รู้หรือไม่ว่า รองเท้าที่เราใส่อยู่อาจมีที่มาจากหมากฝรั่ง

รู้หรือไม่ว่า รองเท้าที่เราใส่อยู่อาจมีที่มาจากหมากฝรั่ง

 

 

 

รู้หรือไม่ว่า รองเท้าที่เราใส่อยู่อาจมีที่มาจากหมากฝรั่ง

มาทำความรู้จักกับ 5 วัสดุอันน่าทึ่งที่สามารถนำมารีไซเคิลได้

 

เราทุกคนได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่า การรีไซเคิลนั้นเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และคงไม่มีใครที่ไม่เคยผ่านช่วงเวลาการเก็บรวบรวมหนังสือพิมพ์เก่า เก็บกระป๋องน้ำ หรือสะสมขวดน้ำใช้แล้วเพื่อนำไปขาย

 

วัสดุรีไซเคิลมีประโยชน์มากมาย และสิ่งของที่มีส่วนประกอบเป็นวัสดุรีไซเคิลมักจะมีน้ำหนักที่เบาลง และสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้

 

ด้วยความพยายามในการช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เราจึงได้เห็นการนำวัสดุหลากหลายชนิดซึ่งรวมถึงวัสดุที่คุณอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อนในชีวิตประจำวันมารีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้ง

 

ถั่วเหลือง

 

ถั่วเหลืองสามารถใช้งานได้หลายอย่าง รวมถึงการใช้เป็นส่วนประกอบในยานพาหนะ กากถั่วเหลืองที่เหลือใช้จะถูกบด บีด และแปรรูปให้เป็นโฟม เพื่อผลิตเบาะที่นั่งและเบาะรองหลัง ฟอร์ดได้เปิดตัวนวัตกรรมนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 และมีรถยนต์จำนวนกว่า 15 ล้านคันบนท้องถนน ที่ใช้เบาะนั่งที่ทำมาจากโฟมที่ผลิตจากถั่วเหลือง ซึ่งการใช้โฟมถั่วเหลืองจะช่วยลดการใช้น้ำมันและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

 

 

 

จุกไม้ก๊อกขวดไวน์

 

จุกไม้ก๊อกทำมาจากเปลือกของต้นโอ๊คซึ่งนิยมปลูกในประเทศโปรตุเกสและสเปน และใช้เวลา 9 ปีกว่าจะเก็บเกี่ยวได้ วัสดุไม้ก๊อกจากทวีปยุโรปได้ถูกส่งออกไปทั่วโลกเพื่อนำไปผลิตจุกไวน์และแชมเปญ ทั้งนี้การรีไซเคิลจุกไม้ก๊อกนับเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานต่อไป โดยนำกลับมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ กระเบื้องปูพื้นไปจนถึงฉนวนกันความร้อนสำหรับอาคารและปะเก็นรถยนต์ จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของจุกไม้ก๊อกจะยังคงอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะทิ้งมันลงในถังขยะรีไซเคิลไปแล้ว

 

หมากฝรั่ง

 

ใช่แล้ว! หมากฝรั่งที่เราเคี้ยวแล้ว สามารถนำกลับมาใช้อีกได้ครั้ง กัมดรอป (Gumdrop) บริษัทสัญชาติอังกฤษได้ติดตั้งถังบรรจุหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วในหลายๆ เมือง เช่น ลอนดอน และในหลากหลายสถานที่ เช่น สวนสนุกเลโก้แลนด์ เป็นต้น หมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วสามารถนำมาแปรรูปเป็นพลาสติกแบบอ่อนที่สามารถนำมารีไซเคิลเป็นกล่องอาหารกลางวันและรองเท้า ถังกัมดรอปที่เอาไส้เก็บหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วก็ผลิตมาจากหมากฝรั่งด้วยเช่นกัน

 

ถุงน่อง

 

 

