แกร็บสานต่อพันธสัญญาเพื่อมอบการเดินทางที่ดียิ่งกว่า
ประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายเทคโนโลยีการเดินทาง

มาร์ค พอร์เตอร์ จะใช้ประสบการณ์จากการเป็นอดีตผู้บริหารบริษัทแอมะซอนและออราเคิล เพื่อเดินหน้ายกระดับประสบการณ์เดินทางของผู้โดยสารผ่านระบบที่มีความเสถียรเพิ่มมากขึ้น พร้อมนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่แกร็บเดินหน้าขยายธุรกิจให้บริการเรียกรถที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สิงคโปร์ 19 ตุลาคม 2561 – แกร็บ ผู้นำแพลตฟอร์ม O2O (Online-to-Offline) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกาศแต่งตั้ง มาร์ค พอร์เตอร์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีฝ่ายการเดินทาง โดยจะดูแลโครงสร้างเทคโนโลยีของแกร็บและธุรกิจให้บริการเดินทาง อาทิ การเรียกใช้บริการรถยนต์ส่วนตัว รถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์ บริการร่วมโดยสารกันไปในเส้นทางเดียวกัน ระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ และบริการอื่นๆ

แกร็บ ได้ให้บริการรับส่งผู้โดยสารไปแล้วทั้งหมดกว่า 2.5 พันล้านเที่ยวนับตั้งแต่เริ่มให้บริการในปีพ.ศ. 2555 และในระหว่างที่แกร็บกำลังดำเนินการขยายกิจการให้กลายเป็นแพลตฟอร์มเรียกรถที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาร์ค จะเข้ามาดูแลโครงสร้างทางเทคโนโลยีของ แกร็บ ให้มีความพร้อมสูงสุดเพื่อมอบบริการที่ไว้วางใจได้และมีความเสถียรกับผู้ใช้ พร้อมผลักดันการรองรับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ แกร็บ พยายามคิดค้นเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีกว่าเดิม

ธีโอ วาซิลาคิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของกลุ่มธุรกิจ กล่าวว่า “ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 1 ใน 6 เดินทางกับแกร็บ ในขณะที่คนนับล้านมีรายได้จากการเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ นอกจากมอบการเดินทางที่ปลอดภัย สะดวก ในราคาที่เหมาะสม เรายังมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลให้ระบบของเราสามารถไว้วางใจได้และมีความเสถียรเพิ่มมากขึ้นเมื่อธุรกิจโตขึ้น เนื่องจากเราตระหนักดีว่าเมื่อมีเหตุขัดข้องเกิดขึ้น จะไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่การเรียกรถเท่านั้น แต่รวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเราด้วย”

“ในขณะเดียวกัน นวัตกรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่แกร็บย่อมหมายความว่าเราต้องสามารถออกแบบ สร้าง และเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ได้รวดเร็วแม้เพียงในหนึ่งสัปดาห์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และการเปลี่ยนแปลงของตลาดซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่มีใครที่จะมีความสามารถหรือประสบการณ์มากไปกว่ามาร์ค ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องระบบอย่างมาก โดยเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า มาร์ค จะสามารถดูแลให้โครงสร้างเทคโนโลยีของแกร็บปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และตอบรับวัตถุประสงค์การใช้งานของผู้ใช้เป็นอย่างดี”

ภายใต้บทบาทประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีการเดินทาง มาร์ค จะทำหน้าที่ดูแลการพัฒนาแพลตฟอร์มของแกร็บให้มีความคล่องตัวสูง พร้อมยกระดับการเรียนรู้อัตโนมัติ (machine learning) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถของวิทยาศาสตร์ข้อมูล เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ปลอดภัย คล่องตัวไม่มีสะดุด และตอบโจทย์ความต้องการแต่ละบุคคลให้แก่ผู้โดยสาร โดย มาร์ค จะทำงานประจำที่สำนักงานของแกร็บในเมืองซีแอทเทิล เพื่อทำงานร่วมกับทีมวิศวกรในศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ของแกร็บ 6 แห่งทั่วโลก ซึ่งได้แก่ สิงคโปร์ ซีแอทเทิล กรุงปักกิ่ง บังกาลอร์ โฮจิมินห์ และกรุงจาการ์ตา

