“BGRIM”ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุน ขาย 19-21 พ.ย.นี้เสริมแกร่งสยายปีกโรงไฟฟ้าทั้งใน-ต่างประเทศ
“BGRIM”เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ เพื่อเสริมความแกร่ง เตรียมความพร้อมลุยพัฒนาโรงไฟฟ้าทั้งใน-ต่างประเทศ ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.เสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนแก่ผู้ลงทุนทั่วไป มูลค่าเสนอขายรวม 6 พันล้านบาท พร้อมส่วนสำรองเสนอขาย 2 พันล้านบาท คาดเสนอขายระหว่างวันที่ 19-21 พ.ย.62จ่ายดอกเบี้ย 5.00% ต่อปีในช่วง 5 ปีแรก
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (หรือ BGRIM) ผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุญาตออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนแก่ผู้ลงทุนทั่วไป โดยตั้งเป้าเสนอขายรวม 6 พันล้านบาท พร้อมส่วนสำรองเสนอขายอีกไม่เกิน 2 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 19 - 21 พ.ย.นี้
สำหรับเหตุผลในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนในครั้งนี้ คือเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงินของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องและรองรับกับแผนการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทในอนาคต ทั้งนี้ ตั้งแต่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2560 บริษัทสามารถทำผลงานได้เกินเป้าหมายมาโดยตลอด โดยได้ขยายโรงไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ
โดยเมื่อปี 2560 ช่วงที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วรวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาทั้งหมด 30 โครงการ กำลังการผลิตรวม 1,646 เมกะวัตต์ ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัทในระดับภูมิภาคอย่างชัดเจน ด้วยการขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนาม 2 แห่ง ขนาด 257 เมกะวัตต์ และ 420 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว
“ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 45 โครงการ กำลังการผลิตรวม 2,892 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสการลงทุนในเกาหลีใต้ มาเลเซีย กัมพูชา และฟิลิปปินส์ เพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจและมีผลตอบแทนที่เหมาะสมในอนาคต”

ทั้งนี้บริษัทเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักภายใต้กลุ่ม บี.กริม ซึ่งดำเนินธุรกิจเคียงคู่กับประเทศไทยมายาวนานกว่า 140 ปี และเป็นผู้บุกเบิกการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายด้าน รวมถึงเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายแรกๆของประเทศไทย ภายใต้ BGRIM ซึ่งดำเนินธุรกิจไฟฟ้ามายาวนานกว่า 20 ปี ในปัจจุบัน BGRIM มีกำลังการผลิตที่มาจากโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศประมาณ 75% และในต่างประเทศราว 25%
“บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565 จากปัจจุบันที่มีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดรวมโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาทั้งหมด 56 โครงการ กำลังการผลิตรวม 3,245 เมกะวัตต์ และมีกำหนดการเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2568”
ขณะที่จุดเด่นของ BGRIM นอกจากจะเป็นธุรกิจผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นต่อทั้งการใช้ชีวิตของประชาชนและภาคธุรกิจแล้ว ธุรกิจของบริษัทถือว่ามีความมั่นคงทางกระแสเงินสดจากการทำสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาว 20-25 ปีกับ กฟผ.,กฟภ.,กฟน.,การไฟฟ้าลาว และการไฟฟ้าเวียดนาม รวมถึงมีสัญญาขายไฟฟ้าและไอน้ำกับโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำในประเทศไทย 6 แห่ง ซึ่งมีอายุสัญญาประมาณ 10-15 ปี ซึ่งจุดเด่นนี้ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารโครงการโรงไฟฟ้า ทำให้บริษัทได้รับเรทติ้ง ‘A’ แนวโน้ม ‘คงที่’ จาก ทริสเรทติ้ง และหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนได้รับเรทติ้ง ‘BBB+’