สำนักพิมพ์วิช เปิดตัวหนังสือ “ฉันนี่แหละ ลูกเถ้าแก่ (I’m the heir)”

สำนักพิมพ์วิช เปิดตัวหนังสือ “ฉันนี่แหละ ลูกเถ้าแก่ (I’m the heir)”

 

 

 

 

 

สำนักพิมพ์วิช เปิดตัวหนังสือ “ฉันนี่แหละ ลูกเถ้าแก่ (I’m the heir)” แกะรอยความสำเร็จจากทายาทธุรกิจสู่เส้นทางเถ้าแก่มืออาชีพ
 
 
 
 
“ทำไมถึงต้องมารับช่วงกิจการต่อจากครอบครัว ?” คำถามนี้คงเกิดขึ้นในใจของใครหลายคนที่เป็นทายาทธุรกิจ ไม่ว่าธุรกิจเล็กหรือใหญ่ รวมทั้ง SMEs และ Startup ล้วนมีพื้นฐานจากการเป็นธุรกิจครอบครัว หรือธุรกิจแบบกงสี เมื่อธุรกิจถึงคราวต้อง “เปลี่ยผ่าน” การส่งต่อความสำเร็จในการสร้างธุรกิจครอบครัวจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง นับเป็น “ความท้าทาย” ของรุ่นก่อตั้งและรุ่นสืบทอด เพราะทายาทธุรกิจรุ่นใหม่มักมีแนวคิด การทำงาน และการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากรุ่นพ่อแม่ อาจนำมาซึ่ง “ปัญหา” ในการส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น
 
หนังสือ “ฉันนี่แหละ ลูกเถ้าแก่ (I’m the heir)” โดย พราวพร คือหนึ่งในทายาทธุรกิจที่ต้องสืบทอดกิจการ ได้มองเห็นถึงรอยต่อแห่งการเปลี่ยนผ่านที่เกิดขึ้น จึงได้รวบรวมแนวคิด วิธีการทำงาน ประสบการณ์ ที่สำคัญคือ การหาจุดกึ่งกลางในการบริหารธุรกิจระหว่างผู้ก่อตั้งและทายาท ผ่านบทสัมภาษณ์ของผู้สืบทอดกิจการของครอบครัว ทั้ง 20 ท่าน ซึ่งประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน จนทำให้รู้ว่า “ทายาทที่ต้องรับช่วงธุรกิจต่อต้องเผชิญอะไรบ้าง” “กว่าจะเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร” และ “ทำอย่างไรให้รอยต่อของธุรกิจ ไม่เกิดรอยร้าวในครอบครัว”
 
คำตอบจากหนังสือเล่มนี้ั จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรรู้ ส่วนผู้ก่อตั้งจะได้เข้าใจถึงความคิดของคนรุ่นใหม่ เพื่อการส่งต่อและรับช่วงการทำธุรกิจได้อย่างราบรื่น และต่อยอดธุรกิจให้ก้าวไกลได้มากขึ้น เพราะการปรับตัวของทั้งสองฝ่าย จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
 
หนังสือ “ฉันนี่แหละ ลูกเถ้าแก่ (I’m the heir)” จำหน่ายในราคา 295 บาท มีวางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 418 2885
 
 
 
รายละเอียดหนังสือ
 
ชื่อหนังสือ : ฉันนี่แหละลูกเถ้าแก่ (I’m the heir)
ผู้เขียน : พราวพร
ขนาด : 14.5 x 21 cm.
จำนวนหน้า : 272 หน้า
กระดาษเนื้อใน : กระดาษถนอมสายตา SCG 75 แกรม พิมพ์ 1 สี ผสม 4 สี
กระดาษปก : อาร์ตการ์ด 260 แกรม พิมพ์ 4 สี เคลือบด้าน สปอต
ราคา : 295 บาท
ISBN : 978-616-8056-39-4
Barcode : 978-616-8056-39-4
สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์วิช
เดือนที่ออก : กันยายน 2562
ประเภท : บริหารธุรกิจ
จำนวนที่พิมพ์ : 1,600 เล่ม
จัดจำหน่าย : บริษัท วิช กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด
....................................................................
คำนำสำนักพิมพ์
 
