“ผู้ว่ากทม.กับบทพิสูจน์ประสิทธิภาพในการบริหารงานขจัดทุกข์บำรุงสุขของชาวกทม.

“ผู้ว่ากทม.กับบทพิสูจน์ประสิทธิภาพในการบริหารงานขจัดทุกข์บำรุงสุขของชาวกทม.

 

 

 

CHANGE The World รสนา โตสิตระกูล

 

“ผู้ว่ากทม.กับบทพิสูจน์ประสิทธิภาพในการบริหารงานขจัดทุกข์บำรุงสุขของชาวกทม.”

 


ดิฉันได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยในเขตบางรัก ตั้งแต่เมื่อพฤศจิกายน 2560 ว่ามีร้านอาหารฝรั่งเศสที่เป็นบริษัทลูกของสายการบินเอกชนรายหนึ่ง มาตั้งร้าน โดยมีหลังบ้านติดกับหลังบ้านของผู้ร้องเรียน


ร้านอาหารดังกล่าวได้ติดตั้งอุปกรณ์ระบายอากาศขนาด12แรงม้า ที่ส่งเสียงและกลิ่นรบกวนบ้านของเธอ โดยเฉพาะเครื่องระบายอากาศนั้นติดตั้งตรงกับห้องนอนของคุณแม่ของเธอ และส่งเสียงดังและกลิ่นเหม็นในเวลากลางคืน จนยากแก่การใช้ชีวิตโดยปกติสุขของคุณแม่ของเธอ


ดิฉันประสานขอให้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเข้าไปช่วยเหลือกรณีนี้ ซึ่งดูเหมือนจะได้ผล เพราะมีคำสั่งจากท่านผู้ว่าอัศวิน ขวัญเมือง ในวันที่ 4 ธันวาคม 2560 สั่งให้มีการแก้ไขให้แล้วเสร็จใน60วัน นับแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว


ปรากฎว่าเมื่อคำสั่งลงไปถึงระดับผู้ปฏิบัติการที่เขตบางรัก มีการแก้ไขย้ายอุปกรณ์ แต่ไม่ได้แก้ไขจนหมดปัญหาเรื่องเสียงดังและกลิ่นเหม็นดังกล่าว ยังคงมีการร้องเรียนมาตลอด มีการส่งเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมของเขตเข้าไปตรวจสอบ แต่เจ้าหน้าที่มาในเวลาราชการ จึงไม่ได้ยินเสียงดังและไม่ได้รับรู้กลิ่นเหม็นตามที่ร้องเรียน เนื่องจากเสียงและกลิ่นเกิดในเวลากลางคืน


ผู้ร้องเรียนติดต่อขอความช่วยเหลือมาที่ดิฉันเป็นระยะ ซึ่งดิฉันก็ได้ขอความร่วมมือไปทางคนรู้จักในสภากทม. คนที่สภากทม.มีคำแนะนำให้ร้องทุกข์ไปที่สายด่วนผู้ว่ากทม.ที่1555 ทางผู้ร้องเรียนได้ทำตามคำแนะนำ และได้รับคำตอบว่า


“ร้านต้นเหตุยังไม่ได้ทำแบบมายื่นในส่วนที่ต่อเติมและยังไม่ขออนุญาต” นอกจากคำตอบแบบนี้แล้ว ก็ไม่ได้แก้ไขปัญหาให้


ถ้าเป็นจริงตามข้อมูลที่ว่า “ร้านต้นเหตุยังไม่ได้ยื่นแบบในส่วนที่ต่อเติม” ย่อมเข้าข่ายทำผิดกฎหมายอาคาร ใช่หรือไม่


คำถามต่อมา คือโยธาเขตปล่อยให้มีการต่อเติมโดยไม่ขออนุญาต ได้อย่างไร และ เมื่อมีคนร้องเรียน ผู้ว่ากทม.สั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วให้แก้ไขภายใน 60วัน ขณะนี้เวลาล่วงเลยเกือบจะครบปี แต่กลับปล่อยปัญหาคาราคาซังโดยไม่แก้ไข คงหวังให้คนร้องเหน็ดเหนื่อยและยุติไปเอง ใช่หรือไม่


