วรรณิศา ศรีวิเชียร มาร์คาร์ บทบาท “แม่” ที่ทำเพื่อลูก...

วรรณิศา ศรีวิเชียร มาร์คาร์ บทบาท “แม่” ที่ทำเพื่อลูก...

 

 

 

 

 

 

CHANGE  Your life 

เภสัชกร วรินทร  นันทวัน ณ อยุธยา

 

วรรณิศา ศรีวิเชียร   มาร์คาร์ 

บทบาท “แม่”  ที่ทำเพื่อลูก...

 

 

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ   ฉบับนี้เดือนแห่งความรักระหว่างมารดาและบุตร   หมอเต้ยเป็นปลื้มมาก   เพราะได้พูดคุยกับดารานักแสดงในดวงใจ  พี่บี  คุณวรรณิศา ศรีวิเชียร   มาร์คาร์  อยู่ๆผมก็คิดถึงพี่บี วรรณศา ศรีวิเชียร ว่าตอนนี้เธอทำอะไรอยู่   เพราะเธอเคยเป็นนางเอกดังมาก   เผอิญไปนึกถึงเหตุการณ์ ๆนึง     ย้อนไป สมัยที่ไมเคิล แจ็คสันมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย      มีภาพคุณบี ได้ขึ้นไปบนเวทีคอนเสิร์ต ได้ใกล้ชิด โอบ กอดเบาๆกับไมเคิลด้วย  รุ่งเช้าเป็นข่าวดัง ลงหน้าหนึ่งทุกฉบับ   เธอโชคดีจัง มีโอกาสได้ขึ้นไปยืนเคียงคู่กับคนดังระดับโลก  นอกจากเป็นนักแสดงมากฝีมือ  อีกหน้าที่หนึ่ง เธอมีหน้าที่คือ “เป็นแม่”  และเป็นแม่ที่สามารถยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อลูก        วันนี้ผมเลยจะขอนำท่านผู้อ่านทุกท่าน     มาร่วมกันเจาะลึกว่าปัจจุบันคุณบีเธอทำอะไรอยู่และมีความสุขดีหรือไม่กับครอบครัวน่ารักๆของเธอ ติดตามได้เลยครับ

ได้ข่าวว่าน้องโรสลูกสาวพี่บีไม่ค่อยแข็งแรง

“โรสไม่สบายตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ แต่มารู้ว่าเป็นโรคตับตอนอายุได้เดือนครึ่ง คุณหมอแจ้งว่าน้องเป็นโรคท่อน้ำดีอุดตันเลยทำให้เกิดอาการตับแข็ง จากนั้นก็เริ่มเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดีน้องผ่าตัดครั้งแรกที่รามา ตอนนั้นอายุได้สองเดือนคะ แต่ไม่ประสพความสำเร็จ คุณหมอที่รามาเลยให้คำปรึกษาว่าควรจะพาน้องไปเปลี่ยนตับที่ต่างประเทศ จากนั้นพี่บีย้ายน้องมาที่บำรุงราษฎร์ เพื่อรอระหว่างที่ติดต่อโรงพยาบาลที่ต่างประเทศ จนสุดท้ายจึงตัดสินใจเลือกที่อเมริกา เพราะหมอที่เก่งที่สุดเรื่องการเปลี่ยนตับจากพ่อแม่สู่ลูกอยู่ที่นั่น ตอนน้ันเลยตัดสินใจย้ายทั้งครอบครัวไปอยู่ที่อเมริกา ตอนนั้นโรสอายุได้สามเดือนคะ โรสไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล Lucile Packard Children's Hospital Stanford ครอบครัวพี่บีก็อาศัยอยู่เมืองที่ใกล้โรงพยาบาล

“สามปีหลังจากน้องดีขึ้นเราก็กลับมาเมืองไทย แต่ก็ต้องเจาะเลือดตรวจทุกเดือนแล้วส่งผลกลับไปให้หมอที่อเมริกาทุกครั้ง และน้องต้องทานยาทุกวัน แต่ช่วงอยู่เมืองไทยก็มีกลับไปหาหมอที่อเมริกาอย่างน้อยปีละครั้ง พอโรสอายุได้เจ็ดขวบก็ต้องย้ายกลับไปรักษาตัวที่อเมริกาอีกครั้ง ตอนนั้นครอบครัวก็ต้องย้ายกลับไปหมดอีก อยู่อีกสามปีพอโรสแข็งแรงดีขึ้นมาก ก็ย้ายกลับมาเมืองไทยอีกครั้งค่ะ แต่ก็ยังต้องเจาะเลือดส่งผลทุกอย่างไปที่หมอที่อเมริกาเหมือนเดิมค่ะ แต่โรสมีหมอที่เมืองไทยชื่ออาจารย์สุพร อยู่ที่รามาดูแลอย่างใกล้ชิดอีกด้วยค่ะ แต่ก็ยังกลับไปให้หมอที่อเมริกาปีละครั้งเหมือนเดิมคะ”

