สำนักพิมพ์วิช เปิดตัวหนังสือ “ชีวิตมีค่า มากกว่าที่คิด”
เพราะชีวิตมีไว้ให้เรียนรู้ สุขทุกข์มีไว้ให้เข้าใจ
“ความสุขแท้อยู่ที่ไหนกันแน่” เราเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองหรือไม่ และเชื่อว่าหลายคนที่ตอบคำถามนี้ ก็มีแนวทางแสวงหาความสุขของตัวเองในหลายรูปแบบ บางคนต้องดิ้นรน ต้องแสวงหา ต้องมีเหมือนคนอื่น ต้องมีคนนับหน้าถือตา แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือต้นเหตุของความทุกข์ และเป็นสุขแค่ชั่วคราว
หนังสือ “ชีวิตมีค่า มากกว่าที่คิด” เขียนโดย “พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ” หรือนามปากกา “ชุติปัญโญ” พระภิกษุผู้ใช้ปัญญานำชีวิตเสมอมา และนำธรรมะแห่งพุทธองค์มาเป็นหลักยึดในชีวิตและจิตใจ ได้เมตตามอบธรรมะผ่านเรื่องเล่าที่แฝงปรัชญาข้อคิดอันเฉียบคม ซึ่งผู้อ่านจะได้ค้นพบสิ่งที่จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิต ความคิด จิตใจ และมุมมองที่มีต่อ “ความสุข” และ “คุณค่าของชีวิต” ไปตลอดกาล เพราะความสุขที่แท้จริง ไม่ได้หมายถึงการมีทุกสิ่งที่ปรารถนา แต่เป็นความพอใจและเห็นคุณค่าในสิ่งที่มีอยู่มากขึ้น โดยเฉพาะ “คุณค่าในตัวเอง” ซึ่งเป็นที่มาของ “ความสุขที่แท้จริง”
หนังสือ “ชีวิตมีค่า มากกว่าที่คิด” จำหน่ายในราคา 25 บาท มีวางจำหน่ายที่ร้านหนังสือบุุ๊คสไมล์ ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 418 2885
ชีวิตมีค่า มากกว่าที่คิด
เพราะชีวิตมีไว้ให้เรียนรู้ สุขทุกข์มีไว้ให้เข้าใจ
รายละเอียดหนังสือ
ชื่อหนังสือ : ชีวิตมีค่า มากกว่าที่คิด
ผู้เขียน : พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ
ขนาด : 12.8 x 18.5 cm.
จำนวนหน้า : 96 หน้า
กระดาษเนื้อใน : กระดาษถนอมสายตา SCG 75 แกรม พิมพ์ 4 สี
กระดาษปก : อาร์ตการ์ด 260 แกรม พิมพ์ 4 สี เคลือบด้าน สปอต
ราคา : 100 บาท
ISBN : 978-616-8056-38-7
Barcode : 978-616-8056-38-7
สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์วิช
เดือนที่ออก : กันยายน 2562
ประเภท : ธรรมะประยุกต์
จำนวนที่พิมพ์ : 5,000 เล่ม
จัดจำหน่าย : บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

คำนำสำนักพิมพ์
ใคร ๆ ก็ต้องการ “ความสุข” แต่น้อยคนที่จะเข้าใจ “ความสุขที่แท้จริง” นั่นเป็นเพราะคนทั้งโลกนิยามความสุขไว้ว่า ต้องดิ้นรน ต้องแสวงหา ต้องออกเดินทาง ต้องได้ในสิ่งที่ต้องการ ต้องมีเหมือนคนอื่น ต้องมีคนนับหน้าถือตา แต่หารู้ไม่ว่า นั่นคือ ต้นเหตุของความทุกข์ และเป็นสุขแค่ชั่วคราว แล้วความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร ?
