โค้งสุดท้าย พร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ครั้งที่ 13 ขยายเวลารับสมัครถึง 6 กรกฎาคมนี้ เตรียมจัดงานมอบรางวัลชนะเลิศระดับเอเชีย ครั้งแรกในไทย

โค้งสุดท้าย พร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ครั้งที่ 13 ขยายเวลารับสมัครถึง 6 กรกฎาคมนี้ เตรียมจัดงานมอบรางวัลชนะเลิศระดับเอเชีย ครั้งแรกในไทย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โค้งสุดท้าย พร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ครั้งที่ 13
ขยายเวลารับสมัครถึง 6 กรกฎาคมนี้
เตรียมจัดงานมอบรางวัลชนะเลิศระดับเอเชีย ครั้งแรกในไทย

 


กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 19 มิถุนายน 2561
นับถอยหลังกับการมอบรางวัล พร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ปี 2018 หรือ PropertyGuru Thailand Property Awards 2018 ซึ่งจะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 เวทีเฟ้นหานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดของประเทศไทย และเป็นรางวัลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในประเทศ


ภายในปีนี้มหกรรมการมอบรางวัลประจำปีดังกล่าว ได้เปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปให้เริ่มส่งรายชื่อโครงการต่าง ๆ ได้จนถึงวันที่ 29 มิถุนายนนี้ ส่วนการสมัครในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และดีไซเนอร์จากทั่วประเทศ จะปิดรับรายชื่อในวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 ได้ทาง AsiaPropertyAwards.com/nomination/thailand
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลส์ จำกัด หรือ JLL ประธานคณะกรรมการตัดสินเปิดเผยว่า "ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้นสำหรับนักลงทุน ดังนั้น นักพัฒนาต่างเข้าใจถึงประโยชน์ของการรับรองคุณภาพโดยที่มีความเป็นเลิศในทุกด้านของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรางวัลไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ มีระบบการตัดสินที่โปร่งใสและเป็นมืออาชีพ ดำเนินการโดย บีดีโอ BDO เครือข่ายการตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งทำให้ในปีนี้มีจำนวนผู้สมัครจากทั่วประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกปี”


นายพอล แอชเบิร์น ผู้บริหาร บีดีโอ ไทยแลนด์ ให้ความเห็นว่า “รางวัลพร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเป็นลำดับ โดยได้สร้างระบบแรกที่ได้รับการยกย่องในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของราชอาณาจักรให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกการเพิ่มประเภทการตัดสินที่มากขึ้น ทำให้คณะกรรมการคาดว่า จะต้องมีการประเมินผู้เข้าร่วมประกวดที่มีจำนวนมากขึ้นไปด้วย ต้องมีวิธีการตรวจสอบยังที่ตั้งโครงการสถานที่จริง รวมถึงแนวทางการประเมินเจตนารมณ์ของแต่ละโครงการที่ผู้เข้าประกวดตั้งใจทำและส่งมอบให้กับลูกค้า นอกจากนั้น การมอบรางวัลนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และตัวผู้ประกอบการ เราเชื่อว่า การสนับสนุนให้มีการประกาศรางวัลอันทรงคุณค่า การสนับสนุนโครงการคุณภาพ จะช่วยเป็นตัวอย่างและสนับสนุนให้เกิดความเป็นเลิศต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทยโดยรวม”


ด้าน นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ดอทคอม ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า “แม้ว่ารางวัลไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ จะเป็นส่วนหนึ่งของรางวัลเอเชีย พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ Asia Property Awards ที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ได้รับการยอมรับจากนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก สำหรับรางวัลพร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในกรุงเทพฯ เมื่อสิบสามปีที่ผ่านมา นับได้ว่า เป็นรางวัลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย และเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมีการจัดงานมอบรางวัลระดับเอเชียในเมืองหลวงของไทยเป็นครั้งแรกในปีนี้ด้วย"


