กาแฟไต้หวัน “หลุยซ่า คอฟฟี่” บุกตลาดไทย เล็งเปิด 5 สาขาใน 3 ปี ชูราคาต่ำกว่าคู่แข่ง 10-20 %
กาแฟไต้หวัน “หลุยซ่า คอฟฟี่” บุกตลาดไทย
เล็งเปิด 5 สาขาใน 3 ปี ชูราคาต่ำกว่าคู่แข่ง 10-20 %
หลุยซ่า คอฟฟี่ (Louisa Coffee) กาแฟพรีเมี่ยมยักษ์ใหญ่ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไต้หวัน เปิดฉากบุกตลาดกาแฟในเมืองไทย ชูราคาเทียบเท่าหรือต่ำกว่าคู่แข่ง 10-20% ประเดิมสาขาแรกที่อัมรินทร์ พลาซ่า ตั้งเป้า 3 ปี เปิด 5 สาขาในประเทศไทย
มร. คริส ฮวง (Mr. Chris Huang) ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการทั่วไป ร้านกาแฟหลุยซ่า ประเทศไต้หวัน กล่าวว่า ร้านกาแฟหลุยซ่า คอฟฟี่ ได้ขยายธุรกิจเข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทย นับเป็นแห่งแรกในต่างประเทศ ประเดิมสาขาแรกที่อัมรินทร์ พลาซ่า โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี เปิด 5 สาขา เนื่องจากไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวไทยขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงต่อการเติบโตของผู้ประกอบการแบรนด์ร้านกาแฟทั้งไทยและต่างชาติที่แห่เปิดตลาดไม่ขาดสาย สำหรับมูลค่าธุรกิจร้านกาแฟ ปี 2560 มีมูลค่า 21,220 ล้านบาท ปี 2561 มูลค่า 23,470 ล้านบาท และปี 2562 มูลค่า 25,860 ล้านบาท (ที่มา : ศูนย์อัจฉริยะ เพื่ออุตสาหกรรมอาหาร)
ขณะที่ข้อมูลจากสมาคมกาแฟไทย/สมาพันธ์กาแฟอาเซียน พบว่าตลาดร้านกาแฟในไทย มีมูลค่าตลาดรวม 17,000 ล้านบาท (ทั่วไป 9,000 ล้านบาท/พรีเมียม 8,000 ล้านบาท) ชาวไทยมีการบริโภคกาแฟอัตราเฉลี่ย 0.5-1.0 กิโลกรัม/คน/ปี สหรัฐอเมริกา 3.5 กิโลกรัม/คน/ปี สแกนดิเนเวีย 10 กิโลกรัม/คน/ปี หรือโดยรวมคาดการณ์ว่า ในระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) การบริโภคเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว เป็นกว่า 300,000 ตัน/ปี
ทั้งนี้ Louisa Coffee มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2006 ที่ไทเป ประเทศไต้หวัน ด้วยความหลงใหลในกาแฟ จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคนทำกาแฟที่มีคุณภาพ โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่ารอบทศวรรษที่ผ่านมาในการสร้างสรรค์กาแฟที่ดีที่สุด โดยใช้กระบวนการคั่ว และการควบคุมอุณหภูมิ และพิถีพิถันในกรรมวิธีการชงเฉพาะตัว
ความสำเร็จของร้านมาจากหลากหลายองค์ประกอบ อาทิ ทำเล บาริสต้า การออกแบบร้าน ราคา คุณภาพ รสชาติกาแฟ ฯลฯ จากประสบการณ์การตอบรับของผู้บริโภค ทำให้เกิดจำนวนสาขาต่างๆ มากมาย ทำให้มั่นใจว่า “หลุยซ่า คอฟฟี่” ร้านกาแฟระดับพรีเมี่ยมระดับยักษ์ใหญ่ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไต้หวันแห่งนี้ จะถูกปากและถูกใจคอกาแฟชาวไทยด้วย
ปัจจุบัน หลุยซ่า คอฟฟี่ มีเครือข่ายสาขา 450 แห่งทั่วประเทศไต้หวัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Coffee Journey” ด้วยการนำกาแฟพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพ คัดสรรจากแหล่งกาแฟท้องถิ่นในประเทศไทยและประเทศลาว พร้อมส่วนผสมชาจากประเทศอังกฤษและไต้หวัน จำหน่ายให้คอกาแฟในราคาที่สมเหตุสมผล และให้ความรู้สึกว่า หลุยซ่า คอฟฟี่ เป็น “Second Place” ของทุกๆ คนที่เข้ามาใช้บริการ
"ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผนวกกับมีความต้องการของร้านที่ต้องการขยายสาขาออกไปต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสในการเปิดเกมรุกขยายธุรกิจของหลุยซ่า คอฟฟี่"
ในเบื้องต้น การเปิดตลาดต่างประเทศของหลุยซ่า คอฟฟี่ มองการเจาะตลาดประเทศในโซนเอเชีย ซึ่งมีวัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ และความชื่นชอบใกล้เคียงกันเป็นอันดับแรก โดยประเทศไทยมีศักยภาพสูงทั้งด้านวัตถุดิบ การพัฒนาบุคลากร รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่เติบโตเพิ่มขึ้นทุกวัน
โดยกลยุทธ์ในการทำตลาดสาขาแรกของแบรนด์หลุยซ่า คอฟฟี่ จะใช้จุดแข็ง คือ วัตถุดิบ คัดสรรจากแหล่งท้องถิ่น ซึ่งประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในโลก การพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งคนไทยมีศักยภาพ มีความพิถีพิถันในกรรมวิธีการชงกาแฟ ตอบสนองทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่ากลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา และกลุ่มคนทำงาน
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของร้านประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษา อายุ 20-25 ปี และกลุ่มอาชีพอิสระ อายุ 26-30 ปี นิยมพบปะสังสรรค์ที่ร้านกาแฟ โดยมาใช้บริการเพื่อดื่มกาแฟ นัดพบพูดคุยธุรกิจ หรือใช้อินเตอร์เน็ต โดยพบว่าจะดื่มกาแฟ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งทางร้านมีบริการเครื่องดื่มร้อนเย็นมากมายกว่า 40 เมนู ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 50 ถึง 70 บาท เทียบกับตลาดร้านกาแฟระดับพรีเมี่ยมในศูนย์การค้าแล้ว “เท่ากัน” หรือ “ต่ำกว่า” คู่แข่ง 10-20% ในบางเมนู นอกจากนี้ การมองหาสถานที่ตั้งเน้นให้ใกล้กับใจกลางเมืองและศูนย์รวมธุรกิจ มหาวิทยาลัย เป็นอีกปัจจัยของความสำเร็จ
“การมองตลาดต่างประเทศ เพื่อขยายธุรกิจ นโยบายร้านจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังจากมีความพร้อมและความมั่นใจในศักยภาพและกระบวนการขยายสาขาและมาตรฐานคุณภาพของสินค้า ซึ่งร้านหลุยซ่าในประเทศไต้หวัน ใช้เวลา 4 ปี ได้ขยายสาขา 50 ร้านทั่วประเทศ”
โดยมีหลักการพิจารณาก่อนขยายสาขา ดังนี้
1. มีข้อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนในตลาดต่างประเทศ ศึกษาข้อมูลผู้บริโภค ศึกษาตลาดพฤติกรรมผู้บริโภค
2. สร้างความแตกต่างและความโดดเด่นของสินค้า (สินค้าเกรดพรี่เมี่ยม แต่ราคาจับต้องได้)
3. มองเวลาที่เหมาะสมกับจังหวะ (ประเทศไทยมีศักยภาพ ถึงแม้ตลาดกาแฟมีการแข่งขันสูง แต่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง)
4. สร้างมาตรฐานและคุณภาพเดียวกัน (รสชาติและกรรมวิธีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ)
ทางด้านนายวงศ์พันธุ์ เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการ บริษัทหลุยซ่า คอฟฟี่ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ต้องการให้คนไทยได้ลิ้มรสกาแฟที่คุณภาพดี รสชาติอร่อย เป็นที่มาของ Coffee Business
“หลังจากที่ผมได้ไปเยี่ยมชมและสัมผัสร้าน Louisa Coffee ในประเทศไต้หวัน ก็ได้รู้ถึง passion ของคุณคริสเกี่ยวกับเรื่องกาแฟ บวกกับคุณภาพของ Louisa Coffee ได้ลองรสชาติแล้วมั่นใจ จึงอยากให้คนไทยได้ทานกาแฟดีๆ ระดับ Specialty Coffee และในราคาที่ทุกคนพอใจด้วย”