หนังสือ “ชีวิตมีค่า มากกว่าที่” เป็นหนังสือที่เขียนโดย พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ หรือนามปากกา ชุติปัญโญ พระนักเขียน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ได้ถ่ายทอดความหมายของ “ความสุขที่แท้จริง” ผ่านตัวอักษรให้เป็นเรื่องราวที่อ่านง่าย มีเรื่องเล่าประกอบ เพื่อให้ผู้อ่านได้อรรถรส และไม่ลืมที่จะแฝงคติข้อคิดเตือนใจ ให้เราหันกลับมามองความสุข ที่อยู่ลึกลงไปเพียงไม่กี่เซนติเมตรที่หน้าอกของเรา นั่นก็คือ “หัวใจ”
สุดท้าย ผู้อ่านจะได้พบบทสรุปจาก 11 เรื่องราว ที่จะเปลี่ยนชีวิต ความคิด จิตใจ และมุมมองที่มีต่อ “ความสุข” และ “คุณค่าของชีวิต” ไปตลอดกาล เพราะความสุขที่แท้จริง ไม่ได้หมายถึง คุณมีทุกสิ่งในสิ่งที่ต้องการ แต่เป็นความพอใจและเห็นคุณค่าในสิ่งที่มีอยู่มากขึ้น โดยเฉพาะ “คุณค่าในตัวเอง” ซึ่งเป็นที่มา ของ “ความสุขที่แท้จริง”
สำนักพิมพ์วิช
คำนำ Book Smile
“ความสุขอยู่ที่ไหนกันแน่ ?” เราเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองหรือไม่ และเชื่อว่าหลายคนที่ตอบคำถามนี้ ก็มีแนวทางแสวงหาความสุขของตัวเองในหลายรูปแบบ แต่ในหนังสือเล่มนี้ จะบอกเคล็ดลับความสุขที่แสนง่าย ที่คุณไม่คาดคิดว่า “ความสุขที่แท้” ง่ายขนาดนี้เชียวหรือ
หนังสือ “ชีวิตมีค่า มากกว่าที่คิด” โดย พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ หรือนามปากกา ชุติปัญโญ ได้เมตตามอบธรรมะอ่านง่าย ผ่านเรื่องเล่าที่แสนสนุก แฝงปรัชญาข้อคิดอันเฉียบคม เพื่อมุ่งตรงต่อการค้นพบ “ความสุข” และ “คุณค่าของตัวเอง” รวมถึงยังชี้ให้เห็นว่า...
หากเรา “เรียนรู้” เราจะเข้าใจว่า ความสุข ความทุกข์ มาจากไหน
หากเรา “เข้าใจ” เราจะรู้วิธีพัฒนาจิต ให้เป็นคนสุขง่าย ทุกข์ยาก
หากเราพบ “คุณค่าในชีวิต” เราก็พร้อมจะไปต่อ แม้ว่าชีวิตจะพบเจอเรื่องราวใด ๆ ก็ตาม
สำนักพิมพ์บุ๊คสไมล์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมเผยแพร่หนังสือดี ในราคาพิเศษ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพื่อให้ทุกคนค้นพบความสุขจากสิ่งที่มี และกลับมาเห็นคุณค่าในสิ่งนั้น ซึ่งเป็นความสุขง่าย ๆ ที่หลายคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย และทำให้คุณเห็นว่า ความสุขมีจุดเริ่มต้นที่ใจเราเอง และส่งผลต่อการดำเนินชีวิตเพื่อแสวงหาความสุขในทุกรูปแบบ
สำนักพิมพ์ Book Smile
คำนำผู้เขียน
ชีวิตของแต่ละคนที่เกิดมา ต่างโหยหาสิ่งที่เรียกว่า “ความสุข” เพื่อนำมาปลอบประโลมตัวเองให้หายเหงา ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เราสร้างขึ้นมา เพราะรู้สึกว่ามันคือความมั่นคงที่จะดำรงอยู่อย่างเชื่อมั่น และมีชีวิตที่ปลอดภัยจากความทุกข์ร้ายนานา
บ้างตั้งใจเรียนรู้สรรพวิชา เพื่อให้ชีวิตมีกติกา สำหรับต่อรองให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ง่ายขึ้น
บ้างแสวงหาความรักในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อโอบกอดใจให้คลายทุกข์จากความรู้สึกโดดเดี่ยวสิ้นหวัง
