หลังวันหยุดยาวสงกรานต์ ผู้ค้าน้ำมันกินค่าการตลาดเกิน 3บาท/ลิตร ต่อเนื่องยาวทั้ง2อาทิตย์ เมื่อน้ำมันเบนซินราคาสิงคโปร์ลดราคาลง แทนที่จะลดให้ประชาชน กระทรวงพลังงานก็ถือโอกาสดึงส่วนลดน้ำมันเบนซินไปเก็บไว้ในกองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 90 สต./ลิตร

 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน ค่าการตลาดกลุ่มเบนซินยังสูงเกิน3บาท/ลิตร แม้ราคาน้ำมันสิงคโปร์ปิดตลาดวันที่25 เมษายน กลุ่มเบนซินปรับขึ้น +2.17$ คิดเป็น 47สต./ลิตร ผู้ค้าน้ำมันประกาศลดราคากลุ่มเบนซินลง 30 สต./ลิตร ในวันที่26 เมษายน โดยมีการดึงเงินออกจากกองทุนน้ำมัน 60สต./ลิตร มาสมทบให้ผู้ค้าน้ำมัน ทำให้แม้ลดราคา 30 สต./ลิตร แต่ค่าการตลาดแก๊สโซฮอล์ในวันที่26เมษายนก็ยังสูงมากอยู่ที่ 3.57 บาท/ลิตร เกินมาตรฐานถึง 1.57 บาท/ลิตร

 

ตามกติกาแล้วค่าการตลาดต้องไม่เกิน2บาท/ลิตรตามที่นายสุพัฒนพงศ์ พันธุ์มีเชาว์รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานได้ประกาศไว้ว่า “กบง.มีมติไฟเขียวให้ปรับค่าการตลาดที่เหมาะสม โดยปรับค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลับสู่ภาวะปกติตามปี2563 โดยน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ค่าการตลาด เฉลี่ยอยู่ที่2 บาทต่อลิตร “ ตั้งแต่การแถลงข่าวของนายสุพัฒนพงศ์เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ยังไม่ปรากฎว่ามีการกำกับค่าการตลาดให้กลับมาสู่เกณฑ์ที่เหมาะสม ที่2บาท/ลิตร

 

ผู้ค้าน้ำมันลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน 30 สต./ลิตร ได้แค่วันเดียว ก็ประกาศขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน 40 สต./ลิตร ในวันที่27 เมษายน ทั้งที่ค่าการตลาดสูงเกิน3บาท/ลิตร และราคาน้ำมันสิงคโปร์กลุ่มเบนซินวันที่26 เมษายน ปรับตัวลดลง -3.61$ คิดเป็นเงินไทย .78สต./ลิตร ต้องถามว่ากบง.ปล่อยให้ผู้ค้าน้ำมันขึ้นราคาน้ำมันได้อย่างไร เชื่อได้ว่าค่าการตลาดจะพุ่งสูงเกิน4บาท/ลิตร

 

 

หรือถ้าเหนียมอาย ก็อาจจะยักย้ายเงินส่วนต่างนี้ไปพักไว้ก่อนในกองทุนน้ำมัน สำหรับเอาไว้โยกไปให้ผู้ค้าน้ำมันเพื่อประกันกำไรผู้ค้าน้ำมันในโอกาสต่อไป

 

พฤติการณ์ผู้ค้าน้ำมันแสดงว่ารัฐมนตรีกระทรวงพลังงานไร้น้ำยาใช่หรือไม่ ที่ไม่สามารถให้ กบง.กำกับค่าการตลาดให้เป็นไปตามที่มีมติ และตามที่นายสุพัฒนพงศ์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานได้ประกาศต่อประชาชนไว้ นี่ขนาดในช่วงเลือกตั้ง ที่นักการเมืองยังอยู่ในอำนาจ และควรต้องเอาใจประชาชนเพื่อหวังเสียงโหวต แต่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานที่เพิ่งย้ายมาเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเดียวกับพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สามารถทำตามกติกาที่ตัวเองมีมติ นับประสาอะไรว่าหลังเลือกตั้งแล้วประชาชนจะไปหวังสัญญาประชานิยมลมๆแล้งๆอะไรจากรัฐบาลที่อยู่ภายใต้เงาของกลุ่มทุนพลังงาน ใช่หรือไม่

 

ราคาน้ำมันทุกวันนี้รัฐบาลปล่อยให้เป็นเสมือนโอกาสทองของผู้ค้าน้ำมันในการกอบโกยเอาเปรียบประชาชนแบบไร้กฏกติกามารยาท ท่ามกลางห้วงเวลาที่ประชาชนกำลังทุกข์ร้อนจากค่าไฟราคาแพงหฤโหด ที่ก็เป็นผลจากการบริหารอันผิดพลาดของรัฐบาลชุดนี้และรัฐมนตรีคนเดียวกันนี้ แม้แต่ข้าราชการในกระทรวงพลังงานที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ก็ยังไร้สำนึกในการกำกับดูแลผลประโยชน์ให้ประชาชน เรียกว่า “ปล่อย” หรือไม่ก็ “สมคบผู้ค้าน้ำมัน” เอาเปรียบประชาชนแบบไร้ยางอายกันเลย ใช่หรือไม่ ??!!

รสนา โตสิตระกูล

26 เมษายน 2566