สิ่งที่ยากกว่าการได้มา คือการรักษาไว้ การทำธุรกิจก็เช่นกัน เพราะ “การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นว่ายากแล้ว แต่การรักษาธุรกิจให้ยั่งยืนยากยิ่งกว่า”
 
การส่งต่อความสำเร็จในการสร้างธุรกิจครอบครัวจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง นับเป็นความท้าทายของรุ่นก่อตั้งและรุ่นสืบทอด เพราะวันนี้โลกได้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว การปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลกที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไป จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่การเปลี่ยนนี้ ก็นำมาซึ่งความไม่เข้าใจกัน และปัญหาอีกนานัปการ
 
เมื่อรุ่นเก่าก็เก๋า รุ่นใหม่ก็เจ๋ง
ทำไม เราจึงไม่นำข้อดีของคนสองรุ่นมารวมกันล่ะ ?
 
หนังสือ “ฉันนี่แหละลูกเถ้าแก่” (I’m the heir) โดย พราวพร คือหนึ่งในทายาทธุรกิจที่ต้องรับช่วงกิจการจากพ่อแม่ ได้เล็งเห็นรอยต่อแห่งการรับช่วงธุรกิจที่เกิดขึ้น จึงได้รวบรวมแนวคิด วิธีการทำงานจากเพื่อน ๆ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ผ่านบทสัมภาษณ์ของผู้สืบทอดกิจการของครอบครัว ทั้ง 20 ท่าน ซึ่งประกอบธุรกิจที่แตกต่างกัน จนทำให้รู้ว่า...
 
“ทายาทที่ต้องรับช่วงธุรกิจต่อต้องเผชิญอะไรบ้าง”
“ผู้บริหารรุ่นใหม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร”
“ทำอย่างไรให้รอยต่อของธุรกิจ ไม่เกิดรอยร้าวในครอบครัว”
“วิธีการปรับตัวของทั้งสองฝ่าย ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน”
 
 
คำตอบจากในหนังสือเล่มนี้ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบรุ่นใหม่ควรรู้อย่างยิ่ง รวมไปถึงพ่อแม่ผู้ก่อตั้งธุรกิจ ที่จะได้รับรู้ความคิดของคลื่นลูกใหม่ เพื่อการส่งต่อและรับช่วงธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และดำเนินธุรกิจด้วยความราบรื่น เติมเต็มความเข้าใจ จนนำไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจอย่างสวยงาม และความสัมพันธ์อันดีของคนในครอบครัว เพราะทางออกที่ดีที่สุดของการรับช่วงต่อธุรกิจ คือ นำข้อดีของคนสองรุ่นมารวมกัน
 
 
ด้วยรักและพลังแห่งแรงบันดาลใจ
สำนักพิมพ์วิช
...................................................................
คำนำผู้เขียน
 
ทำไมถึงรับช่วงต่อธุรกิจที่บ้าน ?
 
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่การอธิบายคำตอบ หรือการตอบคำถามของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ผู้เขียนมีแรงบันดาลใจจากการที่ตัวเองก็เป็นทายาทเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง และมีคำถามกับตัวเองในวันที่เรียนจบว่า...
 
“ทำไมถึงต้องมารับช่วงกิจการต่อจากครอบครัว ?”
คำถามนี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด จากการเดินทางไปสัมภาษณ์เพื่อนที่เป็นทายาทด้วยกัน รวมไปถึงเพื่อนของคุณพ่อ เพื่อนของคุณแม่ อีกหลายต่อหลายท่าน
 
เชื่อหรือไม่ว่า แค่คำถามนี้คำถามเดียว บางคนถึงกับน้ำตาซึม นึกอยู่นาน ก่อนจะตอบออกมา เพราะแต่ละคนนั้น มีทั้งประสบการณ์อันสนุก โหด มันส์ ฮา สุข ทุกข์ คละเคล้ากันไป จนแทบจะเขียนเป็นนิยายส่วนตัวกันได้ทีเดียว
 
สำหรับบางคนที่มีธุรกิจใหญ่โตและมั่นคง มีพี่น้องหลายคน คำตอบของคำถามนี้อาจจะเป็น…
 
“เราชอบ เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ”
“มีพ่อเป็นแบบอย่างในชีวิต เลยเลือกสานต่อธุรกิจของพ่อแม่”
“สิ่งที่ครอบครัวทำอยู่ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม เป็นองค์ความรู้ที่สมควรสืบทอดต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน”
 