การไม่แก้ปัญหากรณีเล็กๆเช่นนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่าถ้าเป็นกรณีหลีกเลี่ยงกฎหมายออกแบบอาคารที่มีมูลค่าระดับพันล้าน หมื่นล้าน กทม.คงยิ่งไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย ใช่หรือไม่


กรณีนี้เป็นเพียงกรณีเล็กๆที่ฟ้องถึงความไม่โปร่งใสในเรื่องการขออนุญาตต่อเติมอาคาร ซึ่ง กทม.ปล่อยปละให้มีปัญหาเรื่องแบบนี้อีกมากมาย การปล่อยให้มีการต่อเติมอาคารโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือโดยไม่ขออนุญาต แต่ทำได้ ย่อมมีผู้ได้รับประโยชน์จากการเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ใช่หรือไม่


สิ่งที่ผู้ว่ากทม.ควรตระหนักคือ กทม.เป็นงานบริหารท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และ
พัฒนาการของการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปเพื่อจะได้สนองตอบต่อความต้องการของชุมชนได้อย่างรวดเร็วและตรงตามความต้องการของชุมชนมากที่สุด ซึ่งหน้าที่สำคัญตั้งแต่ยุคเริ่มต้นงานปกครองส่วนท้องถิ่น มีอยู่ 4 ประการ คือ 1)การทำลายขยะมูลฝอย 2)การทำส้วม 3)การควบคุมอาคารและสิ่งปลูกสร้าง และ4)การขนย้ายสิ่งโสโครกและสิ่งก่อความรำคาญให้แก่มหาชน อันเป็นหน้าที่พื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นอกเหนือจากบทบาท อื่นๆในปัจจุบันที่ต้องส่งเสริม และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการปกครองตนเองอีกด้วย


อันที่จริง ผู้ว่ากทม.ได้สั่งการให้แก้ไขกรณีนี้ให้แล้วเสร็จภายใน60วัน ตั้งแต่ 4ธันวาคม 2560 นั้น แต่คำสั่งดังกล่าวไม่ทำให้เกิดการแก้ไข แสดงถึงความไม่มีประสิทธิภาพในสายการบังคับบัญชา ผู้ว่ากทม.จึงควรมีระบบการตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขกลไกการบังคับบัญชา มิใช่ปล่อยให้มีคำสั่ง โดยไม่มีการปฏิบัติ


เมื่อ2วันก่อนผู้ร้องเรียนติดต่อดิฉันอีกว่าคุณแม่ของเธอไม่สบาย มีไข้และอาเจียนหนักมาก จนต้องส่งไปโรงพยาบาล เธอบอกว่าหมดหนทางที่จะร้องเรียนให้ผู้ว่าฯหรือหน่วยงานในกทม.แก้ไขปัญหาให้ครอบครัวเธอได้แล้ว เพราะมีแต่การโยนลูกไปมา มีหนทางสุดท้ายคือจะขอถวายฎีกา ดิฉันเห็นว่าจะปล่อยให้เธอหมดสิ้นหนทาง จนต้องไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาทเชียวหรือ ทั้งที่กรณีเช่นนี้เป็นเพียงหน้าที่ขั้นพื้นฐานของผู้ว่ากทม.เท่านั้น


จึงขอใช้บทความนี้เป็นเครื่องขยายเสียงเล่าความทุกข์ของคนเล็กๆให้ประชาชนชาวกทม.ได้รับทราบ และก็หวังว่าผู้ว่ากทม.จะได้ยินเสียงของความเดือดร้อนของคนเล็กๆด้วย เพื่อให้ท่านลงมาแก้ปัญหาจริงจังให้เกิดประสิทธิผลเชิงประจักษ์เสียที


หากกรณีเล็กๆเกี่ยวกับทุกข์สุขของชาวกทม.ที่เป็นหน้าที่หลักของการบริหารงานท้องถิ่นยังทำไม่ได้เสียแล้ว แล้วเราจะหวังให้ผู้ว่ากทม.สามารถทำหน้าที่ในระดับอื่นๆอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ใช่หรือไม่

รสนา โตสิตระกูล
24 ต.ค 2561