“ในแต่ละวัน เราทำงานกับข้อมูลประมาณ 20 เทราไบต์ ไม่มีใครเข้าใจการเดินทางในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดีไปกว่าแกร็บ และเรายังมีอีกหลายสิ่งที่อยากส่งมอบให้กับผู้ใช้ในเรื่องการเดินทาง แกร็บกำลังมองหาวิธีที่จะใช้ข้อมูลเชิงลึกในหลายๆ รูปแบบ ส่วนแรกคือการมอบประสบการณ์การเดินทางที่คล่องตัว ตอบสนองความต้องการ และรูุ้ใจผู้ใช้ ส่วนที่สองคือการมอบบริการเดินทางที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนที่สามคือการทำงานร่วมกับเมืองในแต่ละเมืองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจราจร และระบบเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบ (multi-modal) โดยศึกษาจากรูปแบบการสัญจรของผู้คนในเมืองนั้นๆ ” ธีโอ กล่าวเสริม

การแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีการเดินทางในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนพันธกิจของแกร็บที่มุ่งมั่นที่จะมอบการเดินทางที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกวัน ซึ่งในไตรมาสที่แล้ว แกร็บ มีการเปิดฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เสริมประสบการณ์การเดินทางให้แก่ผู้ใช้หลายรายการ ได้แก่

I. เพิ่มฟีเจอร์ข้อความเสียงในแกร็บแชท (GrabChat) ซึ่งเร็วกว่าและปลอดภัยกว่าการส่งข้อความ โดยเฉพาะสำหรับคนขับ
II. อนุญาตให้ผู้โดยสารยกเลิก ได้ทุกเวลาระหว่างเรียกรถก่อนที่ระบบจะค้นหาคนขับให้ เหตุผลที่พบบ่อยคือ ผู้โดยสารเลือกสถานที่ผิด ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การยกเลิกการจองเมื่อคนขับรับงานแล้วลดลง
III. หาคนขับใหม่ทันทีโดยอัตโนมัติหากคนขับที่รับงานยกเลิก เพื่อที่ผู้โดยสารจะได้รถใหม่เร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องใส่ข้อมูลใหม่ทั้งหมด
IV. อนุญาตให้ผู้โดยสารเปลี่ยนสถานที่ปลายทางหลังจากที่เริ่มเดินทางแล้วสำหรับบริการแกร็บคาร์ จัสท์แกร็บ และแกร็บไบค์ ซึ่งปัจจุบันเริ่มทดลองใช้แล้วในบางเมือง

“แกร็บกำลังสร้างสรรค์การเดินทางแห่งอนาคตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมยกระดับชีวิตผู้คนนับล้านสู่โอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับโอกาสในการสนับสนุนความตั้งใจนี้ และตื่นเต้นมากที่จะได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของโลก” มาร์ค พอร์เตอร์ กล่าว “ทีมงานของเราในภูมิภาครู้จักเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดีกว่าใคร ผมตั้งใจที่จะใช้ความชำนาญที่สั่งสมมา ประกอบกับความรู้ของทีม เพื่อทำให้ทุกการเดินทางด้วยแกร็บเป็นการเดินทางที่สมบูรณ์แบบ ทั้งสำหรับผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่”

ก่อนร่วมงานกับแกร็บ มาร์คร่วมงานกับบริษัทแอมะซอนเป็นระยะเวลาห้าปี โดยล่าสุด เขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปด้านบริการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แอมะซอน อาร์ดีเอส (Amazon RDS) บริการฐานข้อมูลออโรรา (Amazon Aurora) และบริการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แอมะซอน อาร์ดีเอส สำหรับระบบฐานข้อมูลโพสต์เกรสคิวแอล (RDS for PostgreSQL) โดยมาร์คจะนำความเชี่ยวชาญเชิงลึกทางเทคโนโลยี ประกอบกับประสบการณ์ในตำแหน่งบริหารทั้งจากองค์กรนาซ่า ออราเคิล และคาลเทค มาใช้กับแกร็บ