บ้างแสวงหาเกียรติยศอำนาจมาครอบครอง เพื่อทำให้ชีวิตรู้สึกยิ่งใหญ่ในใจตน ฯลฯ
เหล่านี้ล้วนเป็นหนทางแห่งการบำบัดทุกข์ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน และคิดว่า นี่คือสิ่งที่ใช่ที่ควรไขว่คว้ามาครองในครรลองของการมีชีวิตอยู่
ทว่าเมื่อวันเวลาผันผ่าน และประสบการณ์ชีวิตหล่อหลอมเราให้เข้าใจในความจริงที่ปรากฏ ชีวิตที่มีปัญญาคอยไตร่ตรอง เพื่อมองให้เห็นความจริงแท้ที่เหมาะสม มักจะตอบว่า สิ่งที่โลกมอบให้นั้น ไม่ใช่ความสุขแท้ที่จีรังยั่งยืนแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดขึ้นมาเพื่อหลอกให้เราลุ่มหลงเท่านั้นเอง
แต่เมื่อใดที่ใจเรารู้จักวาง และทำให้ว่างจากอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง เมื่อนั้นเราจะพบกับพื้นที่พิเศษ ที่ทำให้ชีวิตของเราโปร่งเบาสบาย อารมณ์ต่าง ๆ ไม่สามารถร้อยรัดให้เรารู้สึกอึดอัดได้ ไม่ห่วง หวง ทุกข์ร้อนต่อทุกสรรพสิ่ง ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเปลี่ยนแปลงไป เป็นแค่สิ่งที่ชีวิตต้องก้าวผ่านอย่างรู้เท่าทัน และอย่างผู้มีสตินำพา
ที่สำคัญ เมื่อรู้จักวางตำแหน่งของชีวิตอย่างสมดุลเพราะมีปัญญานำพา คุณค่าที่ซ่อนอยู่ภายในก็จะถูกเชื้อเชิญออกมาให้เราได้รู้ว่า ชีวิตที่ถูกฝึกดีแล้วด้วยธรรม จะส่งต่อให้เกิดคุณค่าที่ยิ่งใหญ่มหาศาลเสมอ สามารถนำตัวเราไปสู่ปลายทางแห่งความพ้นทุกข์ ดั่งที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบได้ชั่วนิรันดร์
หนังสือ “ชีวิตมีค่ามากกว่าที่คิด” เล่มนี้ จึงเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ชีวิต ที่เชิญชวนให้เราได้กลับมาตั้งคำถามที่เหมาะสม เพื่อการค้นหาคำตอบที่คู่ควรต่อการมีชีวิตอยู่อย่างรู้ค่า ซึ่งเป็นคำตอบที่คลายความสงสัยในการเกิดมา และเป็นการชี้ทางสว่างเพื่อดับความมืดมิดที่ชีวิตเราได้หลงทางผิดมานานแสนนานให้หมดไป
เมื่อใส่ใจในรายละเอียดอย่างคนที่รักชีวิต และอย่างที่ควรจะรัก เราจะรู้ว่า ความสุขและคุณค่าแท้ของชีวิตนั้นอยู่ใกล้แค่ใจเรา ขอเพียงเรารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนที่จะทำความเข้าใจในชีวิต
ทุกการเดินทางที่งดงามกว่า ย่อมพร้อมจะเบ่งบานให้เราได้ชื่นชม และยิ้มได้อย่างเป็นสุขเสมอ เมื่อต้องก้าวผ่านทุกเรื่องราวตามกาลเวลาที่ต้องดำเนินไป
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการแสวงหาคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต และประสบพบเห็นในความสงบเย็นที่รอคอยการเข้าไปสัมผัสด้วยเถิด
ด้วยปรารถนาให้ทุกคนมีความสุขอย่างแท้จริง
ชุติปัญโญ
สารบัญ
1. แก้ววิเศษที่แท้จริง
2. ความสุขแท้ อยู่แค่เอื้อมมือ
3. ก้าวข้ามความกลัว
4. ปัญญาที่ควรแสวงหา
5. ความรู้สึกที่แตกต่าง
6. ระวังผลกระทบที่จะตามมา
7. น้อยราคาแต่ไม่ด้อยคุณค่า
8. หากรู้จักรับฟัง
9. ช่วยเขาเท่ากับช่วยเรา
10. เพราะเห็นคุณ จึงรู้ค่า
11. สิ่งที่ทำให้คนเราต่างกัน
ตัวอย่างเนื้อหาบางส่วน
สิ่งพิเศษในชีวิต
ไม่อาจได้มาด้วยการค้นหาอันเลื่อนลอย
แต่จะเกิดขึ้นได้ด้วยการมีคำถามที่เหมาะสม
และจากการกระทำที่ถูกต้อง
.
