เอไอเอ ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จโครงการ Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality ปี 2 เพื่อค้นหาองค์กรสุขภาพเป็นเลิศในประเทศไทย

เอไอเอ ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จโครงการ Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality ปี 2 เพื่อค้นหาองค์กรสุขภาพเป็นเลิศในประเทศไทย

 

 


เอไอเอ ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จโครงการ Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality ปี 2 เพื่อค้นหาองค์กรสุขภาพเป็นเลิศในประเทศไทย

 

 

กรุงเทพฯ, 26 เมษายน 2562 – เอไอเอ ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จด้านการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีในระดับองค์กร กับโครงการ ‘Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality’ ปี 2 ซึ่งเป็นโครงการสำรวจด้านสุขภาพในระดับองค์กรบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อค้นหาองค์กรสุขภาพเป็นเลิศในประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมให้องค์กรตระหนักถึงสุขภาพของพนักงาน และวางกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพในการทำงาน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอไอเอ ที่ต้องการสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น (Healthier, Longer, Better Lives)


นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ ‘Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality’ เป็นอีกหนึ่งโครงการต่อเนื่องที่สำคัญของเอไอเอ ประเทศไทย เนื่องจากเอไอเอ เดินหน้าส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีมาโดยตลอด ทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร โดยในปี 2561 มีองค์กรในประเทศไทยเข้าร่วมโครงการ Thailand’s Healthiest Workplace กว่า 140 องค์กร สำหรับในปีนี้


เราตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนองค์กรที่เข้าร่วมโครงการให้มากขึ้นกว่าเท่าตัว เพราะสุขภาพของพนักงานคือปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยให้องค์กรมีความเข้าใจที่ดีขึ้นในเรื่องของความเสี่ยงต่าง ๆ ด้านสุขภาพ ที่อาจส่งผลกระทบต่อพนักงานและประสิทธิภาพในการทำงาน ตลอดจนช่วยให้องค์กรสามารถวางกลยุทธ์ในการส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน และสร้างสรรค์สถานที่ทำงานที่ดีต่อสุขภาพได้อย่างเหมาะสม”


“นอกจากนั้น องค์กรที่เข้าร่วมโครงการ Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality และตอบแบบสำรวจครบตามที่กำหนด ยังมีโอกาสได้รับรางวัลจากโครงการ โดยในปีนี้ เราได้เพิ่มรางวัลที่จะมอบให้แก่แต่ละประเภทองค์กร ทั้งองค์กรขนาดเล็ก (พนักงาน 20-249 คน) ขนาดกลาง (พนักงาน 250-999 คน) และขนาดใหญ่ (พนักงาน 1,000 คนขึ้นไป) รวมทั้งสิ้นเป็น 4 รางวัล ได้แก่


1) Healthiest Employer - รางวัลสถานที่ทำงานที่ดีต่อสุขภาพที่สุด

2) Healthiest Employee - รางวัลองค์กรที่มีพนักงานที่มีสุขภาพดีที่สุด

3) Healthiest Workplace – รางวัลองค์กรที่ส่งเสริมสุขภาพในสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด

4) Most Improved Workplace – รางวัลสถานที่ทำงานที่มีการพัฒนาการดีเด่น (สำหรับองค์กรที่มีการส่งเสริมสุขภาพพนักงานที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรายงานสุขภาพขององค์กรในปี 2561)


ทั้งนี้ จะมีการประกาศผลองค์กรที่ได้รับรางวัลภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ครับ นอกจากนี้ ทุกองค์กรที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับรายงานผลสำรวจเพื่อนำไปใช้วางแผนด้านการส่งเสริมสุขภาพของพนักงานภายในองค์กรต่อไป” นายเอกรัตน์ กล่าวเสริม


นพ. ประมุกข์ ทรงจักรแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายประกันสุขภาพ เผยว่า “ผลสำรวจที่ได้จากองค์กรที่เข้าร่วมโครงการในปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตนับเป็นปัญหาสำคัญสำหรับพนักงานในประเทศไทย โดยพบว่าการใช้ชีวิตที่ทำลายสุขภาพและการมีความเครียดสูงส่งผลต่อการสูญเสียเวลาการทำงานของพนักงานสูงถึง 73 วันต่อคนต่อปี จากการขาดงานและการมาทำงานแต่ไม่มีประสิทธิภาพของพนักงาน


ซึ่งส่งผลให้องค์กรในประเทศไทยสูญเสียค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยกว่า 6.1 ล้านบาทต่อองค์กรต่อปี อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ได้ชี้ว่า องค์กรในประเทศไทยมีความตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมสุขภาพในสถานที่ทำงาน และพนักงานเห็นด้วยว่ากิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในสถานที่ทำงานส่งผลที่ดีต่อสุขภาพของตน ด้วยเหตุนี้ เอไอเอจึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการ Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality อย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายที่เพิ่มจำนวนองค์กรที่เข้าร่วมโครงการให้ได้มากขึ้นทุกปี ทั้งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานและศักยภาพขององค์กรในประเทศไทย รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยโดยรวม”


องค์กรที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ ‘Thailand’s Healthiest Workplace by AIA Vitality’ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งองค์กรที่จะเข้าร่วมต้องมีพนักงานไม่ต่ำกว่า 20 คน โดยสามารถลงทะเบียนสมัครได้ที่ https://healthiestworkplace.aia.com/thailand/tha/ ตั้งแต่วันวันนี้ จนถึง 30 มิถุนายน 2562 หลังจากนั้น พนักงานในองค์กรนั้นๆ จะต้องทำแบบสำรวจให้เสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ สามารถติดต่อสอบถามผ่านทาง Email ได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.