“นายกฯจะปราบโกงจริงหรือดีแต่พูดลอยๆ?”

“นายกฯจะปราบโกงจริงหรือดีแต่พูดลอยๆ?”

 

 

 

 

 


CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

 

 

“นายกฯจะปราบโกงจริงหรือดีแต่พูดลอยๆ?”

 

 

 

ท่านนายกฯได้กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวันที่22 พ.ย 2560 ว่า “หลายคนออกมาบอกว่าโกงกันแล้วยังจะมาถามหาใบเสร็จอีก ก็เพราะผมไม่ได้อยู่ร่วมการโกง ก็จะไม่รู้พวกท่านก็ต้องบอกถึงสาระสำคัญ ไม่ใช่มาบอกลอย ๆ แล้วจะไปหาใครเจอ ผมสั่งไปแล้วทั้งหมด แต่ไม่มีรายงานว่าเจอ ดังนั้นหากใครเจอก็ต้องบอกผม อย่าไปบิดเบือนกันอยู่ หรือใครไม่อยากเห็นประเทศไทยเดินหน้า มีหรือไม่”

 

ดิฉันขอใช้ช่องทางนี้ส่งข้อมูลถึงท่านนายกฯ ขอให้ท่านทำจริงเหมือนที่ให้สัมภาษณ์เถิด ต้องการเอกสารใด พร้อมส่งมอบให้ท่านนายกฯประกอบการพิจารณา

 

คดีที่บริษัทเชฟรอน(ไทย) จำกัดสำแดงการส่งออกเป็นเท็จเพื่อยกเว้นภาษีน้ำมันตั้งแต่ปี 2554-2557 และ 2558-2559 หลังจากมีคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าเป็นการค้าชายฝั่งที่ต้องเสียภาษี จากนั้นก็มีคำกล่าวอ้างว่าบริษัทเชฟรอนได้จ่ายภาษีที่ได้ขอยกเว้นไปแล้วเมื่อ17 มีนาคม 2560

 

เนื่องจากกรณีนี้ลงเป็นข่าวแพร่หลายโดยสำนักข่าวไทยพับลิก้า สำนักข่าวอิศรา รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออนไลน์ของสำนักข่าวเอเอสทีวี จนเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง จึงทำให้กรมศุลกากรจำต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่า น้ำมันที่ส่งไปใช้ที่แท่นขุดเจาะถือเป็นการค้าชายฝั่งที่ต้องเสียภาษี หรือ เป็นการส่งออกที่ได้รับการยกเว้นภาษี และคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) วินิจฉัยว่าเป็นการค้าชายฝั่งที่ต้องเสียภาษี

 

สาธารณชนย่อมอยากรู้รายละเอียดต่อว่า ที่มีข้อมูลไม่เป็นทางการกล่าวอ้างว่า เชฟรอนได้มาจ่ายภาษีแล้วตั้งแต่17 มีนาคม 2560 นั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร

 

จึงขอให้ท่านนายกฯสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาให้ข้อมูลต่อสังคมดังนี้

 

1)รายละเอียดการจ่ายคืนภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่มของบริษัทเชฟรอนไทยเป็นการจ่ายคืนของปีใดบ้าง เป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ และมีการเก็บเบี้ยปรับและเงินเพิ่มหรือไม่ ในจำนวนเท่าไหร่

 

2)บริษัทเชฟรอนสำรวจและผลิตที่ซื้อน้ำมันปลอดภาษีจากบริษัทเชฟรอน(ไทย)และนำมาใช้กับเรือบริการที่แล่นในอ่าวไทยจนถูกด่านศุลกากรสงขลาจับน้ำมันเถื่อนได้1.6ล้านลิตร มูลค่า 48ล้านบาท แต่ผู้บริหารในกรมศุลกากรได้ถ่วงเวลามาเกือบจะ4ปี (ตั้งแต่ก.พ2557) ไม่ยอมปิดคดีเพื่อส่งเงิน48ล้านบาทเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน ขอให้ช่วยตอบว่าเมื่อไหร่จะปิดคดีได้

 