นั่นคือคำตอบแบบโลกสวย มักจะพบในสิ่งพิมพ์ที่ออกสู่สาธารณะ
 
แต่ในความเป็นจริง
 
บางคน พ่อหรือแม่เสียชีวิตกะทันหัน
บางคน พ่อแม่มีอายุมากขึ้น ทำต่อไม่ไหวแล้ว
บางคน เป็นลูกคนเดียว ไม่มีคนสานต่อ
บางคน ถูกบังคับ แบบเผด็จการ
บางคน หนีไม่พ้น ถูกพ่อแม่เรียกตัวกลับมา
บางคน พี่น้องมีปัญหา จึงต้องยื่นมือเข้ามาทำแทน
บางคน ทำงานข้างนอกไม่รอด เลยต้องกลับมา
บางคน ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ก็ทำ ๆ ไปก่อน (แต่ทำไปก่อนแบบเป็นสิบปี *-*)
บางคน ทั้งหมดที่ทำ เพราะคำว่า “กตัญญู” เพียงคำเดียว
 
แล้วคำตอบของคุณล่ะ เป็นแบบไหน ?
 
หนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนตั้งใจจะถ่ายทอดเรื่องราวจากประสบการณ์ของทายาทเจ้าของกิจการ ซึ่งสานต่อธุรกิจของครอบครัว ผ่านหลากหลายมุมมอง ซึ่งสุดท้ายแล้ว ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ทุกเรื่องราวย่อมมีข้อคิดสอนใจเสมอ
 
เนื้อหาเล่มนี้ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ
 
ส่วนที่หนึ่ง ประกอบไปด้วย
• ข้อเท็จจริง ทั้งหมด 9 ข้อ บอกให้ทราบถึงสิ่งที่ต้องเผชิญในวันที่ตัดสินใจกลับมารับช่วงกิจการของครอบครัวว่า ส่วนใหญ่แล้ว การกลับมาทำธุรกิจครอบครัวต้องประสบพบเจอสิ่งใดบ้าง
• ข้อสรุป ที่ได้จากการสัมภาษณ์ทายาทธุรกิจตั้งแต่ระดับร้านขายของหน้าปากซอยไปจนถึงโรงงานระดับพันล้าน โดยสรุปออกมาเปน็ 9 หลกัคิดสำคัญเพื่อนำไปประยุกตใช้ในครอบครัวและธุรกิจของคุณเอง
 
ส่วนที่สอง เป็นบทสัมภาษณ์ 20 ทายาทธุรกิจจากมุมมองที่แตกต่างกันไป (จากทั้งผู้ที่ยินดีให้เอ่ยนาม และผู้ที่ประสงค์จะปกปิดข้อมูลส่วนตัว) บทสัมภาษณ์ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลจริงที่ได้มาจากการสัมภาษณ์ และรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงทางด้านธุรกิจใด ๆ ทั้งสิ้น
 
ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้อ่าน หรือผู้ที่กำลังจะเข้ามารับช่วงกิจการของครอบครัว รวมถึงผู้ที่กำลังประสบปัญหาในการรับช่วงธุรกิจต่อจากครอบครัว จะได้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ไม่มากก็น้อย เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้ว่า ยังมีอีกหลายคนที่กำลังเผชิญอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน และระหว่างการเดินทางขึ้นไปสู่ยอดเขาสูงสุดอันหนาวเหน็บนั้น คุณยังคงมีเพื่อนร่วมทางเสมอ
 
...........................................................
 
 สารบัญ
บทนำ ทำไมถึงรับช่วงต่อธุรกิจที่บ้าน ?
 
ข้อเท็จจริงและข้อสรุปจากการสัมภาษณ์
• 9 ข้อเท็จจริงของทายาทผู้ประกอบการ
(ที่ไม่มีใครเคยบอกคุณ)
• 9 ข้อสรุปจากการสัมภาษณ์ทายาทธุรกิจต่าง ๆ
 
