กินอะไร ได้อย่างนั้น!...

กินอะไร ได้อย่างนั้น!...

 “อยากสวย ทำไมไม่ค่อยสวย ก็ไอ้กระจกเฮงซวย ส่องแล้วไม่สวยอย่างเนี้ย” ที่หยิบเอาประโยคนี้ของเพลงมาเริ่มต้น เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องสวยๆ งามกันค่ะ จะว่าไปเรื่องสวยงามนี่ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่สนใจ สมัยนี้ผู้ชายเองก็สนใจไม่น้อยไปกว่ากันเลยทีเดียว เพราะใครๆ ก็อยากดูดี จริงไหมคะ


เคยคำนวณเงินไหมคะ ว่าเราหมดเงินไปกับการตามล่าหาผลิตภัณฑ์เพื่อมาเสริมความงามตามโฆษณากันปีละเท่าไหร่
แล้วได้ผลตามที่ต้องการหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ต้องบอกว่าตัวเองก็ไม่ใช่คนที่รักสวย รักงามเท่าไหร่ ไม่เคยใช้ครีมบำรุงใดๆ จนอายุเริ่มเลขสี่ และเมื่อครั้งที่ได้ร่วมงานละครเพลง แม่นาค เดอะมิวสิคัล ช่างแต่งหน้าถามว่า “คุณพี่คะ นี่ผิวหน้า หรือ ดินคะ ทำไมมันขาดน้ำ จนแห้งขนาดนี้คะ”


ตอนนั้นถึงเริ่มสังเกตตัวเอง แถมยังมีสิวอักเสบอีก ถึงได้เริ่มให้มาสนใจกับเรื่องสุขภาพผิว โดยเริ่มจากการรักษาสิวก่อน ด้วยความที่ตัวเองเป็นชอบสมุนไพรไทย ก็เลยเริ่มคิดว่าสมุนไพรอะไรที่จะรักษาสิวได้จริงจัง โดยเริ่มหาจากในตู้เย็นที่บ้าน พอเปิดตู้เย็นก็ได้กลิ่นอาหารเต็มไปหมด เลยบอกเด็กที่บ้านว่า “ไปซื้อถ่านมาให้หน่อย จะเอามาดับกลิ่น”


พูดจบสมองก็คิดต่อทันทีว่า “ถ่าน” ดับกลิ่นได้ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ดูดซับสารพิษได้ เช่น เมื่อเราท้องเสีย ก็ซื้อคาร์บอนมาทานเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียมาทาน และถ้าทานได้ ก็น่าจะใช้กับผิวได้ พอทันทีที่นึกออก ก็เริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมทันที จึงรู้ว่า ถ่าน นั้นมีสรรพคุณมากมาย ถึงขนาดเข้าไปเพิ่มออกซิเจนใต้ผิวหนังได้ แต่ต้องเป็นถ่านที่เผาในอุณหภูมิที่ 1000 องศา ตอนนั้นจึงเริ่มตามหา ถ่านชนิดที่บอกได้เลยค่ะว่าไม่ง่าย เพราะส่วนใหญ่ที่ขายตามท้องตลาดไม่ได้มาตรฐาน เคยลองมาจนผิวพังเป็นแถบๆ แต่ไม่ละความพยายาม


จนในที่สุดก็เจอ ซึ่งราคาไม่ถูกเลย และเป็นถ่านชนิดที่ทานได้เลย จึงเริ่มทำสบู่ล้างหน้า และ มาร์คถ่าน เพื่อใช้เอง เชื่อไหมคะว่า ทั้งสิว และผด ยุบในครั้งแรกที่ใช้ จนไม่ถึง 7 วัน สิว ผดผื่น คัน หายเกลี้ยงเลยค่ะ จากนั้นก็เริ่มหาสาเหตุว่า ทำไมผิวถึงแห้งได้ขนาดนั้น โชคดีอีกที่มีเพื่อนต่างชาติ นางเคยทำงานให้กับผลิตภัณฑ์เสริมความงานกับแบรนด์ดังของโลกมาหลายแบรนด์ จึงได้คุยกันตามประสา และถามถึงเรื่องผิว เชื่อไหมคะว่า คำตอบเป็นเรื่องใกล้ตัวมากจนถึงขั้นร้อย เฮ้ย ออกมาอย่างดังค่ะ ไม่ต้องบอกว่าต้องดื่มน้ำวันละกี่แก้วนะคะ เพราะเชื่อว่าทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้ว เอาเป็นว่า อะไรที่ทำให้ร่างกายเราสูญเสียน้ำกันดีกว่านะคะ


เคยสังเกตไหมคะว่า เวลาเราดื่มกาแฟไปซักพัก เราจะปวดปัสสวะ หรือ เหล้า เบียร์ ไวน์ และชาทุกประเภท มาดูกันค่ะว่า อะไร ทำให้ร่างกายเสียน้ำเท่าไหร่

กาแฟ 1 แก้ว เสียน้ำ 3 แก้ว
(ในตอนนั้นดื่มกาแฟวันละ 6-8 แก้ว และไม่ดื่มน้ำเลยค่ะ)


เหล้า 1 แก้ว เสียน้ำ 4 แก้ว


เบียร์ 1 แก้ว เสียน้ำ 3 แก้ว


ไวน์ 1 แก้ว เสียน้ำ 3 แก้ว


ชา 1 แก้ว เสียน้ำ 3 แก้ว

ทีนี้ลองคิดดูว่าเราดื่มอะไรไปเท่าไหร่ต่อวัน นั่นหมายความว่า เราต้องเติมน้ำให้ได้ตามที่เสียไปก่อน แล้วจึงดื่มน้ำตามจำนวนที่ควร รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากสุขภาพผิวดี ก็คงต้องคำนวณกันเองนะคะ เราคงห้ามใครไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราค่ะ You are what you eat นะคะ กินอะไรได้อย่างนั้นค่ะ ทีนี้ก็เลิกโทษกระจกกันได้แล้วนะคะ

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านให้มีสุขภาพแข็งแรงคะ

 

เรื่อง นรินทร ณ บางช้าง