กลุ่มบริษัทบางจากรายงานผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก รายได้รวม 293,438 ล้านบาท
กลุ่มบริษัทบางจากรายงานผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก รายได้รวม 293,438 ล้านบาท
สร้างสถิติใหม่ทั้งในด้านรายได้ อัตราการกลั่นและปริมาณการจำหน่าย
รับรู้ Synergy กว่า 3,000 ล้านบาท บรรลุเป้าหมาย EBITDA Synergy ของปี 2567 แล้ว
กลุ่มบริษัทบางจากรายงานผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2567 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 293,438 ล้านบาท EBITDA 26,072 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 4,261 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.91 บาท กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันได้รับแรงหนุนหลักจากผลการดำเนินงานของ BSRC กลุ่มธุรกิจการตลาดมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมทุกช่องทางสร้างสถิติใหม่ที่ 6,919 ล้านลิตร ในขณะที่กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด รับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งปีจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ 4 แห่งในสหรัฐฯ กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ โดย OKEA ASA มีปริมาณการผลิตและปริมาณการขายปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการรับรู้ผลการดำเนินงานของแหล่งผลิต Statfjord และแหล่งผลิต Hasselmus
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2567 ว่า แม้ต้องเผชิญกับ Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดโลก และโรงกลั่นพระโขนงมีการปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นตามวาระ บางจากฯ สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 293,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 98 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 คิดเป็น EBITDA รวม 26,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 จากช่วงเดียวกันของปี 2566 และมีกำไรสำหรับงวดส่วนของบริษัทใหญ่ 4,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.91 บาท และจากการเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจผ่านการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพสูง และการสร้าง Synergy ระหว่างกันภายในกลุ่มบริษัทบางจาก ส่งผลให้รับรู้ Synergy จากผลการดำเนินงานต่อเนื่อง มียอดสะสมกว่า 3,000 ล้านบาทในครึ่งแรกของปี 2567 บรรลุเป้าหมาย EBITDA Synergy ไม่น้อยกว่า 2,500 ล้านบาทในปี 2567 แล้ว ซึ่งบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย EBITDA Synergy 3,000 ล้านบาทต่อปีในปีต่อ ๆ ไป
นอกจากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งแล้ว บางจากฯ ยังได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการประกาศรายชื่อโดยนิตยสารฟอร์จูน (Fortune)เป็นครั้งแรกในปี 2567 ได้รับการประกาศจาก Financial Times เป็นองค์กรชั้นนำด้านสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Climate Leaders 2024) รวมถึงได้รับการจัดอยู่ในดัชนี SET50 ในรอบการคำนวนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2567
ในช่วงที่เหลือของปี 2567 คาดว่า ค่าการกลั่นมีแนวโน้มเข้าสู่ระดับที่มีเสถียรภาพมากขึ้นจากอุปสงค์ที่จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งบริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะบริหารจัดการอย่างรอบคอบเพื่อสร้างรากฐานที่มีเสถียรภาพและมั่นคงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญในครึ่งแรกของปี 2567 ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ดังนี้
กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน (โรงกลั่นพระโขนงและโรงกลั่นศรีราชา) มี EBITDA 6,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันปี 2566 ได้รับแรงหนุนหลักจากผลการดำเนินงานของ BSRC ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทบางจากตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 251,000 บาร์เรลต่อวัน โดยโรงกลั่นศรีราชามีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นและสร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องได้ช่วยชดเชยอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยที่ลดลงของโรงกลั่นพระโขนงที่มีการปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นตามวาระ (Turnaround Maintenance) เป็นระยะเวลา 27 วัน (ระหว่างวันที่ 7 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2567) นอกจากนี้ยังมี Inventory Gain 438 ล้านบาท (รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (NRV)) ช่วยชดเชยปัจจัยกดดันจาก Operating GRM ที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 จาก Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดโลกจากอุปสงค์อ่อนแอจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA 4,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 100 จากช่วงเดียวกันปี 2566 มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมทุกช่องทางสร้างสถิติใหม่ที่ 6,919 ล้านลิตร เติบโตมากกว่าร้อยละ 100 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของเครือข่ายสถานีบริการและฐานลูกค้าอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมมากขึ้นภายหลังการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งปีของ BSRC ผสานกับการดำเนินแผนกลยุทธ์การตลาดให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ช่วยผลักดันยอดจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการรวม 2,214 แห่งทั่วประเทศ
กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด โดยบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) มี EBITDA 2,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 จากช่วงเดียวกันปี 2566 โดยปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น จากการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งปีจากการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ 4 แห่งในสหรัฐฯ ด้วยกำลังการผลิตรวม 857 เมกะวัตต์ และการลงทุนในคลังน้ำมัน ท่าเทียบเรือ และท่อขนส่งน้ำมันในจังหวัดเพชรบุรี ช่วยบรรเทาผลกระทบการสิ้นสุด Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยได้ทั้งหมด นอกจากนี้มีการรับรู้กำไรจากการจำหน่ายไปซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 9 โครงการ
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ โดยบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) มี EBITDA 493 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 100 จากช่วงเดียวกันปี 2566 ได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของเอทานอลและไบโอดีเซล สอดคล้องกับการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจการตลาด
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDA รวม 13,074 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากช่วงเดียวกันปี 2566 โดยปริมาณการผลิตและจำหน่ายปรับเพิ่มขึ้น จากการรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มครึ่งปีจากแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ที่ได้รับโอนสิทธิ์เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566 แหล่งผลิต Brage สามารถเพิ่มกำลังการผลิตและแหล่งผลิต Hasselmus ที่เริ่ม COD ในเดือนตุลาคม 2566
Bangchak Group Reports First-Half Performance, THB 293,438 Million Revenue, Record-High Revenue, Refining Capacity and Sales Volume
Over THB 3 Billion in Synergy Recognized, Achieving 2024 EBITDA Synergy Target
Bangchak Group reported its first half 2024 performance, recording total revenue from sales and services of THB 293,438 million and EBITDA of THB 26,072 million. This resulted in a net profit attributable to owners of the parent of THB 4,261 million, equivalent to THB 2.91 earnings per share. The Refinery and Oil Trading Business Group benefitted significantly from the performance of BSRC. The Marketing Business Group achieved record-high total sales volume across all channels, reaching 6,919 million liters. The Clean Power Business Group reported increased revenue from electricity sales and a full half-year performance recognition of investments in the four natural gas power plant projects in the United States. The Natural Resources Business Group, through OKEA ASA, saw significant increases in production and sales volumes, notably from the Statfjord and Hasselmus fields.