20 บทสัมภาษณ์ จากทายาทผู้ประกอบการสู่นักธุรกิจมือโปร
1. คุณเอ (นามสมมุติ) ทายาทโรงงานก๋วยเตี๋ยว
2. คุณแจ็ค (นามสมมุติ) ทายาทผู้รับเหมาก่อสร้างและทำโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้สำเร็จรูป
3. คุณสิริญา ไตรโชค (พริม) บริษัท นาวิต้า จำกัด ผู้ปลูกและจัดจำหน่ายเมล่อนแบบครบวงจร
4. คุณภัทรา โป้บุญส่ง (แพร) ทายาทห้างหุ้นส่วนจำกัด ไสว เทรดดิ้ง โรงงานผลิตถั่วอบรายใหญ่
5. คุณแบงค์ (นามสมมุติ) ทายาทธุรกิจผลิตอะไหล่รถยนต์
6. คุณเพชร (นามสมมุติ) ทายาทธุรกิจปราโมทย์ฟาร์มปลากะพง
7. คุณแพรว (นามสมมุติ) ทายาทเจ้าของศูนย์จำหน่ายอาหาร ของฝาก โรงงานวุ้นเส้นท่าเรือตรา
“สิงห์โต” และเจ้าของร้าน V Café By Voonsen Tharua
8. คุณบี (นามสมมุติ) ทายาท Dealer ขายรถชื่อดังในภาคอีสาน
9. คุณไพลิน (นามสมมุติ) ลูกสาวคนที่ 3 แห่งบ้านริมน้ำ
10. คุณยศ ตันสกุล (ยศ) บริษัท เอ็ม.เค.พี.ซี. คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด
11. คุณณัฐนนท์ ศรีสมบูรณ์ (แป๊บ) บริษัท ภูมิภัททา จำกัด 178
12. คุณณัฏฐ์ อมรธนานุบาล (ณัฏฐ์) บริษัท ทีไฟว์ เปเปอร์ แพลเลท จำกัด
เจ้าของธุรกิจแพลเลทกระดาษรายใหญ่
13. คุณรุ่งโรจน์ นวกุล (เต๋า) เจ้าของบริษัท KOSC PLUS จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด N.V.K.
ENGINEERING AND CONSTRUCTION และบริษัท ดี พลัส เอ็นเตอร์ไพร์ซ จำกัด
14. คุณฐาณิญา เจนธุระกิจ (แม็ทช์) ทายาทธุรกิจเครื่องหอมและของตกแต่งบ้านสมัยใหม่
15. คุณณัฐ (นามสมมุติ) ทายาทฟาร์มหมูครบวงจร
16. คุณปิ่นอณงค์ โกสิทธานนท์ (ปิ่น) ทายาทรุ่นที่ 2 บริษัท ไทย อินซูโฟม อุตสาหกรรม จำกัด
17. คุณอาร์ม (นามสมมุติ) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกรายใหญ่ของประเทศไทย
18. คุณภาณุวัฒน์ เงินศรีสุข (เป๊ก) ทายาทโรงงานฝอยทอง แบรนด์ “บ้านทองหยอด”
19. คุณจิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์ (จิโร่) นายกสมาคมธุรกิจไม้ประธานผลิตภัณฑ์ไม้ Asian
20. คุณณิชมน วิริยะลัมภะ (มุ้งมิ้ง) ทายาทธุรกิจขายยารายใหญ่ของภาคตะวันออก และ Co-Founder
บริษัท U Drink I Drive จำกัด
 
บทส่งท้าย
...........................................................
 
ตัวอย่างเนื้อหาบางส่วน
 
ข้อเท็จจริงและข้อสรุปจากการสัมภาษณ์
 
9 ข้อเท็จจริงของทายาทผู้ประกอบการ (ที่ไม่มีใครเคยบอกคุณ)
ในบทนี้ ผู้เขียนได้รวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับช่วงต่อกิจการที่ทายาทธุรกิจต้องเผชิญ ข้อเท็จจริงเหล่านี้ เป็นเรื่องที่มีอยู่ตั้งแต่แรกเริ่มหากเราสามารถทำความเข้าใจและยอมรับมันได้ตั้งแต่ต้น ก็จะปรับตัวและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งตัวธุรกิจเองและความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว
 
ยกตัวอย่างเช่น
 
ปัญหาในมุมของลูก
“ทำงานที่บ้านไม่ได้ เพราะทัศนคติต่างกัน”
“ทะเลาะกับพ่อเรื่องงาน จนลุกลามกลายเป็นเรื่องครอบครัว”
“พ่อไม่ปล่อยให้ตัดสินใจ เสนออะไรไปก็ไม่ผ่าน”
 