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายสาขาในกรุงเทพฯ แบบค่อยเป็นค่อยไป ทำแต่ละสาขาให้ดีที่สุด คงคุณภาพตามที่ Louisa Coffee Original เคยทำไว้ ขณะเดียวกันให้มีความเหมาะสมกับตลาดกาแฟไทย ไลฟ์สไตล์คนไทยยุคใหม่ด้วย
อย่างไรก็ดี ช่วง 2 สัปดาห์แรกของการฉลองเปิดร้าน หลุยซ่า คอฟฟี่ ได้จัดโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาแรกในประเทศไทย เอาใจเหล่าแฟนพันธุ์แท้คอกาแฟ แจกฟรีเครื่องดื่มขนาดใดก็ได้จำนวน 100 รางวัลๆ ละ 1 แก้ว (ยกเว้นเมนู Specialty Coffee) ร่วมลุ้นรางวัลง่ายๆ เพียงถ่ายภาพกับแก้ว Mock up หน้าร้าน Louisa Coffee โพสลง Facebook พร้อม Check in “Louisa Coffee Thailand” ตั้งแต่วันที่ 11-15 มีนาคม 2562 เวลา 08.00-10.00 น. และ 18.00-20.00 น. ที่อัมรินทร์ พลาซ่า ชั้น 2 (ทางเชื่อม BTS ชิดลม) โดยแสดงหลักฐานหน้าจอโทรศัพท์ของท่านต่อพนักงาน
สำหรับร้านกาแฟหลุยซ่า เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.30-20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.00 น.
Louisa Coffee, Taiwanese Coffee, enters Thailand
Opening Five Outlets in Three Years
with 10-20% Lower Prices than other Premium Brands
Louisa Coffee, Taiwan’s largest premium coffee brand with the most branches, recently entered the coffee market in Thailand, boasting 10-20% lower or equal prices compared to other players in the market. Louisa Coffee opened its first outlet in Thailand at Amarin Plaza and plans to open five outlets in the next three years.
Mr. Chris Huang, Founder and General Manager, Louisa Coffee, Taiwan, said “Louisa Coffee expanded overseas for the first time in Thailand with its first location at Amarin Plaza. The company aims to open a total of five outlets in the next three years, as coffee culture in Thailand has been booming in the recent years. Thailand is considered to have a high growth potential, where both local and foreign café chains continue to bloom across the country. The values of café industry alone were 21.22 million baht in 2017, 23.47 million baht in 2018, and 25.86 million baht in 2019 (Source: Food Intelligence Center, Thailand).
At the same time, Thai Coffee Association/ASEAN Coffee Federation found that café industry in Thailand is worth 17 million baht (General: 9 million baht/Premium: 8 million baht). Thai people consume an average of 0.5 – 1.0 kilogram per person per year, while American consume 3.5 kilograms and Scandinavian consume 10 kilograms respectively. Furthermore, coffee consumption is expected to grow at least three folds to more than 300,000 tons per year.
Louisa Coffee was founded in 2006 in Taipei, the capital city of Taiwan. Stemming from the founder’s passion in coffee, Louisa Coffee has established itself as an expert in quality coffee. We spent more than a decade in crafting the best coffee from roasting the beans, controlling the temperature, to brewing each cup.