Chaiwat Kovavisarach, Group Chief Executive Officer and President of Bangchak Corporation Public Company Limited, announced the first-half performance for 2024. Despite a decline in crack spread across all products due to global market conditions and turnaround maintenance at the Phra Khanong Refinery, Bangchak Group significantly improved its operational performance. The group generated revenue from sales and services of THB 293,438 million, a 98% increase from the same period in 2023. This is equivalent to EBITDA of THB 26,072 million, a 48% increase from the same period in 2023, and net profit attributable to the owner of the parent of THB 4,261 million, a 33% increase from the same period in 2023, equivalent to THB 2.91 earnings per share. Through investments in high-potential projects and creating synergy within Bangchak Group, the company recognized accumulated synergy from performance of over THB 3 billion during the first half of 2024, achieving the EBITDA synergy target of no less than THB 2.5 billion in 2024. The company aspires to continue improving to meet the annual EBITDA synergy target of THB 3 billion over the coming years.
In addition to robust growth in operational performance, Bangchak was ranked among the Fortune Southeast Asia 500 for the first time in 2024, recognized among Asia-Pacific Climate Leaders 2024 by the Financial Times, and selected for inclusion in the SET50 index from 1 July to 31 December 2024.
For the remainder of 2024, refining margins are expected to stabilize due to an anticipated increase in seasonal demand. The company will closely monitor and manage the situation to establish a stable and resilient foundation for sustainable growth.
Phatpuree Chinkulkitnivat, Chief Financial Officer and Senior Executive Vice President of Accounting and Finance, reported significant performance in the first half of 2024 for each business group as follows:
The Refinery and Oil Trading Business Group (Phra Khanong Refinery and Sriracha Refinery) recorded an EBITDA of THB 6,452 million, a 19% increase from the same period in 2023, primarily driven by the operations of BSRC, which became part of Bangchak Group on 1 September 2024. The average production capacity significantly increased to 251,000 barrels per day, with the Sriracha Refinery increasing its average production capacity and consistently setting new record highs, helping to offset the decreased production of the Phra Khanong Refinery during its 27-day turnaround maintenance (7 May – 2 June 2024). Additionally, there was recognition of an inventory gain of THB 438 million (including NRV), which compensated for the pressure from the decreased operating GRM compared to the first half of 2023 due to lower crack spreads across all products amidst bleak global market conditions and concerns over the global economic slowdown.
The Marketing Business Group recorded an EBITDA of THB 4,095 million, an increase of over 100% from the same period in 2023. Record-high total sales volume across all channels was achieved, setting a new record at 6,919 million liters, an increase of over 100% compared to the same period in the previous year. This growth was driven by the expansion of the service station network and industrial customer base, following the recognition of the full-year operational performance of BSRC and the implementation of marketing strategies that cater to customer needs. These efforts helped boost sales through the nationwide network of 2,214 service stations.
The Clean Power Business Group, operated by BCPG Public Company Limited, recorded an EBITDA of THB 2,424 million, a 32% increase from the same period in 2023. This growth was mainly attributed to increased revenue from electricity sales, driven by the operational performance recognized over the half-year period from investments in four natural gas power plant projects in the United States with a total production capacity of 857 megawatts. Additionally, investments in an oil tank farm, a pier, and an oil pipeline in Phetchaburi Province helped mitigate the impact of the termination of solar power Adder subsidies in Thailand. Profits were also realized from the sale of stakes in nine solar power plant projects in Japan.
The Bio-Based Products Business Group, operated by BBGI Public Company Limited, recorded an EBITDA of THB 493 million, a 100% increase from the same period in 2023. This growth was driven by increased sales of ethanol and biodiesel, which aligned with the expansion of the Marketing Business Group.
The Natural Resources Business Group achieved an EBITDA of THB 13,074 million, a 43% increase from the same period in 2023. This growth is primarily attributed to increased production and distribution volumes, driven by the operational performance recognized over the half-year period from the Statfjord field, which obtained the transfer of rights on 29 December 2023. Additionally, the Brage field increased production capacity, and the Hasselmus field commenced commercial operations in October 2023.
The Bio-Based Products Business Group, operated by BBGI Public Company Limited, recorded an EBITDA of THB 493 million, a 100% increase from the same period in 2023. This growth was driven by increased sales of ethanol and biodiesel, which aligned with the expansion of the Marketing Business Group.
The Natural Resources Business Group achieved an EBITDA of THB 13,074 million, a 43% increase from the same period in 2023. This growth is primarily attributed to increased production and distribution volumes, driven by the operational performance recognized over the half-year period from the Statfjord field, which obtained the transfer of rights on 29 December 2023. Additionally, the Brage field increased production capacity, and the Hasselmus field commenced commercial operations in October 2023.
