รัฐบาลพล.อประยุทธ์อุ้มแต่คนรวย เมินคนจน ใช่หรือไม่

รัฐบาลพล.อประยุทธ์อุ้มแต่คนรวย เมินคนจน ใช่หรือไม่

 

 

 

 

 

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

รัฐบาลพล.อประยุทธ์อุ้มแต่คนรวย เมินคนจน ใช่หรือไม่
 
 
 
รัฐบาลยอมขยายเวลาให้เจ้าสัวจ่ายเงินโอนสิทธิรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ 10,671 ล้านบาทที่ต้องจ่ายในวันที่24ตุลาคม 2564 พอเจ้าสัวอ้างผลกระทบจากโควิด ขอแก้สัญญาจากที่ต้องโอนเงิน 10,671 ล้านบาทงวดเดียวเป็นผ่อนจ่าย รัฐบาลตอบรับเอาเข้า ครม.พิจารณาอนุมัติตามที่คุณขอมาโดยยอมแก้สัญญาให้ผ่อนจ่าย 6ปี แม้แต่ แม่ลูกจันทร์แห่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยังบอกว่าจะงานนี้เจ้าสัวจะได้กำไรไป 50 ปี จนสะดือบวมเลยล่ะ
(แม่ลูกจันทร์: "กลัวขาดทุน" https://www.thairath.co.th/news/politic/2229711
 
)
 
แต่กับประชาชนที่ทั้งพุงแฟบสะดือหด รัฐบาลรีดภาษีน้ำมันแบบไม่ยั้ง ไม่ลดให้แม้สลึงเดียว ประชาชน และสมาคมธุรกิจการขนส่งที่ขอให้รัฐบาลลดการเก็บภาษีน้ำมันลงไป 5 บาทเป็นเวลา 1 ปี เพื่อให้ราคาน้ำมันเหลือแค่ 25 บาท พอบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทั่วประเทศที่ประสบภัยโควิด และถูกซ้ำเติมด้วยภัยน้ำท่วม แต่รัฐบาลนี้ยืนกระต่ายขาเดียวไม่ยอมลดการเก็บภาษี อ้างหลักการสารพัดที่จะไม่ลดการรีดภาษี แถมท้าทายผู้ที่ออกมาจัดกิจกรรมเรียกร้องราคาน้ำมันดีเซล25บาทของกลุ่มธุรกิจการขนส่งด้วยการขึ้นราคาน้ำมันสวนทันที ในวันที่19 ตุลาคม และ28 ตุลาคม ที่ผ่านมาเพื่อแสดงอำนาจของรัฐบาล เป็นการกดหัวไม่ให้ประชาชนหือได้ ใช่หรือไม่
 
รัฐบาลอ้างจะใช้กองทุนน้ำมันมาอุ้มดีเซลไม่ให้เกิน 30บาท เป็นการเอาเงินที่รีดจากคนใช้เบนซินมาอุ้มดีเซล 2-4 บาทต่อลิตร เป็นความไม่เป็นธรรมต่อคนใช้น้ำมันเบนซินเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนใช้เบนซินถูกรีดภาษีสรรพสามิตสูงสุดตั้งแต่ 5.20 -6.50 บาท/ต่อลิตร และถูกรีดเงินกองทุนน้ำมันสูงสุดที่ 6.58 บาท/ลิตร แต่ก็เอาไปชดเชยน้ำมันผสม น้ำมันชีวภาพทุกชนิด สำหรับดีเซลเงินจากกองทุนน้ำมัน 2-4 บาทชดเชยได้แค่ภาษีน้ำมันลิตรละ 6 บาทที่รัฐบาลไม่ยอมลดเท่านั้นเอง เงินกองทุนฯชดเชยไม่ถึงเนื้อน้ำมันตามที่กฎหมายกองทุนน้ำมัน 2562 กำหนดว่าให้ชดเชยเมื่อเกิดวิกฤตการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น นั่นคือเมื่อน้ำมันตลาดโลกสูงขึ้นจนประชาชนเดือดร้อน ไม่ใช่เดือดร้อนจากน้ำมันชีวภาพที่ถีบตัวสูงขึ้น รวมถึงภาษีน้ำมันของรัฐบาลที่ยืนหนึ่งไม่ยอมปรับลดลง ถ้ารัฐบาลลดการเก็บภาษีน้ำมันลงไป 5 บาทต่อลิตร ก็ไม่ต้องเอากองทุนฯมาชดเชยและไม่ต้องกู้อีก 2 หมื่นล้านมาชดเชยภาษีน้ำมันของรัฐบาลด้วย การกู้เงินใส่กองทุนน้ำมันเพื่อให้รัฐบาลได้รับภาษีครบตามที่ต้องการ เป็นภาระของประชาชนที่ต้องชดใช้เงินกู้ 2 หมื่นล้านทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่รัฐบาลจะกู้มาใส่ในกองทุนน้ำมันเพื่อยักย้ายเอามาเป็นภาษีของตัวเอง ใช่หรือไม่
 
ราคาน้ำมันเป็นต้นทุนทางตรงของสินค้าและธุรกิจทุกชนิด รัฐบาลไม่ควรเก็บภาษีจากสินค้า”ต้นทุน”มากเกินไป การเก็บภาษีน้ำมัน 1-1.50 บาทต่อลิตร ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เมื่อธุรกิจทั้งหลายมีต้นทุนต่ำ จะมีกำไรมากขึ้น รัฐบาลควรเก็บภาษีจากรายได้บุคคล หรือกำไรของนิติบุคคลตามจริง แต่กลับไปลดการเก็บภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ20% ใช่หรือไม่
 
ต้องตั้งคำถามว่าการบริหารเช่นนี้เป็นการบริหารที่เหมาะสมหรือไม่ การบริหารจัดการภาษีที่เป็นงบประมาณแผ่นดิน ไม่ใช่หาเงินแบบเอาง่ายเข้าว่า แต่กับธุรกิจใหญ่โตของบรรดาเจ้าสัว รัฐบาลกลับลดการเก็บภาษีจากกำไรนิติบุคคล และยังหาทางลดภาระให้ทุกอย่าง แต่กับประชาชนรัฐบาลกลับเพิ่มภาระให้ทุกอย่าง เป็นการเพิ่มความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และสังคมที่มีอยู่มากแล้ว ให้เกิดมากยิ่งขึ้น ใช่หรือไม่
รสนา โตสิตระกูล
31 ตุลาคม 2564