3)การสำแดงเท็จในการส่งน้ำมันโดยใช้รหัสZZ (หมายถึงเขตต่อเนื่อง) และรหัสYY (หมายถึงส่งออกนอกราชอาณาจักร) เพื่อขอยกเว้นภาษี ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการหารือสำนักกฎหมายเรื่องส่งน้ำมันไปใช้แท่นขุดเจาะเป็นการส่งออกที่ได้รับการยกเว้นภาษี จึงเป็นการหลีกเลี่ยงพ.ร.บ ศุลกากร2469 เพื่อฉ้อภาษีของรัฐ มีบทลงโทษผู้กระทำการหลีกเลี่ยงภาษี ตามมาตรา27,99 โดยมีโทษปรับ4เท่าของ”มูลค่าสินค้า”และมีโทษอาญาอีกด้วย และเมื่อพิจารณาประกอบมาตรา16 ของพ.ร.บ ศุลกากร ฉบับที่9 ที่บัญญัติชัดเจนว่า

 

การกระทำผิดตามมาตรา 27 ,99 “ถือเป็นความผิดโดยมิพักต้องคำนึงว่าผู้กระทำ ทำด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อ” ดังนั้นบริษัทเชฟรอนจะอ้างว่าปฏิบัติตามคำตอบข้อหารือของสำนักกฎหมายในกรมศุลกากรเพื่อให้พ้นผิดไม่ได้ เพราะกฎหมายไม่คุ้มครองผู้ตอบคำหารือที่ผิดกฎหมาย และไม่คุ้มครองผู้ปฏิบัติตามคำหารือที่ผิดกฎหมายด้วย

 

ขอถามว่ามีการดำเนินการปรับบริษัทเชฟรอนไทย ฐานสำแดงเท็จเพื่อฉ้อภาษีของรัฐหรือไม่

 

4)กรณีการส่งคอนเดนเสทจากแหล่งเจดีเอมาขายบริษัทน้ำมันในประเทศไทย โดยขายผ่านบริษัทนายหน้าของสิงคโปร์โดยไม่เสียภาษีขาออกและขาเข้านั้น
ดีเอสไอได้ตรวจสอบกรณีนี้ จนสามารถแจ้งข้อกล่าวหาต่อบริษัท CPOC และCHESS แต่ผู้บริหารในกรมศุลกากร ในกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและกระทรวงยุติธรรมได้มีมติประชุม3ฝ่ายยับยั้งการดำเนินคดีของดีเอสไอ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจฝ่ายบริหารไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมที่มาถ่วงดุลการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ชอบ

 

ท่านนายกฯควรสั่งการให้ดีเอสไอ และสำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินคดีต่อไปโดยไม่ชักช้า

 

5)ท่านนายกฯสมควรตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนวินัยราชการผู้บริหารในกรมศุลกากรและข้าราชการในกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและกระทรวงอื่นๆ หากพบหลักฐานการมีส่วนร่วมในการเอื้อประโยชน์เอกชนและขัดขวางกระบวนตรวจสอบเอกชนที่โกงภาษีของรัฐ

 

ท่านนายกฯควรรับรู้ว่า การหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทเอกชนนั้น มักจะกระทำโดยอาศัยความร่วมมือจากสำนักกฎหมายในกระทรวง ทบวงกรม ที่ตอบข้อหารือที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเกราะกำบังให้บริษัทเอกชนสามารถแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งควรมีการวางมาตราการตรงจุดนี้อย่างเข้มงวด เพื่อไม่ปล่อยเป็นจุดอ่อนในการกระทำผิด และหากไม่มีผู้บริหารระดับสูงขึ้นไปทำตัวเป็นหลังพิงให้ การสมคบกันทำผิดกฎหมายเพื่อฉ้อโกงภาษีของรัฐย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้ ใช่หรือไม่

 

กรณีโกงภาษีนี้ดิฉันมิได้โจทก์ขึ้นลอยๆแต่มีหลักฐาน ข้อเท็จจริง ซึ่งบางเรื่องกฤษฎีกาก็ตีความแล้วและดี เอส ไอ ก็กำลังสอบสวนอยู่ แต่มีความพยายามเขี่ยลูกออก ถ่วงเวลา และทำลายหลักฐานโดยกลุ่มข้าราชการระดับสูง

 

หากท่านนายกฯไม่สนใจตรวจสอบคดีนี้ ดิฉันก็จะส่งเรื่องนี้ไปให้ปปช.ตรวจสอบต่อไป และเรื่องอาจกลายเป็นว่าท่านนายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดเป็นผู้ปล่อยปละละเลยเรื่องนี้เสียเองก็เป็นได้

 

รสนา โตสิตระกูล
26 พ.ย 2560

 

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1499368856806339&id=236945323048705