ปัญหาในมุมของพ่อแม่
“ลูกไม่ยอมกลับมาช่วยงานที่บ้าน เพราะไม่อยากทำธุรกิจของครอบครัว”
“กลับมาก็เอาแต่จะปรับปรุงโน่นนี่ แต่งานหลักไม่ยอมทำ”
“ลูกมีประสบการณ์น้อย แต่มั่นใจในตัวเองสูง จนคุยกันไม่รู้เรื่อง”
 
แม้เรื่องเหล่านี้จะเป็นปัญหาโลกแตกของครอบครัวที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แต่กลับกลายเป็นปัญหาที่พูดกับใครไม่ได้ จะไปเที่ยวป่าวประกาศว่า ทะเลาะกับพ่อเรื่องนั้น ขัดแย้งกับแม่เรื่องนี้ แค่คิดก็รู้สึกว่าเป็นลูกที่แย่มาก เป็นผู้บริหารที่ไม่เห็นแก่ภาพลักษณ์ของบริษัทเอาเสียเลย ถ้าถามว่า ทำไมถึงอยากเขียนความจริงเหล่านี้ให้ทุกคนได้อ่านกัน คำตอบจากใจจริงก็คือ ตอนที่ผู้เขียนเริ่มเข้ามาทำงาน หากมีคนมาบอกเรื่องเหล่านี้ให้ได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อน ก็คงจะดี
 
9 ข้อเท็จจริง ได้แก่
1. ลูกเจ้าของกิจการไม่ใช่คุณหนู และความเป็นอยู่ก็ไม่ได้สบายแบบในหนัง
2. เจ้าของกิจการที่แท้จริง คือนักแก้ปัญหา
3. บริษัทคือตัวตนของผู้ก่อตั้ง
4. พ่อแม่และลูกมักคิดไม่เหมือนกัน
5. เรื่องของความเคยชิน
6. เราอยู่ในโลกธุรกิจที่บิดเบี้ยว
7. ไม่ช้าก็เร็ว งานจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณ
8. ความใจดี ไม่ได้มีไว้ให้คนเกรงใจ
9. ความไม่เสถียรของระบบ คือข้อจำกัดที่คาดไม่ถึง
 
9 ข้อสรุปจากการสัมภาษณ์ทายาทธุรกิจต่าง ๆ
ข้อสรุปทั้ง 9 ข้อนี้ ได้มาจากการสัมภาษณ์และปรึกษาหารือกับเพื่อนพ้องร่วมสถานการณ์ รุ่นพี่ที่เคารพ รุ่นน้องคนเก่ง รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่ของเพื่อน ๆ เจ้าของกิจการ ซึ่งหลักคิดทั้ง 9 ข้อนี้ อาจไม่ใช่คำตอบของทุกปัญหา แต่เป็นหลักที่หากสามารถเก็บไปคิด วิเคราะห์ให้เข้าใจแล้วนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการกับชีวิตของการเป็นทายาทธุรกิจ ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็ตาม
 
9 ข้อสรุป ได้แก่
1. ค้นหาตัวเองให้พบ แล้วปรับตัวให้ได้
2. จงยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง
3. ปรับกระบวนการทางความคิด (Mindset) ต่อคำว่าปัญหา
4. เอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล กับเอกลักษณ์ของบริษัท
5. สื่อสารกับผู้ใหญ่ต้องมีเทคนิค
6. หาเงินให้ได้ก่อน ค่อยขอใช้เงิน
7. ลงมือทำตั้งแต่เริ่มต้น พิสูจน์ตัวเองให้ได้ก่อน ค่อยมองหา
การยอมรับนับถือจากคนอื่น
8. เปิดโลกทัศน์ให้ตนเองและพ่อแม่
9. วางตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมให้แก่ผู้ก่อตั้งกิจการ
 
.......................................
 
เกี่ยวกับผู้เขียน
 
 
ประวัตินักเขียน
ชื่อ พราวพร (พราวพร สุเมธาอักษร)
การศึกษา
- ปริญญาตรี เทคโนโลยีอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร (2006-2010)
- Research Student at University of Marketing and Distribution Science, Kobe, Japan (2010-2011)
- Master of Science (Food Engineering and Bioprocess Technology), Asian Institute of Technology (AIT) (2011-2013)
ปัจจุบัน เป็นทายาทเจ้าของธุรกิจแห่งหนึ่ง