“กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้” @ยะลา-ปัตานี-นราธิวาส

“กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้” @ยะลา-ปัตานี-นราธิวาส

 

 

 
 
 

“กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้” @ยะลา-ปัตานี-นราธิวาส

 


เมื่อวันที่ 26-29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานีจัดโครงการส่งเสริมมหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวสู่ระดับนานาชาติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการ Famtrip เพื่อประชาสัมพันธ์อาหาร ด้วยการนำบล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียงด้านอาหารหรือการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนประเภทโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ นิตยสารท่องเที่ยว นิตยสารท่องเที่ยวออนไลน์ นิตยสารอาหาร นิตยสารอาหารออนไลน์, ผู้ดูแลเพจ Facebook ด้านอาหารหรือการท่องเที่ยว ร่วมโครงการส่งเสริมมหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวสู่ระดับนานาชาติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในกิจกรรม กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้ ชวนชิมร้านอาหารเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัด 3 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ตามลำดับ พร้อมทั้งสัมผัสความงามของสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดอีกด้วย


วันแรกของกิจกรรม กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้ ผู้ร่วมกิจกรรม ได้เยี่ยมชม “ชายหาดบ้านทอน”) ชายหาดสวย แห่งเมืองนราธิวาส และเป็นแหล่งผลิตเรือกอและเพียงแห่งเดียวของจังหวัดนราธิวาส หลังจากชม ศูนย์ทําเรือกอแระเสร็จ ก็ต่อด้วยรับประทานอารกลางวันที่ “สวนอาหารริมน้า”) ติดกับแม่น้ำบางนรา หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็ไปเที่ยว “หาดนราทัศน์” ชายหาดที่มีความ สวยงาม ดูวิถีชาวประมงที่ “สะพานปลา” และการทํา “กื๊อโป๊ะ” ข้ําวเกรียบปลา ต่อด้วย “เกาะยาว สะพานคอย 100 ปี” เป็นสะพานไม้ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำตกกใบไปยัง ” เกาะยาว ” สะพานนี้มีความยาว 345 เมตร ช่วงเย็นแวะรับประทานอาหารที่ “ร้านยูงทอง” ร้านดังของอําเภอตากใบ กับเมนูยํามะม่วงเบา เป็นยําซึ่งหอมกลิ่นกุ้งแห้งโขลก ปลาฉิ่งฉ้างกรอบ
วันต่อมา ผู้ร่วมกิจกรรมเดินชมวิถีชีวิตของชาวนราธิวาส ที่ตลาดสดยามเช้า พร้อมชมชม “มัสยิด 300 ปี” สถาปัตกรรมอาคารไม้ตะเคียนทั้งหลัง ผสมผสาน ศิลปะไทย จีน และมลายูเข้าด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ สถานที่อันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมทางศาสนา


เมื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดยะลา แวะชม “สะพานข้ามเขื่อนบางลาง” ต่อด้วย“บ่อน้า ร้อนเบตง” แช่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ และชิม “เฉาก๊วยเบตง กม.4” เฉาก๊วยหรือวุ้นดําของอําเภอเบตง เป็นขนมขึ้นชื่อของอําเภอเบตง ถัดมาแวะ ชิมอาหารท้องถิ่นของเบตง ที่ “ร้านยินดีโภชนาเบตง” เสร็จจากรับประทานอาหาร เยี่ยมชม “ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในโลก” อดีตตู้ไปรษณีย์ที่ ใหญ่ที่สุดของไทย (ซึ่งอดีตก็เคยเป็นที่สุดในโลก) พร้อมมุ่งหน้าต่อไปยัง “ด่านพรมแดน ไทย- มาเลย์” อําเภอเบตง เพื่อสักการะพระธาตุเจดีย์ที่สวยงามและมีขนาดใหญ่ที่สุดของ ภาคใต้ ที่ “พระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ” ตกเย็นรับประทานอาหารท้องถิ่น ที่ “ร้านต้าเหยิน” หลังจากอาหารเย็นชม “อุโมงค์เบตง มงคลฤทธิ์” “พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง” เป็นจุดชมวิวชั้นดีที่เมื่อขึ้นไปชั้นบนสุดมองลงมาจะเห็นตัวเมืองเบตงได้อย่างชัดเจนพร้อมทาน “โรตี”


และวันที่สาม ผู้ร่วมกิจกรรมร่วมชมวิว "ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง“ ทะเลหมอกนี้เกิดจํากควํามชุ่มชื้นหลังจํากที่แห้งแล้งมานาน พร้อมรับประทานาหารกล่องกลางหุบเขา หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้น ก็เดินทางสู่จังหวัดปัตตานี เพื่อท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่ “ชุมชนบางปู” ชมอุโมงค์ต้นโกงกางที่ เลื่องชื่อ ชมวิถีชาวประมงพร้อมกับวัฒนธรรมของชาวอิสลาม และรับประทานอาหารกลางวัน ซีฟู้ดท้องถิ่นของชุมชน หลังจากเดินทางออกจากชุมชนบางปู แวะชม“มัสยิดกรือเซะ ” มัสยิดเก่าแก่ที่อยู่คู่จังหวัดมา ยาวนาน แวะไหว้ “ศาลเจ้าแม่ลิมกอเหนี่ยว”


และชม “มัสยิดกลางจังหวัด ปัตตานี” หลังจากชมและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมก็ แวะทาน “สะเต๊ะศรีเมืองเจ้าเก่า” สะเต๊ะศรีเมืองเจ้าเก่าเมืองตานี เปิดขายมาเป็นเวลามากกว่า 70 ปี พร้อมไป สถานที่ท่องเที่ยว สกายวอล์คปัตตานีตั้งอยู่ใน “สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนเจ้าฟ้ากัลยาณิ วัฒนา (สวนแม่-สวนลูก)”ตกเย็นรับประทานอาหารมื้อค่ำ ที่ “ร้านข้าวยำราชา” เป็นร้านอาหารพื้นเมืองของ ปัตตานีที่โด่งดัง และเก่าแก่อีกร้านหนึ่งในจังหวัดปัตตานี และรับประทานโรตี ที่ ร้านฟาฏอนี โรงแรม ซี.เอส.