แก้เคล็ด “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน”
Change your Money
ขวัญชนก วุฒิกุล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ผู้ดำเนินรายการ "รายการเงินทองต้องรู้" ออกอากาศทางวิทยุเนชั่น FM 90.5
แก้เคล็ด “กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน”
ความกังวลใจของใครหลายคนที่คิดจะซื้อบ้าน หรือกำลังจะยื่นขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารคงจะหนีไม่พ้นความกังวลที่ว่า จะกู้บ้านไม่ผ่านและไม่ได้บ้านในฝันตามที่ต้องการ เพราะไม่มั่นใจว่าคุณสมบัติของตัวเองจะผ่านการพิจารณาจากธนาคารหรือไม่ ลองดู 3 วิธีนี้ เพื่อที่จะสานฝันให้เราเข้าใกล้ “บ้านในฝัน” ได้มากที่สุด
1. เลือกดาวน์ก้อนใหญ่
เงินดาวน์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่คนกู้ซื้อบ้านจะต้องมี เพราะโดยปกติธนาคารจะปล่อยสินเชื่อบ้านประมาณ 80% ของราคาบ้าน ดังนั้น ผู้กู้จะต้องเตรียมเงินดาวน์บ้านไว้อย่างน้อย 20% ของราคาบ้าน เช่น ถ้าบ้านในฝันมีมูลค่า 5 ล้านบาท เราควรมีเงินดาวน์ไว้อย่างน้อย 1 ล้านบาท หากกู้ 30 ปี ต้องผ่อนเดือนละประมาณ 28,000 บาท โดยผู้กู้ต้องมีรายได้อย่างน้อย 70,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้มีความสามารถในการผ่อน แต่ถ้าปัจจุบันเรามีรายได้ต่อเดือนเพียง 50,000 บาท จะสามารถกู้ได้เพียง 2.85 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้น หากต้องการบ้านราคา 5 ล้านบาท วิธีที่จะช่วยให้กู้ผ่านได้คือ การเพิ่มเงินดาวน์ให้มากขึ้น จาก 1 ล้านบาท เป็น 2.15 ล้านบาท ก็จะทำให้สามารถกู้ซื้อบ้านในฝันนี้ได้
2. เพิ่มพลังความสามารถในการผ่อน โดยหาผู้กู้ร่วม
สำหรับใครที่ติดปัญหาเรื่องเงินดาวน์บ้าน ไม่สามารถหาเงินมาดาวน์เพิ่มได้ วิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้กู้ผ่านได้คือ การกู้ร่วม โดยหาคนที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติมากู้ร่วมได้อีก 2 คน เช่น พ่อแม่ สามีภรรยา พี่น้อง หรือลูก เป็นต้น สมมติเลือกกู้ร่วมกับน้อง โดยที่เรามีรายได้เดือนละ 50,000 บาท ส่วนน้องมีรายได้เดือนละ 30,000 บาท รายได้รวมกันเท่ากับ 80,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ที่เพียงพอต่อการกู้ซื้อบ้านในฝันราคา 5 ล้านบาท ทั้งนี้ ทั้งสองคนควรต้องไม่มีภาระผ่อนจ่ายใดๆ ไม่ว่าจะเป็น การผ่อนรถ หรือผ่อนบัตรเครดิตต่างๆ รายเดือน เพราะจะทำให้ความสามารถในการผ่อนบ้านของเราลดน้อยลงไปด้วย
3. ลดขนาดบ้านให้เล็กลง
หากไม่สะดวกในการหาเงินก้อนมาดาวน์บ้านเพิ่มในจำนวนมาก และไม่สะดวกในการหาคนมากู้ร่วมด้วย เพื่อให้ได้บ้านในฝันตามที่ต้องการ วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เรากู้บ้านผ่านและมีบ้านในฝันได้คือ การลดขนาดบ้านในฝันลง เช่น จากบ้านราคา 5 ล้านบาท อาจลดเหลือบ้านราคา 3.5 ล้านบาท ซึ่งทำให้เราเตรียมเงินดาวน์น้อยลง คือเตรียมเพียงแค่ 700,000 บาท และกู้ธนาคารอีกเพียง 2.8 ล้านบาท นอกจากเงินดาวน์ที่น้อยลงแล้ว เงินผ่อนต่อเดือนยังน้อยลงด้วย โดยที่เราเองสามารถผ่อนบ้านคนเดียวไหว ไม่ต้องหาใครมากู้ร่วม ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตเรายืดหยุ่นมากขึ้น
ลองเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองให้มากที่สุด และไม่เกินกำลังความสามารถของเรา ที่สำคัญ คือ เมื่อกู้ซื้อบ้านผ่านแล้ว ควรบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ในแต่ละเดือนให้ดี เพื่อให้สามารถผ่อนบ้านไหว และไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน