พรรคพปชร.ของพล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณเลือกประกาศนโยบายลดราคาน้ำมันตามแนวทางของคุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ว่าถ้าได้เป็นรัฐบาล จะลดราคาเบนซิน95 ลิตรละ18 บาท และลดราคาดีเซลลิตรละ 6 บาท ช่างเป็นนโยบายที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่เกรงว่าจะเป็นแค่นโยบายหาเสียงแบบตีหัวเข้าบ้าน เหมือนพรรคใหญ่ในอดีตที่ประกาศยกเลิกกองทุนน้ำมัน พอได้เป็นรัฐบาล ก็เว้นเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันไป 2-3 เดือน แล้วก็กับมาเก็บเหมือนเดิม ใช่หรือไม่

 

สูตรลดราคาโดยไม่เก็บภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และกองทุนน้ำมัน และกองทุนอนุรักษ์พลังงานโดยไม่แตะโครงสร้างราคาน้ำมันส่วนที่ผู้ค้าน้ำมันได้กำไรเกินสมควร อาจจะเป็นการเปิดช่องให้พ่อค้าน้ำมันฉวยโอกาสดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นจากการตัดภาษีส่วนที่รัฐบาลเคยได้ ทำให้พ่อค้าพลังงานกำไรสูงกว่าเดิม โดยที่รัฐขาดรายได้จากภาษีน้ำมัน แต่ผ่องถ่ายกำไรไปเข้ากระเป๋ากลุ่มทุนพลังงานแทน ใช่หรือไม่

 

สูตรลดราคาน้ำมันของคุณมิ่งขวัญที่ใช้ฐานโครงสร้างราคาน้ำมันเบนซิน 95 วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 โดยตัดภาษีและกองทุนทุกตัว ยกเว้น

ภาษีแวตเอาไว้ ประกอบด้วย

1)ภาษีสรรพสามิตร 6.50 บาท

2)ภาษีเทศบาล 0.65 บาท

3)กองทุนน้ำมัน 8.58 บาท

4)กองทุนอนุรักษ์พลังงาน 0.05 บาท

5)และ อื่นๆ

 

 

 

ราคาขายปลีกเบนซิน 95 อยู่ที่ 44.06 บาท (วันที่ 17 ก.พ.2566) ตัดภาษี และกองทุนฯ และอื่นๆ 18.07 บาท /ลิตร จะเหลือราคาขายปลีกหน้าปั๊มที่ 25.99 บาท/ลิตร

 

คุณมิ่งขวัญไม่ได้พูดถึงการลดราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95,91, อี 20 และ อี85 ซึ่งมีการผสมเอทานอลที่มีราคาแพงกว่าน้ำมันพื้นฐาน ดิฉันได้เอาราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์แต่ละชนิด มาลบภาษีและกองทุนฯตามสูตรคุณมิ่งขวัญ ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินจะเป็นดังนี้

 

-เบนซิน95 ราคา 25.99 บาท/ลิตร

-แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 27.59 บาท/ลิตร

-แก๊สโซฮอล์91 ราคา 27.12 บาท/ลิตร

-อี20 ราคา 28.16 บาท/ลิตร

-อี85 ราคา 33.25 บาท/ลิตร

 

สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือคนจะเลิกเติมน้ำมันผสมเอทานอลและเปลี่ยนมาเติม เบนซิน95 ที่มีราคาถูกกว่า ใช่หรือไม่

 

ที่จริงสูตรคุณมิ่งขวัญทำให้คนไทยทั้งประเทศตาสว่างเห็นว่าหนี้กองทุนน้ำมันนั้น แท้ที่จริงคือหนี้ที่เอามาจ่ายให้น้ำมันชีวภาพราคาแพงที่เอามาผสมในเบนซิน และในดีเซลทั้งสิ้น หนี้กองทุนน้ำมันไม่ได้นำมาลดราคาน้ำมันให้คนไทยตามวัตถุประสงค์พรบ.กองทุนน้ำมันเพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันไม่ให้มีความผันผวนตามราคาตลาดโลกที่แพงขึ้นแต่อย่างไร

