เคล็ดลับนักบริหารรุ่นใหม่ กฤตภาส ศรลัมภ์ “ยึดความซื่อสัตย์”

เคล็ดลับนักบริหารรุ่นใหม่ กฤตภาส ศรลัมภ์ “ยึดความซื่อสัตย์”

 

 

  

CHANGE Inspiration

 

เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง ภาพ : ชวกรณ์ สะอาดเอี่ยม

 

 
เคล็ดลับนักบริหารรุ่นใหม่
 
กฤตภาส ศรลัมภ์ “ยึดความซื่อสัตย์”

 

 

ชีวิตเปลี่ยนไปตามความฝันของ “ซอน” กฤตภาส ศรลัมภ์ ที่ชีวิตก้าวสู่นักบริหารที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ใช้คำสอนคุณยายมาตลอด “ยึดความซื่อสัตย์”

 

 
ชีวิตของ “ซอน” กฤตภาส ศรลัมภ์ ผู้บริหารธนาคารคนเก่งแห่งธนาคารยูโอบี สิงคโปร์ เติบโตมาจากการเลี้ยงดูของคุณยายทำให้เป็นบริหารด้วยการใช้หลักธรรมมาบริหารงานอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกับความมุ่งมั่นไปสู่ความฝันตามที่ตัวเองคิด พร้อมเคล็ดลับบอกน้องๆรุ่นใหม่ อยากคิดทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องลงมือทำทันทีแล้วสิ่งที่ได้มาจะเกิดความภูมิใจ

 

//คำสอนคุณยาย “ยึดความซื่อสัตย์”

 

คุณซอนเล่าว่า เป็นกรุงเทพฯ เกิดในครอบครัวที่ธรรมดา จบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโท ด้านการจัดการ (Management) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสารมิตร เรียกว่าตั้งแต่เด็กเขาถูกคุณยายเลี้ยงมาตลอด “ตอนที่ผมอยู่กับคุณยาย คุณยายก็สอนเรื่องในการมองชีวิต เนื่องจากคุณยายเป็นคนจีนสมัยก่อน ก็มีการทำธุรกิจ ทำการค้าอะไรทำนองนี้ ผมก็เคยไปช่วยงานคุณยายอยู่พักหนึ่ง แล้วสิ่งที่ได้จากคุณยายอย่างมากคือ เรื่องของการทำงาน การดูแลคน และต้องยึดความซื่อสัตย์ รวมทั้งสอนผมในเรื่องของการสู้ชีวิต หากวันนั้นคุณยายไม่สอน วันนี้ผมคงโตขึ้นมาเป็นเด็กอีกแบบหนึ่งไปแล้ว เพราะคุณยายสอนว่าอย่าทำอะไรจับจด แต่จะทำอะไรต้องทำให้เต็มที่ ทำให้ผมนำมาใช้ในการบริหารคน รวมทั้งการดูแลลูกค้ากับการค้าขาย ทั้งสองเรื่องที่คุณยายสอนถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ”

 

 

//ชีวิต คือ การเรียนรู้

 

คุณซอนเริ่มทำงานที่ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ธนาคาร ไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย (TMB Bank) ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ธนาคารซิติแบงก์ (citibank) ล่าสุดเป็นผู้บริหารอยู่ที่ ธนาคารยูโอบี สิงคโปร์

 

“ผมเริ่มทำงานแบงก์มาตลอดเป็นเซลล์ออกบูธตามสถานที่ต่างๆ ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าเซลล์อีกทีหนึ่ง ตำแหน่งก็ขยับมาเรื่อยๆก็อยู่ในสายบริหาร แล้วก็ได้คำตอบว่า งานที่เราอยากทำที่สุดก็คือวงการแบงก์ทางด้าน อินเวสเมนท์(Investment) เพราะเราได้เห็นโลกกว้างขึ้น ก่อนหน้านี้เราก็จะเห็นว่าแบงก์มีฝากประจำถึงได้ดอกเบี้ย แต่สมัยนี้มันมีมากกว่านั้น มีทั้งซื้อพันธบัตร และซื้อหุ้นนอกประเทศ

 

“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมชอบ ทำงานก็ต้องอ่านรายงานทุกเช้า เพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละประเทศมีเศรษฐกิจเป็นยังไง และสมควรจะลงทุนประเภทไหน มันก็สนุกดี เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน ตอนอยู่ที่ซิติแบงก์ก็รู้สึกว่าทุกอย่างลงตัว เลยบอกกับตัวเองว่าไม่อยากไปไหนแล้ว ไม่อยากไปต่างประเทศ ไม่อยากโกอินเตอร์แล้ว ขออยู่ที่นี่ต่อไปจนเกษียณ จนสุดท้ายก็บอกกับตัวเองว่ายังไม่ใช่ความฝันของเรา แล้วความฝันของเราทำไมไม่ทำให้ถึงที่สุดก่อน”