แก้ววิเศษที่แท้จริง
คนเรามักเชื่อว่า หากได้ครอบครองสิ่งที่ต้องการดั่งที่ใจปรารถนา นั่นคือการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับชีวิต จึงเป็นเหตุให้ต้องแสวงหาสิ่งต่าง ๆ เพื่อมาเติมชีวิตให้เต็มอยู่ตลอดเวลา
แต่สำหรับคนที่รู้เห็นความพิเศษของการมีชีวิตอยู่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การค้นหาความสงบเย็นในเรือนใจให้เจอ การได้ทำความดีที่ควรทำ ได้ส่งต่อความรัก ความเมตตา และการสอนผู้คนให้รู้เท่าทันชีวิต อย่างที่ควรจะเป็น อย่างผู้มีสติ นั่นต่างหากคือความพิเศษที่ชีวิตไม่ควรละเลย ดังเช่นเรื่องนี้
ชายหนุ่มคนหนึ่งเกิดในครอบครัวเล็ก ๆ ตั้งแต่จำความได้ เขาจะเห็นพ่อแม่ไปทำไร่ทำนาอยู่เป็นประจำ จนรู้สึกว่า ช่างเป็นชีวิตที่ลำบากยิ่งนัก เพราะทุกสิ่งที่ได้มาต้องใช้กำลังกายเข้าแลกเสมอ เมื่อโตเป็นหนุ่ม ตัวเขาเองก็ยังต้องดำเนินตามรอยทางของพ่อแม่เช่นกัน
กาลเวลาผ่านไปจนชายหนุ่มอายุได้ ๒๐ ปี ซึ่งในความรู้สึกนั้น เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่พอที่จะรู้จักเอาตัวรอดจากสิ่งต่าง ๆ ได้แล้ว
ชายหนุ่มมีความฝันว่า สักวัน ชีวิตครอบครัวจะต้องดีขึ้น มีฐานะที่ร่ำรวย มีความเป็นอยู่ที่มั่นคง โดยไม่ต้องทำงานหนักอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมา
ในช่วงเวลาที่เป็นเด็กกระทั่งโตเป็นหนุ่ม มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขาได้ยินคนเล่าต่อ ๆ กันมาก็คือ “เรื่องแก้ววิเศษ”
หากใครมีแก้ววิเศษไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะร้องขออะไรจะสำเร็จทุกครั้ง ทำให้ชายหนุ่มมีความคิดอยู่ตลอดเวลาว่า สักวันจะต้องออกตามหาแก้ววิเศษและเป็นเจ้าของให้ได้
เมื่อวัยหนุ่มที่โตพอจะรับผิดชอบตัวเองมาถึง ชายหนุ่มได้ลาพ่อแม่เพื่อไปแสวงหาความโชคดีให้กับชีวิต โดยมีเป้าหมายคือ การตามหาแก้ววิเศษให้เจอ เขาเดินทางไปทุกที่ที่มีข่าวว่ามีคนพบแก้ววิเศษ แต่ครั้นไปถึงก็ผิดหวังทุกครา
แม้จะไม่สมปรารถนาในสิ่งที่แสวงหา แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยย่อท้อ ยังคงมุ่งหน้าออกตามหาแก้ววิเศษอย่างไม่ลดละ จนมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งได้ข่าวว่า ที่เทือกเขาสูงชัน มีฤาษีตนหนึ่งได้ครอบครองแก้ววิเศษ
พอได้ทราบข่าว ชายผู้แบกความหวังมาจากบ้านเกิด ก็เดินทางไปยังเทือกเขานั้นทันที ต้องเอาชีวิตเข้าเดิมพันกับการปีนขึ้นเขาในครั้งนี้ เพราะทั้งสูงและชันมาก มีน้อยคนจะกล้าปีนขึ้นไป แต่ด้วยความคิดว่าต้องไปค้นหาแก้ววิเศษให้เจอ จึงไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางเขาได้