 

พปชร.จะกล้าประกาศไหมว่าจะเลิกเอาเอทานอล และไบโอดีเซลมาผสมน้ำมันเบนซินและดีเซล ถ้าราคาน้ำมันชีวภาพแพงกว่าน้ำมันพื้นฐานเพื่อตัดกองทุนน้ำมันไม่ให้บิดเบือนราคาน้ำมันอีกต่อไป !?!

 

คุณมิ่งขวัญควรออกมาตอบประเด็นนี้ให้ชัดเจน ว่าถ้าไม่ตัดน้ำมันชีวภาพออก จะจัดการกับหนี้กองทุนน้ำมันอย่างไร ถ้าต้องให้รัฐบาลกู้มาจ่ายหนี้กองทุนน้ำมัน ก็คือหนี้ของประชาชนในอนาคตเช่นเดิม โดยกลุ่มทุนพลังงานยังได้ประโยชน์เต็มๆเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมโดยการแก้ปัญหาหนี้กองทุนน้ำมันยังต้องเฉือนเนื้อประชาชนไปปะเนื้อช้างกลุ่มทุนพลังงานอยู่ดี ใช่หรือไม่

 

เมื่อคนหันมาใช้น้ำมันเบนซิน 95 ที่ถูกกว่าน้ำมันผสม สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือโรงกลั่นจะอ้างขึ้นค่าการกลั่นได้ว่า ต้องปรับปรุงระบบเพื่อให้มีการกลั่นเบนซิน 95 มากขึ้นแทนการนำเอทานอลมาผสม ใช่หรือไม่

 

จากสถิติการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินระหว่าง มกราคม-สิงหาคม 2565 พบว่า มีการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินวันละ 34.81 ล้านลิตร โดยเบนซิน 95 มีการใช้วันละ 5.56 ล้านลิตร คิดเป็น 15.97% ถ้าต้องกลั่นเพิ่มเป็นวันละ 34-35 ล้านลิตร ผู้ค้าน้ำมันย่อมต้องหาทางเพิ่มค่าการกลั่นเพื่อดันราคาเบนซิน 95 ขึ้นเป็นแน่ ใช่หรือไม่

 

คุณมิ่งขวัญจึงควรมีคำตอบให้ชัดเจนว่า ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มทุนพลังงานที่จะยัดใส้ให้ลดภาษีส่วนของรัฐบาลเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เอกชนหากำไรสูงขึ้น ดังที่ผู้ค้าน้ำมันเคยให้ความเห็นว่าถ้าจะลดราคาน้ำมัน ก็ให้ไปลดส่วนของภาษีรัฐบาล อย่ามาแตะส่วนของเอกชน คุณมิ่งขวัญช่วยตอบคำถามให้ชัดเจนว่า การตัดเนื้อส่วนของรัฐบาล จะไม่ไปเพิ่มเนื้อให้กับผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ ใช่หรือไม่

 

 

เมื่อพรรคพปชร.หาเสียงลดราคาน้ำมันได้น่าตื่นตาตื่นใจ เช่นนี้ ก็ขอให้พรรค พปชร.ให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าประชาชนผู้เป็นเจ้าของเสียงโหวตว่า การประกาศลดราคาแบบนี้ในช่วงนี้ จะไม่ยัดใส้ให้กลุ่มพลังงานมีพื้นที่เอาเปรียบประชาชนอย่างเดิม หรือมากกว่าเดิม และจะไม่ใช่การหาเสียงแบบตีหัวเข้าบ้านเหมือนอดีตพรรคการเมืองใหญ่ที่เคยทำมาแล้ว !!??

รสนา โตสิตระกูล

8 เมษายน 2566