กระแสตื่นตัวการเปลี่ยนป้ายชื่อใหม่ของสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่มีราคาสูงถึง 33ล้านบาท ทำให้ประชาชนพากันสงสัยเรื่องเงินทอน ผลประโยชน์ในหน่วยงานรัฐ ที่เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้าในระยะใกล้เลือกตั้ง ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาซ้ำ รัฐมนตรีกระทรวงเดียวกันยังสั่งหยุดรถไฟทางไกลจากทั่วประเทศเข้า-ออกสถานีหัวลำโพง เปลี่ยนมาเข้า-ออกที่สถานีกลางบางซื่อในวันที่19 มกราคม 2566

 

การหยุดรถทางไกลจากทุกภูมิภาค 52 ขบวน ไม่ให้เข้าออกที่หัวลำโพง แต่ให้เข้าออกที่สถานีกลางบางซื่อ ที่เร่งทำป้ายชื่อใหม่เป็นสถานี “กรุงเทพอภิวัฒน์” แค่ป้ายชื่อก็แพงถึง 33 ล้านบาท แต่ที่จะหนักหนาสาหัสคือชาวบ้านที่จะถูกบังคับให้ต้องมาขึ้น-ลงรถไฟที่สถานีกลางบางซื่อ ต้องเสียเงิน เสียเวลา เท่าไหร่ รัฐมนตรี และผู้บริหารเคยคิดบ้างไหม ที่จะเตรียมการรับกับปัญหาในระยะเปลี่ยนผ่านอย่างไรที่ประชาชนไม่เดือดร้อน หรือใส่ใจไหมว่าในชั่วโมงเร่งด่วนที่มีประชาชนต้องมาหาหมอตามโรงพยาบาลในใจกลางกรุงเทพฯจะประสบความยากลำบากแค่ไหน ไหนจะรถติด คนมีสัมภาระจากหัวเมืองมาฝากญาติพี่น้องจะหอบหิ้วสัมภาระเดินทางเข้าเมืองอย่างไรในช่วงเวลาเร่งด่วน ต้องเสียเงินเสียทองเพิ่มอย่างไรในช่วงที่เศรษฐกิจตกสะเก็ด

 

ฟังมาว่า ผู้ว่าการรถไฟไม่ได้ให้ความสนใจความเดือดร้อนตามที่สหภาพการรถไฟได้ฟังจากการสัมภาษณ์ชาวบ้านบอกแต่ว่า “ต้องให้ประชาชนปรับตัว” ต้องถามว่า ปรับตัวเพื่อใคร!? เพื่อให้นักการเมืองสมคบคิดกับเจ้าสัวเอาพื้นที่หัวลำโพงไปทำกิจการด้านอสังหาฯเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองกับกลุ่มทุน ใช่หรือไม่

 

ก็บริหารงานกันแบบสุกเอาเผากินตามฝ่ายการเมืองสั่ง สุกเอาเผากินกันแบบเดียวกับการทำป้ายสถานีกลางบางซื่อที่ทำเสร็จ และใช้ไปเพียงไม่กี่เดือน ก็สั่งทำป้ายใหม่ราคา33 ล้านบาท โยนทิ้งป้ายเก่า และยังต้องเปลี่ยนชื่อป้ายทางอีกจำนวนมาก ต้องใช้เงินกันอีกเท่าไหร่ ใครๆก็ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้มีการวางแผนเพื่อใช้งบประมาณให้ประหยัด ให้ได้เต็มประสิทธิภาพ ถ้าเป็นบริษัทของตนเอง จะถลุงเงินกันแบบนี้ไหม !?

 

 

ทำราวกับการรถไฟเป็นมหาเศรษฐี ที่ทำอะไรแบบทิ้งๆขว้างๆ หรือฝ่ายการเมืองต้ังใจทำให้การรถไฟเจ๊งเร็วๆ จะได้เอาเอกชนเข้ามาเสียบแทน ใช่หรือไม่

 

ยังจำได้ไหม ใครสั่งปิดสนามบินดอนเมือง ให้ไปใช้แต่สนามบินสุวรรณภูมิ ตอนนั้นประชาชนก็ต้องปรับตัวใช่ไหม แต่ปรับตัวเพื่อใคร?

 

เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนไหน? มีใครได้เงินทอนหรือไม่? แต่เมื่อกลับมาใช้ดอนเมือง การบินไทยก็ถูกเบียดออกไปจากดอนเมือง

 

ต่อไปการรถไฟไทยก็จะถูกเบียดออกจากพื้นที่สถานีหัวลำโพงเช่นกัน เหลือแต่เอกชนที่เป็นนายทุนหนุนพรรคการเมืองเข้ามาครอบครอง ใช่หรือไม่?

 

กระทรวงคมนาคมต้องหยุดการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน!รถไฟทางไกลต้องเข้า-ออกสถานีหัวลำโพงต่อไป

รสนา โตสิตระกูล

7 มกราคม 2566