ชายหนุ่มใช้เวลาในการไต่ไปตามเทือกเขาอยู่ ๑ เดือน จึงลุถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ นั่นก็คืออาศรมอันเป็นที่อยู่ของฤาษี
เขาจินตนาการว่า คนที่ครอบครองแก้ววิเศษนั้น จะต้องอยู่ในวิมานที่สวยงามดั่งเทพเนรมิตให้ แต่ครั้นไปถึงจุดหมายแล้ว วิมานที่วาดไว้ กลับเป็นเพียงกระท่อมหลังเล็ก ๆ เท่านั้นเอง
เมื่อเข้าไปในอาศรมของฤาษีแล้ว ชายหนุ่มได้ทำความเคารพต่อท่านด้วยกิริยาที่นอบน้อม เขาสัมผัสได้ถึงความสุขที่มีอยู่ในตัวของท่านฤาษี แม้จะแต่งกายด้วยชุดผ้าเก่า ๆ แต่ความเบิกบานที่ปรากฏบนใบหน้า ถึงแม้จะดูสูงวัย กลับสะท้อนให้รับรู้ถึงภาวะแห่งความสุขอย่างยากที่ใครจะมีเท่า
หลังการทักทายผ่านไป ชายหนุ่มก็แจ้งความประสงค์ว่า ตัวเขามีความต้องการแก้ววิเศษที่ท่านฤาษีครอบครองอยู่ เมื่อพูดจบ สิ่งที่ปรากฏต่อหน้ากลับทำให้เขาประหลาดใจยิ่งนัก
เพราะเมื่อชายหนุ่มร้องขอแก้ววิเศษ ฤาษีก็ล้วงลูกแก้วลูกหนึ่งที่มีสีใสนวล มีรูปลักษณ์ที่สวยงามยิ่งนัก ยื่นให้โดยไม่รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย
ครั้นได้แก้ววิเศษดั่งใจปองแล้ว ชายหนุ่มก็อยู่พูดคุยกับฤาษีสักพัก หลังจากนั้นจึงกล่าวขอบคุณแล้วเดินทางลงจากเขาไป ด้วยความหวังว่า ชีวิตจะต้องดีขึ้น ร่ำรวยขึ้น เพราะมีแก้วสารพัดนึกมาช่วยบันดาลให้สมหวัง
ชายหนุ่มเดินข้ามภูเขาอีกหลายลูก เพื่อจะไปยังบ้านเกิดที่จากมานาน พอใกล้ค่ำจึงได้หาที่พักเพื่อถนอมแรงไว้ในค่ำคืนนั้น
หลังจากได้แก้ววิเศษมาครองแล้ว จากที่เคยคิดว่า ชีวิตน่าจะมีความสุขมากขึ้น ทว่าชายหนุ่มกลับนอนไม่หลับ เพราะกลัวว่า สิ่งที่ได้มานั้นจะหายไป เมื่อหยิบลูกแก้วขึ้นมาเพ่งพินิจดู ทันใดนั้น ความคิดแวบหนึ่งก็ผุดขึ้นมา พร้อมการตั้งคำถามกับตัวเองว่า...
“ทำไมฤาษีจึงมอบแก้ววิเศษให้ง่ายเหลือเกิน ทั้งที่เรายังไม่ได้คะยั้นคะยอขอแต่อย่างใด แต่ท่านกลับมอบให้ เหมือนกับว่าสิ่งนั้นไม่มีค่าอะไรเลย”
คืนนั้นทั้งคืน เขาได้แต่ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ประเสริฐกว่าแก้ววิเศษ พอรุ่งอรุณของวันใหม่มาถึง แทนที่จะเดินทางกลับบ้านทันที ชายหนุ่มกลับเลือกที่จะปีนขึ้นภูเขาไปหาฤาษีอีกครั้ง เพื่อขอสิ่งที่วิเศษสูงสุดกว่าแก้ววิเศษที่ตนมีอยู่
เขาใช้เวลาปีนข้ามภูเขาอีกหลายลูกกว่าจะถึงอาศรมของฤาษี ครั้นฤาษีเห็นเขากลับมาหาอีกครั้งก็ยิ้มตอบรับ ชายหนุ่มได้เข้าไปทำความเคารพต่อท่านฤาษี แล้วกล่าวว่า...