 

 

//ถึงเวลา “เดินตามฝัน”

 

“จำได้วันนั้น ถือเป็นจังหวะชีวิตด้วย ระหว่างที่นั่งเครื่องบินกลับจากฮ่องกง แล้วได้เจอผู้บริหารยูโอบีบนเครื่องพอดี ก็ได้ชวนให้มาทำงานยูโอบีที่สิงคโปร์ ครั้งแรกมีการปฏิเสธไปแล้ว แต่ผู้บริหารอยากให้เราไปทำงานด้วยจริงๆ ผมก็กลับมาคิดว่า ถ้าเราไม่ลองจะรู้ได้ยังไงว่าเราทำได้หรือไม่ได้ หากเราทำแล้วทำไมได้ก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าเราได้ทำแล้ว ดีกว่าทำงานอยู่เมืองไทยแล้วอายุ 50 แล้ว ถึงได้มาคิดเสียดายว่าทำไมเราไม่ไปตอนนั้น กระทั่งตอนตัดสินใจที่จะไปทำงานสิงคโปร์มีคนมาทำถามตลอด หรือแม้แต่เจ้านายเก่าก็ถามจะไปทำไมอยู่เมืองไทยดีกว่า

 

 
“ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมอยากเห็นว่าข้างนอกประเทศเขาบริหารงานอย่างไร เพราะสิงคโปร์เป็นเหมือนศูนย์การเงินในโซนเอเชีย เราก็เลยอยากเรียนรู้ว่าโปรดักส์ที่สิงคโปร์มีอะไรบ้าง และวิธีการทำงานของสิงคโปร์เป็นยังไง ทำให้ประเทศเขาดีขึ้นได้ขนาดนั้น ผมต้องมีการปรับตัวอย่างมาก จากที่อยู่เมืองไทยไม่ต้องทำอะไรเลยมีคนทำให้ทุกอย่าง แต่อยู่นั่นผมต้องทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยซักผ้าเองเลย(หัวเราะ) ต้องทำความสะอาดบ้าน รีดเสื้อผ้า ล้างห้องน้ำเอง อยู่เมืองไทยไม่เคยนั่งรถไฟฟ้าเลย แต่อยู่สิงคโปร์ต้องหัดนั่ง มันก็ดีได้เรียนรู้กับการอยู่กับตัวเองได้มากขึ้น

 

“สิ่งที่ได้เรียนรู้ไปอยู่ที่สิงคโปร์ก็เข้าใจว่าทุกคนก็ลำบาก เพราะมีหลายๆชาติมาอยู่รวมกัน แล้วทุกคนมาอยู่สิงคโปร์ก็มีจุดมุ่งหมายหาประสบการณ์และเก็บเงินที่สิงคโปร์ ผมก็ได้เห็นแต่ละคนมีความฝันกันอย่างไง ผมเองก็เคยไปคุยแรงงานที่เป็นคนไทยหลายคนก็อดทนกับความลำบากเพื่อส่งเงินไปให้ลูกเรียน แต่ละคนก็มุมของชีวิตที่แตกต่างกันไป พอย้อนกลับมาที่ตัวเราก็รู้สึกยังสบายกว่าพวกเขามาก ทำให้เข้าใจว่าชีวิตคือการเรียนรู้จริงๆ อย่างน้อยเราออกจากบ้านมา สิ่งที่เราเรียนรู้ก็คือ เราจะหมุนกุญแจบ้านยังไงให้มันแตกต่างจากทุกวัน(หัวเราะ)”

 

 
//สานฝัน “ผู้บริหารอินเตอร์”
 
 
“แต่ก็บอกกับตัวเองว่าการทำงานที่สิงคโปร์ไม่ใช่สถานที่สุดท้าย เพราะอยากกระโดดไปอื่นที่มากกว่าสิงคโปร์ ผมตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าทุกอย่างลงตัวอยากเอาตัวเองไปนั่งที่วอลล์สตรีทนั่นคือโอกาส เป็นสิ่งที่อยากทำ ตรงนี้เป็นความฝันลางๆที่ให้ผมก้าวต่อไป แต่ทุกวันนี้ผมก็ขอทำหน้าที่ให้เต็มที่ก่อนได้แค่ไหนก็แค่นั้น เพราะวอลล์สตรีทค่อนข้างเป็นไฟแนนเชียลของโลก แต่ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีโอกาสขนาดไหน จริงๆผมเป็นคนที่ค่อนข้างมีการวางแผนชีวิตให้กับตัวเองค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่เริ่มทำงานที่แรกเป็นเซลล์ และได้เรียนรู้การจัดการคนยังไง และเรียนรู้โปรดักส์ยังไง แล้วตั้งเป้ากับตัวเองไว้ว่าภายในสองปีจะต้องขึ้นเป็นหัวหน้าเชลล์ให้ได้ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับผลงานที่เราทำ โดยต้องทำให้ได้มากที่สุดภายใต้การทำงานที่ไม่เบียดเบียนเพื่อนร่วมงานอย่างเด็ดขาด แล้วตอนนั้นผมก็ตั้งเป้าว่าจะทำยังไงให้เราไปอินเตอร์ให้ได้ แล้วตอนที่อยู่ธนาคารซิติแบงก์ก็คิดว่าจะอยู่ที่นี่จนเกษียนไม่ต้องไปอินเตอร์ก็ได้ แต่สุดท้ายก็บอกกับตัวเองว่ามันก็ยังไม่ใช่ความฝันของเรา ซึ่งความฝันของเราทำไมเราไม่ทำให้ถึงที่สุดเสียก่อน ทำไมเราต้องกลัวอะไรแบบนี้” นี่เป็นความมุ่งมั่นก้าวสู่ความฝันได้อีกไม่นาน

 

 

//ปฏิบัติธรรม “รักษาใจ”

 

ระหว่างคุณซอนพาเดินชมบ้านย่านเอกมัย ได้บอกว่าเป็นคนชอบเดินบนสวนด้วยเท้าเปล่าประจำ “ผมชอบเดินเท้าเปล่าบนสวน เพราะจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ เนื่องจากชีวิตประจำวันของเราไม่ค่อยได้สัมผัสธรรมชาติเดินทางอยู่บนรถ บนตึก พออยู่บ้านเหมือนเราได้สัมผัสธรรมชาติและได้ปฏิบัติธรรมไปด้วย เพราะสุดท้ายคนเราทุกคนก็ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติ ถ้าปกติอยู่บ้านที่เมืองไทยทำงานกลับมาที่บ้านก็ดึกผมก็จะนั่งสมาธิสวดมนต์กว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืน สิ่งที่ได้ผมได้จากการนั่งสมาธิสวดมนต์ที่ได้แน่ๆคือชีวิตเราได้ผ่อนคลาย เพราะจากที่เราทำงานมาเครียดๆ พอนั่งสมาธิก็ช่วยให้ความเครียดออกไปแล้วได้สติของเรากลับมา ทำงานก็มีสติมากขึ้น และที่สำคัญจะได้ในเรื่องของการปล่อยวาง เพราะสิ่งรอบๆตัวเราทั้งหมดก็ไม่ใช่ของเราเลย แต่สิ่งที่อยู่กับตัวเราคือลมหายใจ” นักธุรกิจหนุ่มคนนี้เริ่มสวดมนต์นั่งสมาธิตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เพราะคุณยายพาไปวัดเป็นประจำทำให้เข้าใจในเรื่องของธรรมะได้กระจ่างนั่นเอง

 

 
กว่าชีวิตจะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ “กฤตภาส ศรลัมภ์” จึงฝากข้อคิดถึงคนรุ่นใหม่ “ผมอยากฝากถึงน้องๆทุกคน เพราะผมก็เคยสัมภาษณ์น้องๆที่จะเข้าทำงาน สังเกตได้ว่าน้องๆส่วนใหญ่อย่างเดียวอยากได้เงินเดือนเยอะๆ ทุกวันนี้ต้องถามตัวเองว่าชอบทำอะไรก่อน แล้วถ้าเรารู้ว่าเราชอบอะไรก็มุ่งไปตรงนั้นเลย แล้วความชอบตรงนั้นจะทำให้เราไปสู่ความสำเร็จ แต่หลายคนยังคิดไม่ได้ว่า ตัวเองอยากเป็นอะไร อยากทำอะไร ดังนั้น ถ้ารู้ว่าเราชอบอะไรก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่ ทำแล้วจะดีมาก หรือเก่งมาก เราก็ภูมิใจที่ได้ทำแล้ว แต่ถ้าเราคิดแล้วไม่ได้ทำก็จะทำให้เรามานั่งเสียใจเปล่าๆ”

 

 

 

 

 

[HEAD]
 

 

Krittapaj Sorralump ‘’Be honest’’

 

 
[INTRO]
 
A life moved and inspired by a dream has seen “zon” Krittapaj Sorralump become a very successful business executive. However, the key to his success lies mainly on his grandmother’s teaching, ‘‘be honest!’’.

 

[BODY]

 

“zon” Krittapaj Sorralump, a talented business executive of UOB Bank Singapore, started his career working for different financial institutions including, SCIB Bank, Standard Chartered Bank, American Express, SCB Bank, TMB Bank, UOB Bank Thailand and Citibank. He was raised up by his grandmother whose influence has reflected on his sincere and straightforward business strategies. He also has a strong determination to follow his own dream. His tip for young people is that, to be successful, you must take action on what you want to achieve promptly. Then you will be proud when your effort yields a result.