เกี่ยวกับ แกร็บ
แกร็บ (Grab) คือแพลตฟอร์ม O2O (Online to Offline) ที่ให้บริการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของลูกค้าในการเดินทาง รับประทานอาหาร ส่งของ รวมไปถึงชำระเงินผ่านมือถือและโมบายวอลเล็ต ซึ่งได้รับการเรียกใช้งานมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แกร็บ เชื่อว่าชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคนควรได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่เศรษฐกิจแบบดิจิทัล จึงได้ให้บริการที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมการเดินทาง การรับส่งอาหาร การจัดส่งพัสดุสินค้า รวมไปถึงการชำระเงินผ่านมือถือและบริการทางการเงินต่างๆ ในปัจจุบัน แกร็บให้บริการใน 8 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม เมียนมาร์ และกัมพูชา สามารถอ่านและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.grab.com

มาร์ค พอร์เตอร์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีการเดินทาง แกร็บ

มาร์ค พอร์เตอร์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีการเดินทางของ แกร็บ ผู้นำแพลตฟอร์ม O2O (Online-to-Offline) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาร์คมีหน้าที่ดูแลโครงสร้างเทคโนโลยีของแกร็บและทีมงานที่ดูแลธุรกิจในส่วนการเดินทาง ซึ่งได้แก่การเรียกใช้บริการรถยนต์ส่วนตัว การเรียกรถแท็กซี่ การเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บริการร่วมโดยสารกันไปในเส้นทางเดียวกัน ระบบเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบ ฯลฯ

มาร์ค ทำงานประจำที่สำนักงานของแกร็บในเมืองซีแอทเทิล เพื่อทำงานร่วมกับทีมวิศวกรในศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ของแกร็บ 6 แห่งทั่วโลก ซึ่งได้แก่ สิงคโปร์ ซีแอทเทิล กรุงปักกิ่ง บังกาลอร์ โฮจิมินห์ และกรุงจาการ์ตา โดยจะดูแลให้เทคโนโลยีของแกร็บปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และตอบรับวัตถุประสงค์การใช้งานของผู้ใช้

ก่อนร่วมงานกับแกร็บ มาร์คดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปที่บริษัทแอมะซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services) เป็นเวลา 5 ปี โดยดูแลบริการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แอมะซอน อาร์ดีเอส (RDS) บริการฐานข้อมูลออโรรา (Amazon Aurora) และบริการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แอมะซอน อาร์ดีเอสสำหรับระบบฐานข้อมูลโพสต์เกรสคิวแอล (RDS for PostgreSQL) บริการย้ายฐานข้อมูล (AWS Database Migration Service) และเครื่องมือในการแปลงโครงร่างฐานข้อมูล (AWS Schema Conversion Tool) นอกจากนี้ มาร์คยังเคยรับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์อีกด้วย

มาร์คเริ่มสนใจโปรแกรมมิ่งตั้งแต่อายุ 11 ปี และเริ่มทำงานเกี่ยวกับโปรแกรมมิ่งเมื่ออายุเพียง 16 ปี มาร์คมีประสบการณ์อันยาวนานทั้งในด้านฐานข้อมูล โปรแกรมมิ่ง การบีบอัดวีดีโอ ระบบผลการปฏิบัติงาน และความสามารถในการขยายระบบ จนได้รับการลงชื่อเป็นนักประดิษฐ์ในสิทธิบัตรถึง 11 ฉบับ ก่อนร่วมงานกับแอมะซอน มาร์ครับตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการแบ่งปันการเรียนรู้ให้กับนิวส์คอร์ป NewsCorp (โครงการร่วมกับมูลนิธิเกทส์) ตำแหน่งรองประธานแผนกวิศวกรรมที่บริษัทออราเคิล คอร์ปอร์เรชั่น (Oracle Corporation) และตำแหน่งวิศวกรของห้องทดลองเครื่องยนต์ไอพ่น องค์กรนาซ่า นอกจากนี้มาร์คยังก่อตั้งบริษัทที่ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจรเป็นของตัวเอง

มาร์คสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (Caltech) โดยป็นคุณพ่อที่น่ารักของเด็กๆ 5 คนที่กำลังสนใจด้านเทคโนโลยี ยามว่างมาร์คมักจะเล่นสกี ล่องเรือใบ อ่านหนังสือ และกำลังหัดเล่นเปียโน