“ผมขอถามท่านเรื่องหนึ่งได้ไหมครับ”
“สงสัยอะไรก็ถามมาได้เลย” ฤาษีกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความเมตตา
“คือผมอยากจะแลกแก้ววิเศษที่ผมได้จากท่านกับสิ่งที่ประเสริฐกว่าแก้ววิเศษ ท่านจะให้กับผมได้ไหม”
“แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่เธอต้องการ”
“ก็ความรู้สึกที่ไม่เสียดายแก้ววิเศษของท่านไงครับ เพราะหลังจากที่ผมขอแก้ววิเศษจากท่าน ตัวท่านก็ล้วงแก้ววิเศษนั้นมามอบให้กับผมทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เหมือนกับว่าสิ่งที่คนอื่นมองว่ามันคือของวิเศษ แต่ท่านกลับทำเหมือนว่ามันก็เป็นเพียงของธรรมดาอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง ทำไมท่านถึงทำอย่างนั้นได้”
หลังจากที่ฤาษีฟังสิ่งที่ชายหนุ่มเล่าให้ฟังจบลง ก็ยิ้มอย่างเบิกบานใจ เหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็กที่ไร้เดียงสา ท่านได้พูดกับชายหนุ่มว่า...
“เธอก็ค้นพบสิ่งที่ประเสริฐกว่าแก้ววิเศษแล้วมิใช่รึ มันมีอยู่ในตัวเธอแล้ว ฉันคงไม่ต้องมอบสิ่งนั้นให้แก่เธอหรอก”
พอชายหนุ่มฟังสิ่งที่ฤาษีกล่าวจบลง ตาทั้งสองข้างก็มีน้ำตาไหลเอ่อออกมา เป็นน้ำตาที่แสดงให้รู้ว่า เขาได้เข้าถึงความจริงบางอย่างที่วิเศษยิ่งนัก จนเขาเองก็นึกไม่ถึงว่า แท้จริงแล้ว สิ่งที่ประเสริฐกว่าแก้ววิเศษมีอยู่ในตัวของเขา นั่นก็คือ “จิตใจของเขาเอง”
ชายหนุ่มได้คำตอบว่า เหตุที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข ไม่ได้อยู่ที่ความร่ำรวยหรือไร้ซึ่งเงินทอง แต่อยู่ที่จิตใจที่รู้เท่าทันความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจแล้วดับมันได้ต่างหาก เมื่อจิตใจมีความสะอาด สว่าง สงบ ไร้ซึ่งพันธนาการทางอารมณ์ ความดีงามต่าง ๆ ก็จะเกิดตามมา และมีความสุขเป็นรางวัลตอบแทนในทุกโมงยามของการมีชีวิตอยู่
เมื่อคำตอบปรากฏในใจอย่างแจ่มแจ้ง เขาได้ก้มลงกราบฤาษีด้วยความรู้สึกขอบคุณในปัญญาที่ท่านได้มอบให้เป็นของกำนัลแด่ชีวิต เหมือนดั่งคนที่เคยพลัดหลงทาง แล้วรู้สึกดีใจเพราะมีคนมาช่วยนำพากลับบ้าน เหมือนดั่งคนที่กระหายน้ำเพราะเดินทางไกล แล้วมีคนหยิบยื่นน้ำเย็นให้ดื่ม
ชายหนุ่มได้รู้ซึ้งถึงคำตอบที่เกิดขึ้นในใจของตนโดยไม่ต้องถามฤาษีอีกเลย
ฝ่ายฤาษีเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มได้คำตอบที่ต้องการแล้ว จึงกล่าวให้ข้อคิดเพื่อเป็นคำสอนสำหรับนำไปใช้ดำเนินชีวิตให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปว่า...
