ขอชี้แจงเรื่องการถมดินจากอุโมงค์น้ำ กทม. ทำต้นไม้พุทธมณฑลตาย 195,200 ต้น

ขอชี้แจงเรื่องการถมดินจากอุโมงค์น้ำ กทม. ทำต้นไม้พุทธมณฑลตาย 195,200 ต้น

  

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

ขอชี้แจงเรื่องการถมดินจากอุโมงค์น้ำ กทม. ทำต้นไม้พุทธมณฑลตาย 195,200 ต้น
 
 
 
หลังจากบทความเรื่อง“พื้นที่สีเขียวพุทธมณฑลถูกก่นถางถึง 30.5ไร่เป็นที่ทิ้งดินจากการขุดอุโมงค์น้ำของสำนักระบายน้ำ กทม.” และมีต้นไม้ตาย 195,200 ต้นตายนั้น สำนักระบายน้ำ กทม. ออกมาชี้แจงผ่านเพจ กทม. ว่า “สำหรับจำนวนต้นไม้ที่ได้รับผลกระทบ สำนักการระบายน้ำยืนยันว่าจากการตรวจสอบพบว่ามีต้นไม้ยืนต้นตายประมาณ 60 ต้นเท่านั้น ไม่ใช่หลักแสนต้นตามที่มีการกล่าวอ้าง และเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำ ได้ร่วมกับสำนักงานพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และผู้รับจ้างโครงการฯ จัดประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางฟื้นฟูพื้นที่โดยเร่งด่วน
 
 
 



 
 
แนวทางฟื้นฟูดังกล่าว ประกอบด้วยการปรับลดความสูงของหน้าดิน เปิดร่องระบายน้ำรอบต้นไม้ และจัดหาต้นกล้ามาปลูกทดแทนต้นไม้ที่ได้รับผลกระทบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2568 เพื่อฟื้นสภาพพื้นที่ให้กลับมาเป็นพื้นที่สีเขียวตามเดิม”
 
ขอชี้แจงเรื่องต้นไม้ตาย 195,200 ต้น คือต้นไม้ในพื้นที่30.5ไร่ ที่ถูกถากถางออกไปเพื่อเป็นพื้นที่รองรับการถมดินในพื้นที่พุทธมณฑล จากการขุดอุโมงค์น้ำทวีวัฒนา และนำดินมาถมในพื้นที่พุทธมณฑล ถนนสายค จากการคำนวณมีพื้นที่ที่ถูกถากถางพื้นที่สีเขียวออกไปเป็นจำนวน 30.5ไร่ คิดเป็น 48,800 ตารางเมตร
 
พื้นที่สีเขียวที่ต้นไม้ขนาดเล็ก ขนาดกลางถูกถางออกนั้นประมาณว่า 1 ตารางเมตรมีต้นไม้ 4 ต้น พื้นที่ 48,800 ตารางเมตร จึงมีต้นไม้ประมาณ 195,200 ต้นที่ถูกถางออกไป ส่วนต้นไม้ใหญ่ที่ถูกดินถม 1.5-2 เมตร ยืนต้นตายเท่าไหร่ ยังไม่สามารถนับได้
 
 
 


 
 
 
แต่ทางสำนักระบายน้ำได้ชี้แจงว่า มีต้นไม้ใหญ่ยืนต้นตายประมาณ 60 ต้น และจะมีมาตรการฟื้นฟูประกอบด้วยการปรับลดความสูงของหน้าดิน เปิดร่องระบายน้ำรอบต้นไม้ และจัดหาต้นกล้ามาปลูกทดแทนต้นไม้ที่ได้รับผลกระทบ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2568 เพื่อฟื้นสภาพพื้นที่ให้กลับมาเป็นพื้นที่สีเขียวตามเดิมนั้น
 
คณะอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ลงพื้นที่เมื่อ 8 กค.2568 พบว่ายังมีการขุดหลุมลึกประมาณ 4หลุม ขนาดความกว้าง X ยาว X ลึก = 1.5 X 2 X 4 เมตรเพื่อรองรับดิน และยังมีการถมดินในพื้นที่สูง 1.5 - 2 เมตรอยู่ ซึ่งต้นไม้ใหม่ๆ ที่ถูกถม เห็นได้ว่าใบยังเขียวขจีอยู่
 
ส่วนมาตรการลดความสูงของดินที่ถมนั้น ยังไม่คืบหน้า ภาพที่ต้นไม้ยืนตายที่มีดินถมสูง1.5-2 เมตรยังอยู่เช่นเดิม ดังนั้นที่ว่าจะแก้ไขให้เสร็จ ทั้งลดระดับดิน และปลูกต้นไม้เสริมเพื่อกลับมาคงสภาพเดิมภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ไม่น่าจะเป็นไปได้
 
 




 
 
ทางสภาองค์กรของผู้บริโภคใคร่ขอเรียนเชิญท่านผู้ว่าฯชัชชาติ (หรือตัวแทน) และผอ.สำนักระบายน้ำ รวมทั้งผอ.พุทธมณฑล สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ มาร่วมประชุมกับคณะอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภคในวันที่ 23 กค.2568 ศกนี้ เพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริงในโครงการดังกล่าว และหาแนวทางแก้ไขร่วมกันเพื่อฟื้นฟูให้พุทธมณฑลกลับมาสู่สภาพดังเดิมโดยเร็วที่สุด
 
การจะฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกทำลายไป 30.5 ไร่ น่าจะเป็นงานใหญ่ที่จะใช้เวลามากกว่าภายในเดือนกรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน และคงต้องอาศัยผู้มีความรู้เรื่องการปรับปรุงดิน และการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ก่อนการปลูกต้นไม้ทดแทน ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากท่านผู้ว่าชัชชาติในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงดินจากหน่วยงานของ กทม. และองค์กรมูลนิธิต่างๆ
 
ในเบื้องต้นดิฉันได้กราบเรียนปรึกษาพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ประธานมูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะในการระดมอาสาสมัครมาร่วมกันปลูกต้นไม้ทดแทนในเวลาที่เหมาะสม หลังจากการแก้ไขสภาพและตระเตรียมพื้นที่ให้พร้อมแก่การปลูกต้นไม้ทดแทน ซึ่งท่านให้ความเมตตาที่จะร่วมกันแก้ไขฟื้นฟูสภาพของพื้นที่พุทธมณฑลให้กลับมาร่มรื่นเป็นรมณียสถานดังเดิม
รสนา โตสิตระกูล
15 กค. 2568