"คสช.จะโปร่งใสหากไม่เลือกปฏิบัติ"

"คสช.จะโปร่งใสหากไม่เลือกปฏิบัติ"

 

 

CHANGE The World  รสนา โตสิตระกูล

 

"คสช.จะโปร่งใสหากไม่เลือกปฏิบัติ"

 

 

กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นกองทุนที่เก็บจากผู้ใช้น้ำมันทุกชนิด ลิตรละ1สลึง ได้เงินเข้ากองทุนฯประมาณปีละ8,000-9,000 ล้านบาท และปัจจุบันเป็นกองทุนที่มีเงินรองรังสูงถึงราว 40,000 ล้านบาท หากเปรียบกับกองทุน สสส.ที่กำหนดให้จัดเก็บจากภาษีเหล้าและบุหรี่ 2% เคยมีรายรับเริ่มต้นปีละ2,000 ล้านบาท ปัจจุบันจัดเก็บได้เพิ่มเป็น 4,000 ล้านบาท เห็นว่าจะมีการจำกัดวงเงินไม่ให้เกินกว่านั้น แม้แต่ทีวีสาธารณะอย่างไทยพีบีเอส ก็ได้รับภาษีจัดสรรแบบเดียวกันจากเหล้าและบุหรี่แต่ถูกจำกัดไว้ไม่เกินปีละ 2,000ล้านบาทเท่านั้น

 

กองทุนอนุรักษ์พลังงานเกิดขึ้นตามพ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535 เป็นกองทุนฯที่เกิดมานานและอยู่อย่างเงียบเชียบ จนคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำว่ามีกองทุนฯนี้อยู่ ทั้งที่ถูกเก็บเงินเข้ากองทุนฯจากการใช้น้ำมันทุกลิตร การที่กองทุนอนุรักษ์พลังงานนอกจากไม่ได้กำหนดเพดานการจัดเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันแล้ว ยังมีการเพิ่มการจัดเก็บจากเดิมลิตรละ5สตางค์ เป็น25สตางค์ ทำให้มีเงินสะสมมหาศาลเป็นจำนวนหลายหมื่นล้านบาท เป็นกองทุนฯที่อยู่ในสังคมวงแคบมากและสื่อมวลชนก็ไม่เคยฉายสปอตไลท์ไปตรวจสอบดูรายละเอียดขององค์กรผู้รับทุนว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แต่ละองค์กรได้รับเงินไปโดยรวมเท่าใด มีประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้ได้รับทุนหรือไม่ สื่อมวลชนไม่ได้มีการตรวจสอบ

 

เจาะลึกกองทุนฯนี้ในระดับเดียวกับที่มีการตรวจสอบกองทุนสสส.อย่างละเอียดยิบ หวังว่าสื่อมวลชนจะมีการตรวจสอบกองทุนอนุรักษ์พลังงานหลังจากนี้ ในหน้าเวบไซต์ของกองทุนฯ ไม่มีรายละเอียดกิจกรรมที่รับทุน และเมื่อดูข้อมูลฐานะการเงินของกองทุนในปี 2558 พบตัวเลขที่ผิดปกติอยู่ 3 เดือน คือเดือนพฤษภาคม มิถุนายนและธันวาคม ดังนี้ 1. เดือนเมษายน 2558 มียอดเงินคงเหลือ 40,677.41 ล้านบาท แต่ยกยอดมาเดือนพฤษภาคมกลับมียอดเงินเพียง 36,009.89 ล้านบาท จึงมียอดเงินต่างกัน 4,667.52 ล้านบาท 2. เดือนพฤษภาคม 2558 มียอดคงเหลือ 40,785.80 ล้านบาทแต่ยกยอดมาเดือนมิถุนายน 36,009.89 ล้านบาท จึงมีตัวเลขต่างกัน 4,775.91 ล้านบาท 3. เดือนพฤศจิกายน 2558 มียอดคงเหลือ 42,993.10 ล้านบาท แต่ยกยอดมาเดือนธันวาคม 35,486.94 ล้านบาท มีตัวเลขต่างกัน 7,506.16 ล้านบาท

 

รายงานฐานะการเงินของกองทุนอนุรักษ์พลังงานในปี 2558 จึงมีตัวเลขที่ขาดหายไป 16,949.59ล้านบาท ก่อนหมดวาระสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ในต้นเดือนกันยายน 2558 มีกรรมการในกองทุนอนุรักษ์ฯท่านหนึ่งที่เป็นสมาชิก สปช.สายพลังงาน เคยพูดในการประชุมครั้งหนึ่งว่า "คสช.มาเอาเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานไป 9,000 ล้านบาท ไม่รู้ว่าเป็นการยืมหรือเอาไปเลย ถ้าเอาไปเลย จะลงบัญชีอย่างไร?" ดิฉันขอเรียกร้องให้ท่านหัวหน้า คสช. โปรดดำเนินการดังนี้ 1. ขอให้มีการชี้แจงว่าคสช.มีการนำเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานออกไปจริงหรือไม่ตามที่กรรมการกองทุนฯท่านนั้นได้กล่าวอ้างถึง? 2. ขอให้มีการตรวจสอบการใช้เงินของกองทุนอนุรักษ์พลังงานย้อนหลังอย่างน้อย 10 ปี ว่ามีการให้ทุนกับองค์กรใดบ้าง เป็นจำนวนเงินในแต่ละองค์กรเท่าใดและมีกรรมการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ โดยตรวจสอบตามมาตราฐานเดียวกับที่คสช.ใช้ตรวจสอบกองทุนสสส. และภาคประชาสังคมที่รับทุนจากกองทุนสสส.

 

3. ขอให้ท่านหัวหน้าคสช.สั่งให้ยุติการเก็บเงินเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงานในระยะนี้ไปก่อน เพราะมีเงินสะสมในกองทุนฯมากเกินพอ และควรมีการกำหนดเพดานจำนวนเงินในแต่ละปีที่จะจัดเก็บจากผู้ใช้น้ำมัน ดิฉันขอให้ท่านหัวหน้าคสช.เร่งตรวจสอบกองทุนนี้ให้เข้มงวดไม่น้อยกว่าการตรวจสอบกองทุนสสส. เพราะมีเงินของประชาชนสะสมเป็นจำนวนมากที่อยู่นอกระบบกระทรวงการคลัง ซึ่งจากข้อมูลตัวอย่างที่นำมาเเสดงนั้น พอจะเป็นประจักษ์พยานได้ว่า มีการกำกับดูแลที่ขาดประสิทธิภาพ ขาดความโปร่งใส และขาดกลไกตรวจสอบที่รัดกุมเพียงพอ จึงง่ายต่อการที่กองทุนฯ นี้จะถูกนำไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ หรืออาจเปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้ง่าย

 

ในขณะนี้ท่านหัวหน้าคสช. ย่อมทราบดีว่าราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เศรษฐกิจโดยรวมไม่ดี การคลังของประเทศก็ฝืดเคือง ไม่มีเงินมากพอที่จะมาดูแลชดเชยราคาพืชผลได้ทั้งหมด จึงไม่ควรปล่อยให้มีกองทุนขนาดใหญ่ที่เก็บเงินโดยตรงจากประชาชน และอยู่เป็นเสือนอนกินโดยไม่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ขอให้ท่านหัวหน้า คสช.เร่งตรวจสอบกรณีกองทุนอนุรักษ์พลังงานอย่างไม่ลูบหน้าปะจมูกโดยเร็ว เพื่อความน่าเชื่อถือในความโปร่งใสของคสช.เองว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด