"รสนา" โวยวิกฤตไฟแพงเปิดโอกาสรัฐบาลและกลุ่มทุนพลังงานล้วงกระเป๋าประชาชนอีกแล้ว !?

"รสนา" โวยวิกฤตไฟแพงเปิดโอกาสรัฐบาลและกลุ่มทุนพลังงานล้วงกระเป๋าประชาชนอีกแล้ว !?

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

"รสนา" โวยวิกฤตไฟแพงเปิดโอกาสรัฐบาลและกลุ่มทุนพลังงานล้วงกระเป๋าประชาชนอีกแล้ว !?

 

วิกฤตไฟแพงของชาวบ้าน เป็นโอกาสให้นักการเมืองได้ใช้อัฐยายซื้อเสียงยาย !?
 
รัฐบาลลุงตู่ผู้สร้างปรากฎการณ์ราคาพลังงานแพงทั้งแผ่นดิน ทั้งค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าไฟฟ้าแบบ ”แพงแล้ว แพงอยู่ แพงต่อ” สิ่งที่เป็น”วิกฤต”ชาวบ้านแต่กลับเป็น”โอกาส”รัฐบาลลุงตู่ด้วยการขออนุมัติกกต.ล้วงงบประมาณ 11,112 ล้านบาทมาลดค่าไฟแพง !!
 
ถ้ากกต.อนุมัติให้รัฐบาลล้วงเงินหลวงไปลดค่าไฟได้ละก้อ นอกจากผ่องถ่ายเงินหลวงใช้หนี้เอกชน กลบปัญหาที่รัฐบาลก่อไว้แล้ว ยังเป็นการหาเสียงด้วยเงินของประชาชนอีกด้วย เรียกว่าเอา “อัฐยายซื้อเสียงยาย” ซะเลย บ่นกันนัก !!
 
สิ่งที่เป็นการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลนี้ คือเอื้อกลุ่มทุนพลังงานมากมายอย่างชัดเจน
 
วันนี้ขอแตะประเด็นที่ลุงตู่อ้างค่าไฟแพงมาจากค่าเชื้อเพลิงแพง เป็นกลไกตลาดโลกที่รัฐบาลทำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่ความผิดรัฐบาล
 
ประเด็นที่อ้างว่าค่าไฟแพงเพราะราคาก๊าซแพงจากสงครามรัสเซีย ยูเครน แต่ที่ลุงตู่ไม่เคยพูดถึงคือ กติกาเอื้อประโยชน์บริษัทปิโตรเคมีในเครือปตท. ให้ได้ใช้ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยในราคาในประเทศที่ถูกกว่าราคาก๊าซที่โรงไฟฟ้าใช้ ก๊าซที่กฟผ.และโรงไฟฟ้าใช้ผลิตไฟเป็น pool gas ที่ใช้ราคาเฉลี่ยจาก 3แหล่งคือก๊าซอ่าวไทย ราคาถูกที่สุด ก๊าซพม่า ราคาแพงกว่าก๊าซอ่าวไทย และก๊าซ LNG นำเข้าที่ราคาแพงที่สุด บริษัทปิโตรเคมีของเครือ ปตท.ได้สิทธิใช้ก๊าซในประเทศราคาถูก ในขณะที่กฟผ.ต้องใช้ราคาpool gas ซึ่งมีราคาแพงกว่ามาก
 
จากการคำนวณปริมาณก๊าซที่ปิโตรเคมี และโรงไฟฟ้าใช้ในปี2565 พบว่าเพียงแค่ปิโตรเคมีใช้ราคาก๊าซเฉลี่ย (pool gas) เหมือนกฟผ. จะทำให้ราคาก๊าซของโรงไฟฟ้ามีราคาถูกลงได้ประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งจะลดค่า Ft ลงได้ 25-30 สต./หน่วย ประชาชนจะได้ใช้ไฟฟ้าที่ถูกลง
 
นอกจากนี้รัฐบาลลุงตู่ยังไม่ยอมให้ กฟผ.ไปประมูลซื้อก๊าซ LNG เองจากมาเลเซียซึ่งมีราคาถูกกว่าซื้อจากปตท. ตามข่าวที่ปรากฎ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีลุงตู่เป็นประธาน ได้ประชุมเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2562 เห็นชอบให้ยกเลิกการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ในปริมาณไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งมีผลทำให้ การประมูลนำเข้าLNG ในสัญญาระยะยาว8ปี ของ กฟผ.ในปริมาณไม่เกิน 1.5ล้านตันต่อปี ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้และ ได้ผู้ชนะคือ บริษัท ปิโตรนาส แอลเอ็นจี ของมาเลเซีย ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า1แสนล้านบาท ถูกยกเลิกไปด้วย https://www.energynewscenter.com/8280-2/
 
 
แสดงว่าลุงตู่เอื้อประโยชน์ให้แต่ปตท. ที่รัฐถือหุ้นแค่ 51% มากกว่า กฟผ.ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ 100% ใช่หรือไม่ และเป็นเหตุปัจจัยให้ค่าไฟแพง เพราะรัฐบาลบีบให้กฟผ. ต้องซื้อ LNG ราคาแพงจากปตท.ใช่หรือไม่
 
แทนที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาค่าไฟแพงที่ต้นเหตุ คือหยุดเอื้อประโยชน์กลุ่มทุนพลังงาน ด้วยการกำหนดกติกาที่เป็นธรรมให้กับประชาชน กลับแก้ปัญหาแบบฉาบฉวย เอาเงินถึงหมื่นกว่าล้านมาลดค่าไฟ ซึ่งเป็นเฉือนเนื้อของรัฐมาหลอกตาชาวบ้านว่ารัฐบาลช่วยอุ้มค่าไฟแพง แต่แท้ที่จริงงบประมาณก็เป็นภาษีชาวบ้านอีกนั่นแหละ ทั้ง2 วิธีก็คือเฉือนเนื้อของรัฐ หรือเนื้อของชาวบ้าน แต่ไม่ยอมแตะต้องเฉือนเนื้อของเอกชนบ้าง เพราะอะไร !?
 
ถ้าลุงตู่ยังไม่เข้าใจอริยสัจสี่ว่าสมุทัยค่าไฟแพงเกิดจากนายกรัฐมนตรี ที่เป็นประธานกพช.เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนพลังงานมาเอาเปรียบชาวบ้าน แล้วจะไปแก้ทุกข์ให้ชาวบ้านที่ต้นเหตุค่าไฟแพงได้อย่างไร กลับสามารถล้วงเงินรัฐไปหาเสียงได้อีกด้วย ใช่หรือไม่!?
 
ถ้าอัฐยายซื้อเสียงยายได้สำเร็จ ประชาชนก็รอเผชิญกับค่าไฟในรัฐบาลนี้แบบ “แพงแล้ว แพงอยู่ แพงต่อไป “
รสนา โตสิตระกูล
28 เมษายน 2566