ถุงน่องผลิตมาจากไนลอนสังเคราะห์ซึ่งจะใช้เวลากว่า 30 ปี ในการย่อยสลาย แทนที่จะทิ้งถุงน่องที่ไม่ใช้แล้ว คุณสามารถส่งมาได้ที่บริษัทโนนอนเซนส์ (No Nonsense) หรือศูนย์รีไซเคิลขยะในท้องถิ่นของคุณ ไนลอนที่ผ่านการรีไซเคิลจะถูกนำมาแปรรูปเพื่อผลิตเป็นเสื้อผ้า ฉนวนกันความร้อนสำหรับรถยนต์ วัสดุในสนามเด็กเล่นและของใช้อื่นๆ อีกมากมาย

 

เหล้าเตกิล่า

 

จริงๆ แล้วในทางเทคนิค คือ การนำต้นอากาเว่ที่ใช้ผลิตเหล้าเตกิล่ามาใช้แปรรูปเป็นวัสดุประเภทพลาสติกชีวภาพ แกนกลางของต้นอากาเว่จะถูกนำไปย่างก่อนนำไปบดและนำมาสกัดน้ำสำหรับกลั่นเป็นเตกิล่า ส่วนเส้นใยที่ไม่ใช้แล้วจะถูกนำมาผสมกับพลาสติกกลายเป็นวัสดุคอมโพสิต ล่าสุด ฟอร์ด จับมือกับ โฮเซ่ เกอร์โว่ ผู้ผลิตเหล้าเตกิล่าชื่อดังจากประเทศเม็กซิโก เพื่อผลิตส่วนประกอบในรถยนต์จากวัสดุแปรรูปจากต้นอากาเว่ "ปกติแล้วรถหนึ่งคันจะใช้วัสดุพลาสติกประมาณ 400 ปอนด์” เดบบี้ มีเลฟสกี หัวหน้าอาวุโสฝ่ายเทคนิคสำหรับพลาสติกและการค้นคว้าวิจัยเพื่อความยั่งยืนของฟอร์ด กล่าว “หน้าที่ของเราคือการหาพันธมิตรที่สามารถช่วยสร้างวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมลักษณะนี้ เพื่อช่วยโลกของเรา ฉันรู้สึกภาคภูมิใจกับงานชิ้นนี้ที่สามารถนำความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่สู่หลากหลายอุตสาหกรรม”

 

ใบสัปปะรด

 

เมื่อคาร์เมน อิโฮซ่า ดีไซเนอร์ชาวสเปนเดินทางมาที่ประเทศฟิลิปปินส์ และได้เรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายดั้งเดิมที่ผลิตจากใยสัปปะรด อิโฮซ่าได้คิดค้นและพัฒนากระบวนการที่สามารถแปรรูปใบสัปปะรดที่ถูกทิ้งหลังจากการเก็บเกี่ยวให้กลายเป็นวัสดุแฟชั่นที่ยั่งยืน จนกลายมาเป็น Piñatex ผ้าที่ไม่ต้องทอซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับทดแทนการใช้หนังสัตว์และยังสามารถนำไปผลิตกระเป๋า รองเท้าและเครื่องประดับแฟชั่นได้

 

วัสดุรีไซเคิลที่กล่าวมาทั้งหมดมีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าวัสดุต้นแบบ ทั้งยังส่งผลกระทบทางบวกต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การลดปริมาณขยะฝังกลบ ลดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ ลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรตระหนักถึงทุกครั้งเมื่อคุณเลือกสรรวัสดุสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

# # #

 

ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี

ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์และการสัญจร ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเดียร์บอร์น มลรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพนักงานรวมประมาณ 203,000 คน และมีโรงงาน 62 แห่งทั่วโลก โดยธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ การออกแบบ ผลิต ทำการตลาด และบริการหลังการขาย สำหรับรถยนต์ รถกระบะ รถเอสยูวี ในแบรนด์ฟอร์ด และแบรนด์ลินคอล์น ซึ่งเป็นแบรนด์ในตลาดรถหรู  ฟอร์ดมีความมุ่งมั่นในการค้นหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อขยายโมเดลทางธุรกิจด้วยการลงทุนในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และแผนการสัญจรอัจฉริยะ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังให้บริการด้านการเงินผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟอร์ดในด้านผลิตภัณฑ์หรือการบริการ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ www.corporate.ford.com