ได้ข่าวว่าลูกสองคนของพี่บี สร้างความภาคภูมิใจและความปลื้มใจให้พี่บีมากๆ

“ลูกสองคนทำให้พี่บีภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นแม่พวกเขามากๆคะ ลูกสองคนรักพ่อกับแม่มาก เค้าทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอดตั้งแต่เรียนหนังสือคุณครูทุกคนจะบอกเล่าให้ฟังเสมอว่าเขาเป็นเด็กดีมาก และถึงแม้โรสต้องขาดเรียนเยอะเพราะสุขภาพไม่ดี   ไบรอันพี่ชายก็ต้องขาดเรียนตามน้องด้วยบ้างหรือต้องย้ายที่เรียนตามน้องไปด้วยแต่ทั้งสองคนก็สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬา ได้ทั้งคู่ ลูกทั้งสองคนไม่เคยทำให้พี่บีเสียใจหรือผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว เป็นลูกๆที่เชื่อฟังพ่อกับแม่ และเป็นเด็กที่มีน้ำใจรู้จักเห็นใจคิดถึงคนที่เค้าลำบากกว่าเรา ทุกปีพวกเขาจะเอาของเล่นตัวเองที่มีและอยู่ในสภาพที่ดี เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าที่ตัวเองใส่ไม่ได้แล้ว จะให้พ่อกับแม่เอาไปให้เด็กต่างจังหวัดบ้าง เอาเงินที่ตัวเองได้รับในโอกาสสำคัญๆ เอาไปเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้าง ซื้อขนมไปให้เด็กยากจน บริจาคเลือดเพื่อคนอื่น บริจาคผมให้น้องๆที่เป็นมะเร็ง ความคิดของลูกๆที่แสดงออกมามันทำให้พี่บีรู้สืกว่าตัวเองเป็นแม่ที่มีความสุขที่สุดในโลกคะ”

พี่บีมีแผนต่อไปในอนาคตสำหรับตัวเอง และลูกๆ อย่างไรบ้างครับ

“สำหรับชีวิตพี่บี พี่บีวางแผนชีวิตตัวเองอย่างจริงๆจังๆไม่ได้มาตั้งแต่โรสไม่สบายแล้วคะ  ยังไม่รู้ว่าจะอยู่ที่ไหนได้นานแค่ไหน เพราะชีวิตตอนนี้ขึ้นอยู่กับอาการของโรสอย่างเดียวเลยค่ะ ชีวิตพี่บีมีหลักๆอยู่สองที่คือที่เมืองไทยและอเมริกา ถ้าโรสเรียนจบเค้าอยากอยู่ที่ไหนพี่บีก็อยู่ที่นั่น  แต่โรสอยากทำงานที่ UN หรือ Embassyคะ ลูกชายอยากทำงานเบื้องหลัง อยากทำหนัง เขียนบท เป็นช่างภาพคะ อะไรที่ลูกทำแล้วมีความสุขนั่นแหล่ะคะแผนชีวิตพี่บี”

สวยงามจริงๆนะครับ สำหรับแม่ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก   และดูแลลูกด้วยความรักความอบอุ่น   ตอนสัมภาษณ์พี่บี   เล่าไปยิ้มไป    หมอเต้ยขอมอบรางวัลแม่ดีเด่นลูกดีเด่น ให้ไปเลยครับ  สุดท้ายนี้ขอนำโอวาทของพระธรรมสิงหบุราจารย์มาแสดงนะครับ “แม่นั้นสำคัญมาก แม่ต้องรักษาลูกไว้ แม่ที่ดีต้อง เป็นแม่แบบ แม่แผน แม่แปลน แม่บันได แม่บ้าน แม่ศรีเรือน อยู่ตรงนี้ ลูกจะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับแม่เป็นหลักให้ลูกไม่ใช่พ่อ ถึงพ่อจะดีแสนดี แต่แม่ฉุยแฉกแตกราน สุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จัก เก็บงำให้ดี ไม่เป็นแบบที่ดีของลูก รับรองเจ๊งแน่ฯแม่บ้านดี ลูกดีหมด แม่บ้านดี ผัวเป็นอะไรก็ได้ เป็นนายพลได้ เป็นเจ้าเมืองได้ เป็นอาเสี่ยได้ฯผัวขี้เหล้าเมายาไม่เป็นไร ถ้าภรรยาดีซักคน ลูกดีแน่ ผัวกินเหล้าเจ้าชู้ อย่าไปสนใจ เราจะไปตามผัวคนชั่วมาทำไม ดูแลลูกให้ดี สวดมนต์ ทำกรรมฐานแผ่เมตตาให้เขามีความสุข เดี๋ยวผัวดีคนเดิมก็กลับมา” สำหรับฉบับนี้สวัสดีครับ