Success of Louisa Coffee is rather multi-faceted with its ample locations, able baristas, storefront design, price, quality, and taste. Our branch expansion is solely in response to our customers’ demands, therefore, we are confident that Louisa Coffee, Taiwan’s premium café with the most branches in the country, will be a hit among the Thai coffee drinkers as well.
Today, Louisa Coffee registers 450 branches, spreading across Taiwan. Operating under its core concept, “Coffee Journey,” Louisa brings premium coffee, carefully selected from local sources in Thailand and Laos, and a selection of tea from England and Taiwan to coffee lovers at reasonable prices, making Louisa Coffee the truly “Second Place” for every visitor.
“Whilst meeting consumers’ changing needs and lifestyles, Louisa Coffee has been seeking opportunities to expand beyond Taiwan, hence its first overseas location in Thailand.”
For its first phase, Louisa Coffee is targeting Asian markets with similar cultures, lifestyles, and preferences. Thailand has risen as top choice with high potential as raw materials, human resource development, and its growing market.
To market our first location in Thailand, Louisa Coffee will leverage on its strengths, i.e., raw ingredients and human resource development. The core ingredient, coffee, is carefully selected from local sources in Thailand, where quality coffee can be found in the northern region. At the same time, Louisa Coffee plans to develop expertise among Thai people who have great potential and care in brewing their coffee. Louisa Coffee will be the coffee for every target segment – teens, college students, and working professionals.
Louisa Coffee targets college students, aged 20–25 years old, and freelancers, aged 26–30 years old, who often meet and hang out at cafés, where they drink coffee, hold business meetings, and surf the web. Studies show that they drink coffee 1- 2 times per week. Louisa Coffee’s menu offers more than 40 hot and cold beverages, with the starting price of 50–70 baht, which is 10–20% lower than or equal to premium cafés in shopping centers. The popular and recommended menus are latte, cappuccino, and flat white. Moreover, the location near the heart of the city, business center, and universities is another key success factor.
“Overseas expansion will be gradual for Louisa Coffee and will only happen when we gain readiness and confidence in the potential and process in branch expansion and quality control. In Taiwan, Louisa took four years in expanding 50 stores nationwide.”
Prior to an expansion, the following criteria must be considered:
1. Target segments must be clearly defined for any foreign market. There must be consumer data and consumer behavior studies.
2. Products must be differentiated and outstanding (premium quality products at the reasonable prices).
3. Timing must be right. Thailand has a great potential, despite high competition in the coffee market, and it is still growing continuously.
4. Quality standards must be created (taste and process are distinct).
Mr. Wongphun Laothamatas, Executive Director, Louisa Coffee Thailand Company Limited, said, “I want to introduce high quality tasty coffee to Thai people, thus my entrance into the coffee business.”
“After my visits at Louisa Coffee in Taiwan, I could feel Chris’ passion in his coffee. Plus, Louisa Coffee stands for good quality taste that I am confident in and I want to introduce this superior specialty coffee at affordable prices.”
The company’s expansion plan in Bangkok will be gradual. We want to focus on building each branch and maintaining Louisa Coffee Original’s quality, while fitting into the Thai coffee market and lifestyles of Thai people.
In celebrating the launch of its first branch in Thailand, Louisa Coffee offers a special promotion to true coffee lovers. Just take a photo with the Louisa Coffee Mug mock up in front of the branch, post on Facebook publicly, check in at Louisa Coffee Thailand, and show the post to the store employees to receive your special discount. The promotion runs on 11-15 March 2019 at 08.00-10.00 hrs. and 16.00-18.00 hrs., at Louisa Coffee, 2nd floor, Amarin Plaza (Chidlom BTS Station Skywalk).
Louisa Coffee opens its doors on Monday to Friday at 07.30-20.00 hrs. and Saturday to Sunday at 10.00-19.00 hrs.