ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ กับภารกิจระดับชาติของ SAM บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เปิดทัศนะ “นิยต มาศะวิสุทธิ์” ผู้บริหารสูงสุด

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ กับภารกิจระดับชาติของ SAM บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เปิดทัศนะ “นิยต มาศะวิสุทธิ์” ผู้บริหารสูงสุด

 

 


ความมุ่งมั่นของ CEO บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด “นิยต มาศะวิสุทธิ์” เชื่อในการมองมุมบวกและการให้โอกาสคน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า หรือลูกน้อง ให้เขาได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด พร้อมตั้งเป้า “ผมอยากให้ SAM เป็น AMC (Asset Management Company) ในดวงใจ” และให้โอกาสคนแก้ไขปัญหาหนี้ เราดูแลลูกหนี้อย่างจริงใจและช่วยหาทางออก ทั้งหนี้รายใหญ่และรายย่อย


นับจากก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 19 ปี บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด บสส. หรือ SAM ประสบความสำเร็จในฐานะองค์กรของรัฐที่ยืนหยัดช่วยแก้ไขปัญหาหนี้เสียในระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยพันธกิจหลัก คือ การเข้าซื้อและบริหารจัดการ NPL ของสถาบันการเงิน บริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย NPA และการช่วยแก้ไขหนี้เสียของลูกหนี้ทุกระดับ ทั้งหนี้รายใหญ่ หนี้รายย่อย และหนี้ส่วนบุคคล จนได้รับความไว้วางใจจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ดำเนินโครงการแก้ไขหนี้ส่วนบุคคล หรือ โครงการคลินิกแก้หนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 เป็นต้นมา ทว่า หนทางไปสู่เป้าหมายของ SAM ต้องผ่านความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย ทั้งนโยบายภายในและภายนอกองค์กรเพื่อรองรับความท้าทาย (Challenges) อย่างไม่หยุดนิ่ง

ชื่อของ “นิยต มาศะวิสุทธิ์” เป็นดั่งหัวเรือใหญ่ที่เป็นกำลังสำคัญในการสร้างประวัติผลงานแห่งความสำเร็จบนบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ SAM กับบทบาทที่เปลี่ยนไปจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรสู่การดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด ที่จะนำพา SAM ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนและท้าท้ายยิ่งขึ้นในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์ระดับชาติ

SAM ในยุคของ “นิยต มาศะวิสุทธิ์” อยากให้เป็นอย่างไร

“ผมอยากให้ SAM เป็น AMC (Asset Management Company) ในดวงใจ ดังนั้น SAM จะต้องมีความพร้อมในการเป็นที่พึ่งในการแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ เราเป็นรัฐวิสาหกิจที่พร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐเสมอ และจะเป็นเจ้าหนี้ที่เข้าใจ เข้าถึงลูกค้า สามารถสร้างความไว้วางใจและให้โอกาสแก่ลูกค้า NPL และ NPA ความเป็นหน่วยงานภาครัฐ อาจไม่ต้องมีขนาดใหญ่ แต่ต้องมีผลงานดี”


อยากให้คนรู้จัก SAM อย่างไร

“อยากให้ SAM เป็นองค์กรที่คนทั่วไปรู้จัก และรู้ว่า SAM ให้โอกาสคนแก้ไขปัญหาหนี้ เราดูแลลูกหนี้อย่างจริงใจและช่วยหาทางออก ทั้งหนี้รายใหญ่และรายย่อย รวมทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล ในโครงการคลินิกแก้หนี้ ที่เรามีส่วนสนับสนุนนโยบายของ ธปท. เราช่วยให้คนเหล่านี้มีชีวิตที่ดีขึ้น ชีวิตเขาเปลี่ยนไป เริ่มมีเงินเก็บ มีเงินส่งให้พ่อแม่ สุขภาพจิตของตัวเองและครอบครัวดีขึ้น มีตัวอย่างให้เห็นชัด และมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นความภูมิใจของเราชาว SAM “

“ส่วนคนที่ต้องการมองหาสินทรัพย์ โดยเฉพาะ NPA บ้านมือสอง หากต้องการบ้านมือสอง ต้องนึกถึง SAM ภายใต้การปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น ช่วยให้เห็นไอเดียใหม่เพื่อช่วยในการตัดสินใจ ซึ่งถือเป็นแผนงานที่ตั้งใจไว้ในปีนี้”

วิถีของ SAM จะเปลี่ยนไปในทิศทางใด

“ผมตั้งใจจะนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial Intelligence : AI ) มาช่วยในการทำงานของ SAM เพื่อให้พนักงานมุ่งทำงานในส่วนที่จำเป็นและสำคัญมากกว่า เช่น ลูกค้ารายหนึ่งในอดีตจะจ่ายล่าช้า 3 วัน เป็นปกติ ถ้าเกิดล่าช้าเพียงวันแรก ระบบจะยังไม่เตือนให้โทรตาม แต่ให้ไปตามรายอื่นก่อน ส่วนเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ ยังคงต้องใช้คนเป็นหลัก เอไอยังไม่เก่งจะเรียนรู้ได้ทุกรูปแบบ แต่จะใช้ Big Data ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยในการตัดสินใจของพนักงาน”

“ผมมองเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปส่งผลกับไลฟ์สไตล์ของคนมาก เวลานี้คนมีโลกส่วนตัวเยอะขึ้น เชื่อในโซเชียล มีเดีย สนใจการ Share ผมจึงอยากให้มี Eco-system หรือ คอมมูนิตี้ให้กับคนที่มีปัญหาเรื่องหนี้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของเรา ให้ทุกคนเข้าใจว่า การเป็นหนี้เสียไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ยังมี SAM เป็นที่พึ่ง มีช่องทางที่ช่วยให้เขาติดต่อเราได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า”

จุดประกายความคิดเรื่องงาน

“ผมได้มีโอกาสไตร่ตรองและมองตัวเอง เมื่อถึงช่วงวัยของชีวิต ณ จุดที่นิ่งและมีความพอใจในสิ่งที่มีอยู่เมื่อเราก็มีความสุขแล้ว ผมเริ่มมองถึงความท้าทายใหม่ๆ ให้ตัวเอง นี่คือเหตุผลหนึ่งในการตัดสินใจสมัครเป็นผู้บริหารระดับสูงของ SAM ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผมที่ชอบวิ่งออกกำลังกาย เพราะการวิ่งจะนำความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ ถ้าเราไม่มีเป้าหมายการวิ่งแข่งรายการใดเลย ก็จะไม่ได้ฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองขึ้นมา การมีเป้าหมายใหม่ๆ ช่วยผลักดันตัวเองให้เดินไปข้างหน้า ผมเชื่อในการมีความมุ่งมั่น (Commitment)”

“ถ้ารับปากแล้วต้องคำไหนคำนั้น ซึ่งจะทำให้เรามีวินัยตามมา เช่นเดียวกับการวางแผนวิ่งมาราธอน เราจะต้องกำหนดโปรแกรมว่าต้องวิ่งวันไหน กี่กิโลเมตร และต้องปรับวิถีชีวิตตัวเองด้วย เช่น เราจะออกกำลังกายมากขึ้น ก็ต้องตื่นเช้าขึ้น เข้านอนเร็วขึ้น แต่ผมก็ไม่ถึงกับเคร่งครัดแบบเอาเป็นเอาตาย มองว่าแผนทุกอย่างปรับได้ เราต้องมองเป้าหมายระยะยาว คือ “วิ่งมาราธอน แบบจบ และไม่เจ็บ” การทำงานก็เช่นเดียวกัน มีความมุ่งมั่น มีวินัย ทำตามแผนงานทั้งระรยะสั้นและระยะยาวให้สำเร็จ แต่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้พอสมควร”


แรงบันดาลใจ สร้างแนวคิดความเป็น SAM

“ผมคิดว่า SAM เป็นหน่วยงานที่ช่วยเหลือคนที่มีปัญหาเรื่องหนี้ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น แรงบันดาลใจของผม คือ SAM ได้ให้โอกาสคน เป็นความภาคภูมิใจที่เรามีโอกาสได้ช่วยคนที่มีปัญหาให้กลับมาดำเนินชีวิตต่อไป เราเห็นสีหน้าของคนที่มีทางออกและปัญหามันจบได้ เขามีความรู้สึกที่ดี สบายใจขึ้น ผมก็รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเขา นอกจากนี้ ยิ่งเมื่อได้เห็นปัญหาของแต่ละคน ทำให้รู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่เจอปัญหาหนักกว่าเรามาก เราก็ยิ่งเห็นคุณค่าชีวิตและพอใจกับชีวิตของเรามากขึ้น”
“ผมเชื่อในการมองมุมบวกและการให้โอกาสคน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า หรือลูกน้อง ให้เขาได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาด ซึ่งคนเหล่านี้ได้บทเรียนมาแล้วจะมีความแข็งแรง เขาจะมีวิธีป้องกัน เพื่อไม่ต้องเจ็บซ้ำไปซ้ำมา ทุกคนเรียนรู้ได้ เพราะเคยพลาดมาแล้ว เราต้องให้โอกาส และเชื่อว่าทุกคนมีเจตนาที่ดีพร้อมปรับปรุงตัวเอง”


ข้อคิดที่ฝากไว้ในวงการบริหารสินทรัพย์ (AMC)

“สิ่งที่สร้าง SAM ขึ้นมาตั้งแต่วันแรก คือ “ความซื่อสัตย์” (Integrity) คนในองค์กรต้องมีจิตสำนึกในเรื่องที่ถูกและผิด “เมื่อรู้ว่าผิด ต้องไม่ทำ” สำหรับผม เชื่อว่าพนักงานทุกคนดีและเก่ง โดยที่ผมจะเน้นเลือกคนดีมาร่วมงาน และมาพัฒนาให้เก่งยิ่งขึ้น ภายในองค์กร SAM ที่ผมสัมผัสมาตลอดสิบกว่าปี ผมมั่นใจในพนักงานของเราว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งพิสูจน์กันได้ด้วยผลงาน และชื่อเสียงบริษัท เราต้องยอมรับว่า ธุรกิจ AMC เป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการหาผลประโยชน์ส่วนตัวสูง ถ้าคนไม่มีจิตสำนึกเรื่องนี้ ต่อให้มีกฎระเบียบเคร่งครัดเพียงใดก็ไม่สามารถป้องกันการทุจริตได้ ความซื่อสัตย์ จึงเป็นหัวใจหลักในการทำงานของ AMC ที่ดี” นี่เป็นบทสรุปมุมมองชีวิตการทำงานของ CEO คนเก่ง ที่ชื่อ “นิยต มาศะวิสุทธิ์”