ราคาซื้อขายน้ำมันสิงคโปร์ปิดตลาดเมื่อวานนี้ (4/01/66) เบนซิน -6.20$ (ลดลง 1.34 บาท/ลิตร)

 

ราคาซื้อขายน้ำมันสิงคโปร์ปิดตลาดวันนี้ 05/01/66 เบนซิน -1.87$ (ลดลง 40สต./ลิตร)

 

วันที่4 มค. ราคาน้ำมันเบนซินสิงคโปรลดราคาลงไป1.34 บาท/ลิตร แต่ผู้ค้าน้ำมันกลับปรับขึ้นราคาน้ำมัน60สต./ลิตร จึงเท่ากับว่าคนไทยต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นรวมเป็น (0.60+1.34) =1.94 บาท/ลิตร

 

ประมาณการใช้น้ำมันเบนซินวันละ 30 ล้านลิตร 1.94x30 = 58.2 ล้านบาท ผู้ค้าน้ำมันได้กำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 58.2 ล้านบาท (5 ม.ค 2566)

 

วันที่5ม.ค ราคาน้ำมันเบนซินสิงคโปร์ลดลงอีก 40 สต./ลิตร ผู้ค้าน้ำมันประกาศลดราคาวันพรุ่งนี้ (06/01/66) ลง 30 สต./ลิตร

 

2วัน(คือ04-05/01/66)ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ลดลงรวม(1.34+0.40)= 1.74บาท/ลิตร ผู้ค้าน้ำมันขึ้นราคาเบนซินวันที่5ม.ค 60 สต. /ลิตร และลดราคาวันที่6 ม.ค 30 สต./ลิตร

 

สรุป ผู้ค้าน้ำมันเก็บเงินผู้ใช้น้ำมันเกินไป 1.74+.60 -.30 = 2.04 บาท /ลิตร ประมาณการใช้เบนซินวันละ 30 ล้านลิตร ผู้ค้าน้ำมันจึงได้กำไรเพิ่มวันที่5 ม.ค 58.2 ล้านบาท และ วันที่6 ม.ค อีก 61.2 ล้านบาท ผู้ค้าน้ำมันได้กำไร เพิ่ม 2 วันเป็นเงินประมาณ 119.4 ล้านบาท

 

 

 

 

มีอดีตผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์แสดงความเห็นมาถึงดิฉันว่า“ไทยใช้ราคาสิงคโปร์ เมื่อราคาสิงคโปร์ร่วงหนัก ราคาไทยควรจะร่วงหนักตาม แต่กลับพุ่งขึ้น สวนทางกัน เป็นการค้ากำไรเกินควร ผิดกฎหมายหรือไม่ ควรทำหนังสือเปิดผนึกขอให้นายกรัฐมนตรี และรมต.พลังงานชี้แจงด่วน”

 

เพื่อความรวดเร็วและเพื่อให้ประชาชนที่ถูกเอาเปรียบราคาน้ำมันมาตลอดได้รับรู้ด้วย ดิฉันขอถือโอกาสนำข้อความที่อดีตผู้พิพากษาได้เขียนแนะนำมาลงในเฟซและเพจรสนา โตสิตระกูลสื่อสารถึงท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพลังงานขอให้ท่านทั้งสองออกมาชี้แจงเรื่องการขึ้นราคาน้ำมันที่ไม่เป็นไปตามกติกาการใช้ราคาซื้อขายสิงคโปร์เป็นเกณฑ์การปรับขึ้น และลดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนเกินควรเพราะผู้ค้าน้ำมันได้กำไรเกินสมควรและเป็นการละเมิดกฎหมายหรือไม่

 

ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพลังงานออกมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบโดยเร็วเพื่อให้มีการกำกับดูแลราคาน้ำมันขาขึ้น และขาลงตามตลาดสิงค์โปร์ อย่างเป็นธรรมต่อประชาชนผู้ใช้น้ำมันทั้งประเทศ

รสนา โตสิตระกูล

5 มกราคม 2566