“เธอจงจำไว้ว่า ทุกคนมีสิ่งที่ประเสริฐกว่าแก้ววิเศษอยู่ในตัวเอง นั่นก็คือ จิตใจที่สะอาด สว่าง สงบ จิตใจที่ดำรงอยู่อย่างโปร่งเบาจากอารมณ์ทั้งปวง เมื่อใดที่เราสามารถทำจิตให้สงบ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลงได้แล้ว ไม่ว่าเราจะมีฐานะมั่งมีหรือยากจน เราจะอยู่อย่างมีความสุขได้ เพราะใจที่รู้เท่าทันอารมณ์และปล่อยวางเป็น ย่อมเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้เสมอ”
หลังจากชายหนุ่มได้รับฟังโอวาทจบลง เขาได้คืนแก้ววิเศษให้กับฤาษี แล้วจากไปโดยที่ไม่ได้นำสิ่งที่ออกติดตามหามาเป็นเวลาหลายสิบปีกลับบ้านเลย
ชายหนุ่มดินทางกลับถิ่นเกิดด้วยตัวที่ว่างเปล่า แต่ใจนั้นกลับเป็นสุขยิ่งนัก เป็นใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสงบ เพราะรู้ว่า แก้ววิเศษที่แท้จริงก็อยู่ที่จิตใจที่งดงามของเขานั่นเอง
แล้วเราล่ะ...
ค้นหาแก้ววิเศษในชีวิตเจอหรือยัง ?
เกี่ยวกับผู้เขียน
“ชุติปัญโญ” เป็นนามปากกาของ พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ (สุปัญบุตร) เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ บ้านหนองช้าง ตำบลหนองช้าง อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ มีพี่น้องรวมทั้งหมด ๓ คน เป็นบุตรคนที่ ๒ ของนายพร้อม - นางท่อน สุปัญบุตร
- พ.ศ. ๒๕๓๒ หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ จากโรงเรียนบ้านหนองช้าง บิดามารดาได้นำไปฝากให้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดโพธิ์ชัยบ้านโพน ตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีพระครูโสภณปัญญาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอคำม่วง เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพระครูโพธิ์ชัยพัฒนคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยบ้านโพน เป็นครูทางธรรมในชีวิตการบวชเมื่อวัยเยาว์
- พ.ศ. ๒๕๓๓ พระครูโพธิ์ชัยพัฒนคุณได้นำไปฝากศึกษาที่วัดหนองแวง พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ได้พำนักอยู่กับพระครูบาอาจารย์ผู้นำเข้าสู่การปฏิบัติธรรมตั้งแต่เป็นสามเณรจนถึงปัจจุบัน คือ พระอาจารย์สุริยา มหาปัญโญ หรือที่คณะลูกศิษย์นิยมเรียกท่านในปัจจุบันนี้ว่า “องค์หลวงตาสุริยา”
พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้อุปสมบทที่วัดโพธิ์ชัยบ้านโพน ตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีพระครูโสภณปัญญาภรณ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการฉลอง จิตตธัมโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการวิเวท อิทธิโชโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์
การศึกษา
จบนักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม ๔ ประโยค จากวัดหนองแวง พระอารามหลวง จังหวัดขอนแก่น
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต สาขาปรัชญา และปริญญาโท พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพระพุทธศาสนา จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
รางวัลที่ได้รับ
- พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้รับรางวัลผู้มีผลงานดีเด่น สาขาพระพุทธ ศาสนาเถรวาท จากมูลนิธิจำนงค์ ทองประเสริฐ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้รับรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์และสร้างชื่อเสียงให้บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้รับรางวัลพระราชทานเสาเสมาธรรมจักร สาขาการแต่งหนังสือทางพระพุทธศาสนา จากกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าปาลธรรม ตำบลสำราญ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมแนะนำการเจริญจิตตภาวนาแก่ผู้สนใจ ตลอดทั้งเขียนหนังสือเพื่อเป็นคู่มือบรรเทาทุกข์สำหรับผู้ปรารถนาดีต่อชีวิตของตนเอง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์ตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์