มหกรรมการมอบรางวัลพร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ปีนี้นำเสนอโดย โคห์เลอร์ Kohler และได้รับการสนับสนุนโดยเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ DDproperty.com ในฐานะเว็บไซต์ชั้นนำของวงการอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย โดยมีการเพิ่มประเภทรางวัลใหม่ รวมเป็น 40 ประเภท ได้แก่ ประเภทการพัฒนา Smart Home Development, การพัฒนา Best Co-working Space และการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สงอายุ และในปีนี้ยังมีรางวัลสำหรับนักออกแบบ (Designer) ด้วยรางวัลสาขาต่าง ๆ อาทิ Best Hotel Architectural Design เป็นต้น


นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้ประกาศรางวัลพิเศษเพิ่มขึ้น ให้กับอาคารเพื่อการอำนวยสาธารณะประโยชน์ ซึ่งมอบให้กับอาคารที่มีการเปิดใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ ทั้งการดูแลสุขภาพอนามัย การศึกษา บริการสาธารณะ การขนส่ง การบำเพ็ญประโยชน์และกิจกรรมทางศาสนาไม่ว่าอาคารนั้นจะเป็นของเอกชนหรือองค์กรภาครัฐก็ตาม ได้แก่ รางวัล Best Green Development, Best Universal Design Development และ Special Recognition for Public Facility โดยคัดเลือกจากโครงการทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ตะวันออก หัวหิน เขาใหญ่ เกาะสมุย ภูเก็ต พังงา สงขลา และตะวันออกเฉียงเหนือ


ทั้งนี้ ในปีนี้คณะกรรมการตัดสินได้ให้ความสำคัญกับการได้รับความนิยมที่เติบโตสูงขึ้นของ co-working space ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากของออฟฟิสใหม่ ๆ และอาคาร multi-purpose เพื่อจะจัดบริการให้กับพนักงานหลากหลายประเภทในทุกวันนี้ รวมไปถึงบุคคลที่ทำงานอย่างอิสระผ่านช่องทางออนไลน์ที่จำเป็น และไม่ต้องการที่จะทำงานภายใต้สภาพห้องทำงานแบบเดิม ๆ อีกตลาดเฉพาะ (niche) ที่ควรได้รับความสนใจ ได้แก่ ตลาดที่พักอาศัยของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นตลาดค่อนข้างเล็กแต่มีศักยภาพสูงมากที่จะเติบโต ประเทศไทยเป็นหนึ่งในภูมิภาคเป้าหมายที่จะมาใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุงานสำหรับชาวต่างช าติรวมไปถึงคนท้องถิ่นที่มีฐานะร่ำรวยจำนวนมาก หากนำไปรวมกับอัตราค่าครองชีพที่เหมาะสมและอัตราค่ารักษาพยาบาลที่สามารถจ่ายได้แล้ว เชื่อว่า ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รวมไปถึงหุ้นส่วนของพวกเขาจะต้องเข้ามาสู่ตลาดนี้ในเวลาอีกไม่นาน


สำหรับงานกาลาดินเนอร์เพื่อแจกรางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 13 จะจัดขึ้น ณ โรงแรมดิ แอทธินี กรุงเทพฯ โดยผู้เข้าร่วมประกอบไปด้วยผู้บริหารระดับสูงและวีไอพี จำนวนกว่า 600 ท่าน โดยผู้ที่ได้รับรางวัลในสาขาหลักจะได้รับการส่งไปประกวดใน PropertyGuru Asia Property Awards ครั้งที่ 8 รอบสุดท้าย ซึ่งจะจัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งเป็นงาน Grand Final ครั้งยิ่งใหญ่ประจำปีเพื่อฉลองความสำเร็จของนักพัฒนาและนักออกแบบในสิงคโปร์ พม่า ฟิลิปปินส์ และมองโกเลีย จะเข้าร่วมด้วยเพื่อรับรางวัลในเวทีระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรกอีกด้วย


นอกเหนือจากการประกวดใน PropertyGuru Asia Property Awards แล้วนั้น ทางผู้จัดงานยังมีงานสัมมนาหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ PropertyGuru Asia Real Estate Summit เช่นกันในวันที่ 8 – 9 พ.ย. 2561 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือเว็บไซต์ AsiaPropertyAwards.com