เคเอฟซี เปิดครัวเผยเคล็ดลับไก่ทอดคุณภาพสูตรต้นตำรับจากผู้พันแซนเดอร์
พาชมร้านโฉมใหม่และบริการใหม่เอาใจเจนวาย

กรุงเทพฯ, พฤศจิกายน 2559 – เคเอฟซี ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษอวดโฉมรูปแบบร้านและบริการที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดครัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้แก่ลูกค้าผู้โชคดี เผยที่มาความอร่อยของไก่ทอดเคเอฟซีที่ปรุงสด ใหม่ ภายในร้านทุกวัน ภายใต้กระบวนการที่เน้นการรักษาคุณภาพและความสะอาดตามมาตรฐานระดับโลก ณ ร้านเคเอฟซี ไดร์ฟทรู สาขาวังหิน

มิสโมนิก้า โรสเกอรี่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เคเอฟซี ประจำประเทศไทย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เคเอฟซี ประเทศไทย ให้ความสำคัญและ ใส่ใจในทุกกระบวนการปรุงไก่ทอดของเรา ตั้งแต่การคัดสรรวัตุดิบที่มีคุณภาพจนถึงวิธีการปรุงอาหารที่สะอาดและเป็นไปตามมาตรฐานของเคเอฟซีทั่วโลก รวมไปความสะอาดของพนักงานและบริเวณต่างๆ ภายในร้านที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยในปัจจุบัน เราจึงได้ปรับโฉมร้านและบริการใหม่ๆ ให้ทันสมัย เสริมประสิทธิภาพในการให้บริการ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าที่เข้ามายังร้านเคเอฟซี”

สำหรับไก่ทอดเคเอฟซีซึ่งครองใจผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นสูตรลับต้นตำรับที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ประกอบด้วยส่วนผสมของสมุนไพรและเครื่องเทศ 11 ชนิด ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ที่สะท้อนความพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอน ได้แก่

ขั้นตอนที่ 1 กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบ โดยเลือกใช้วัตถุดิบต่างๆ จากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ วัตถุดิบหลักอย่างเนื้อไก่ต้องเป็นไก่สดที่ปราศจากสารเร่งโตหรือแอนตี้ไบโอติก มาจากผู้เลี้ยงไก่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการเลี้ยงไก่โดยกรมปศุสัตว์ มีระบบการจัดการด้านการควบคุมและป้องกันโรคอย่างเข้มงวด

ขั้นตอนที่ 2 กระบวนการปรุงไก่นั้นจะปรุงสด ใหม่ ที่ร้านทุกวัน โดยนำไก่ไปหมักสมุนไพรและเครื่องเทศ 11 ชนิด เป็นสูตรลับความอร่อยของผู้พันแซนเดอร์ส จากนั้นล้าง เขย่า นวด คลุกเคล้าและหมักด้วยสูตรเฉพาะ “7-10-7” ก่อนที่เชฟจะนำไก่ไปทอดด้วยวิธีแบบสุญญากาศเพื่อให้ไก่ทอดทุกชิ้นมีความกรอบนอกนุ่มใน และมีสีเหลืองทองตามมาตรฐาน รวมถึงการดูแลอาหารในแต่ละเมนูที่จะต้องปรุงสุกภายใต้อุณหภูมิและเวลาที่กำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 3 เมื่อปรุงไก่ทอดสูตรต้นตำรับจนพร้อมจำหน่ายแล้ว ไก่จะถูกนำไปเก็บไว้ในตู้ควบคุมอุณหภูมิเพื่อรอจำหน่าย และเมนูแต่ละชนิดจะมีระยะเวลาจำหน่ายที่ชัดเจน หากเกินกว่าเวลาที่กำหนด จะถูกนำไปทิ้งอย่างเป็นระบบ เพื่อคงรสชาติและรักษาคุณภาพของอาหารที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเคเอฟซี

 ด้านนวัตกรรมของเคเอฟซีในการยกระดับการให้บริการภายในร้าน จัดทำขึ้นภายใต้คอนเซ็ปท์ ‘Always Original’ ที่นอกจากจะมุ่งเน้นสะท้อนความเป็นตัวตน ผ่านการออกแบบตกแต่งร้านและเครื่องแบบพนักงาน ยังมอบสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการใหม่ๆ เช่น การให้บริการฟรีอินเตอร์เน็ต wi-fi ภายในร้าน บริการปลั๊กไฟบริเวณโต๊ะรับประทานอาหารตอบรับวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน การปรับรูปแบบหน้าจอดิจิตัลเมนูบอร์ดสำหรับสั่งอาหาร บริการ Drive-thru พร้อมบริการเครื่องดื่มรีฟิลแบบไม่อั้น เป็นต้น

นอกจากการยกระดับนวัตกรรมการบริการแล้ว เคเอฟซี ประเทศไทยยังเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมด้านอาหารเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยเมนู “ไก่กรอบสไปซ์ ซี้ด” ร้อนแรงถึงเครื่อง ด้วยพริก มะนาว ข้าวคั่ว เหมาะสำหรับคนรักไก่ทอดที่มองหาความแตกต่าง ชอบทดลองรสชาติใหม่ๆ และสร้างสีสันให้กับชีวิต วางจำหน่ายสำหรับผู้บริโภคชาวไทยตั้งแต่วันนี้ถึง 21 ธันวาคม ศกนี้

#####

คำบรรยายภาพ: เคเอฟซี ประเทศไทย นำโดย มิสโมนิก้า โรสเกอรี่ (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เคเอฟซี ประจำประเทศไทย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมเอาใจแฟนๆ เคเอฟซี พาชมกระบวนการผลิตไก่ทอดที่ปรุงสดใหม่และได้มาตรฐานภายในร้านเคเอฟซี ไดร์ฟทรู สาขาวังหิน

เกี่ยวกับเคเอฟซี ประเทศไทย

เคเอฟซี เป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารบริการด่วนที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมทั่วโลก ก่อตั้งโดยผู้พันฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ ในปี พ.ศ. 2495 เพื่อที่จะส่งมอบไก่ทอดสูตรต้นตำรับและเมนูอาหารคุณภาพชั้นเลิศให้กับลูกค้าทั่วโลกในราคาย่อมเยา สำหรับเคเอฟซี ประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัทเซ็นทรัล เรสตอรองส์กรุ๊ป จำกัด เปิดให้บริการสาขาแรกที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ในปี พ.ศ.2527 จากนั้นได้ขยายสาขาไปทั่วประเทศ ปัจจุบันมีร้านเคเอฟซี 560 สาขาทั่วประเทศ และเคเอฟซียังคงมุ่งมั่นที่จะคิดค้นและนำเสนอเมนูอาหารใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ได้คุณภาพ ปลอดภัย ตามมาตรฐานระดับโลก พร้อมสร้างพนักงานคุณภาพเพื่อมอบประสบการณ์การให้บริการอันอบอุ่นและดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในร้านและบริการเดลิเวอรี่ผ่านระบบ call center 1150 และเว็บไซต์ www.kfc.co.th ติดตามข้อมูลข่าวสารของเคเอฟซีประเทศไทยเพิ่มเติมได้ที่ www.kfcthailand.com