องซื้อน้ำมันในบ้านตัวเองแพงกว่าคนอื่นประเทศอื่นที่ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ซึ่งต่างจากสินค้าอื่นในประเทศที่คนไทยได้ใช้ของผลิตในประเทศถูกกว่าของที่ส่งไปขายคนอื่น ก็มีเพียงสินค้าน้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นในประเทศ แต่คนไทยต้องจ่ายในราคานำเข้าจากประเทศสิงคโปร์ ใช่หรือไม่
จากกรณีการค้าขายน้ำมันดีเซลเถื่อนที่จับได้นั้นน่าจะเป็นแค่ส่วนน้อย นอกจากการลักลอบขายน้ำมันเถื่อนในอ่าวไทยแล้ว ในช่วงเวลากลางตุลาคม ยังมีข่าวการนำดีเซลเถื่อนไปขายในแม่น้ำโขง ถึงขนาดลอยเรือเป็นสถานีขายน้ำมันดีเซลเถื่อนกันเลย โดยมีข้อมูลว่าดีเซลล้วนขายลิตรละ22 บาท แสดงว่าคนที่ซื้อดีเซลเถื่อนมาขายคงต้องซื้อมาในราคาที่ได้กำไรไม่ต่ำกว่าลิตรละ5บาทจึงคุ้มที่จะเสี่ยง เพราะคงต้องจ่ายผลตอบแทนหลายทอด หลายต่อกว่าจะเอามาขายแบบโจ่งแจ้งได้เช่นนี้ ซึ่งข่าวขายน้ำมันเถื่อนล้วนเกิดในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2564 ที่มีปรากฎการณ์น้ำมันดีเซลราคาพุ่งสูงขึ้นจนกลุ่มธุรกิจรถบรรทุกออกมาเรียกร้องรัฐบาลให้แก้ไขราคาน้ำมันดีเซลแพง
นายกฯพล.อ ประยุทธ์จะว่าอย่างไรคะ น้ำมันดีเซลเถื่อนขายได้ในราคาลิตรละ22 บาท ต้นทุนซื้อมาน่าจะประมาณ 17 บาท ท่านนายกฯจะไม่สามารถสั่งให้ขายดีเซลถูกกฎหมายในราคาลิตรละ 25 บาทหรือ?
ท่านนายกฯจะแก้ปัญหาการลักลอบขายดีเซลเถื่อนอย่างไร เพราะเป็นการค้าเถื่อนที่มีปริมาณเป็นหลายล้านลิตรที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียภาษีน้ำมันเป็นเม็ดเงินมหาศาล ทั้งภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล ภาษีมูลค่าเพิ่ม วิธีการแก้ปัญหาตรงจุดที่สุด ก็คือ ต้องไม่ตั้งราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั้มในราคาสูงกว่าราคาเนื้อน้ำมันมากเกินไป จึงจะสามารถหยุดยั้งมหกรรมลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนได้
การขายน้ำมันดีเซลในราคาลิตรละ 25 บาท จึงสามารถทำได้ โดยธุรกิจน้ำมันก็ยังได้กำไรอย่างเหมาะสม ที่สำคัญเป็นการช่วยเหลือประชาชน และสอดคล้องกับการเปิดประเทศที่รัฐบาลต้องการเปิดให้มีการท่องเที่ยว ให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะไปได้สวยหากราคาน้ำมันลดลง เมื่อเศรษฐกิจโดยรวมโตขึ้น ซึ่งต้องไม่ใช่แค่ธุรกิจพลังงานเท่านั้น รัฐบาลก็จะได้รับภาษีอื่นๆทดแทนการลดภาษีน้ำมันได้อีกหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน
รสนา โตสิตระกูล
23 ตุลาคม 2564