รู้จักโลหะหนัก "แคดเมียม" สารตั้งต้น "โรคอิไตอิไต" โดย อ.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา

รู้จักโลหะหนัก "แคดเมียม" สารตั้งต้น "โรคอิไตอิไต" โดย อ.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา

 

 
รู้จักโลหะหนัก "แคดเมียม" สารตั้งต้น "โรคอิไตอิไต"
โดย อ.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา


หลังการพบกากสังกะสี-แคดเมียม บรรจุในถุงบิ๊กแบ๊กขนาดใหญ่ที่สมุทรสาคร จำนวนกว่า 15,000 ตัน ถือว่าสร้างความกังวลและอันตรายต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เพราะการปนเปื้อนของโลหะหนักชนิดนี้ เป็นสาเหตุของโรคอิไตอิไต ที่มีผลทำให้กระดูกสันหลังคดและมะเร็ง

แคดเมียม เป็นโลหะหนัก มีสัญลักษณ์คือ Cd พบปนอยู่กับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แร่สังกะสี แร่ตะกั่ว หรือทองแดง ในการทำเหมืองสังกะสี จะได้แคดเมียมเป็นผลตามมาด้วย สามารถพบแร่แคดเมียมได้ในอาหาร น้ำ เหมือง และส่วนน้ำทิ้ง น้ำเสีย หรือกลุ่มผู้สูบบุหรี่ และยังสามารถพบกากแร่แคดเมียมในสีที่ผสมใช้กับบ้านหรืออาคาร ในประเทศไทย พบการปนเปื้อนสารแคดเมียมมากในตะกอนดินที่ ห้วยแม่ตาว ต.แม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก ระดับสารแคดเมียมในดินและนาข้าวเกินค่ามาตรฐาน
 


หากแคดเมียมถูกความร้อนที่ 321 องศาเซลเซียส จะเกิดเป็นควันกระจายสู่สิ่งแวดล้อม เมื่อร่างกายสูดดมเข้าไป จะทำให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีปวดศีรษะ กล้ามเนื้อ ปวดท้อง ปอด ไต และตับ จะถูกทำลาย ถ้าหากหายใจควันเข้าไปในปอด จะมีอาการเจ็บคอ หายใจสั่น มีเสมหะเป็นเลือด น้ำหนักลด โลหิตจาง การหายใจจะลำบากมากขึ้นจนถึงขั้นระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตในที่สุด

ในอดีต ชาวญี่ปุ่นบริโภคอาหารทะเล ข้าว อาหาร ที่มีการปนเปื้อนของแคดเมียมที่ถูกปล่อยจากโรงงานสารเคมีผ่านระบบระบายน้ำเสีย ทำให้มีผู้ได้รับสารปนเปื้อนจำนวนมาก เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างทรมารบริเวณแขน ขา สะโพก ฟัน อาการเหล่านี้สะสมนานถึง 20-30 ปี จนทำให้ร่างกายเดินไม่ไหว เกิดการกดทับของกระดูกสันหลัง เมื่อได้รับแคดเมียมสะสมมากๆ จะสังเกตเห็นวงสีเหลืองที่โคนของซี่ฟัน ซึ่งจะขยายขึ้นไปเรื่อยๆจนอาจเต็มซี่ ถ้าขนาดของวงยิ่งกว้างและสียิ่งเข้ม ก็แสดงว่ามีแคดเมียมสะสมมาก จนเรียกชื่อโรคนี้ว่า "อิไต-อิไต (Itai-Itai disease)" ที่แปลว่าเจ็บโอ๊ยๆ

"แคดเมียมออกไซด์" เป็นสารก่อมะเร็งที่ไตและต่อมลูกหมาก นอกจากนั้นยังทำอันตรายต่อไตเกิดโรคไตอย่างรุนแรง ทำให้สูญเสียประสาทการดมกลิ่นและทำให้ เลือดจาง ถ้าได้รับปริมาณมากระยะสั้น ๆ จะมีอาการจับไข้ หนาว ๆ ร้อน ๆ ปวดศีรษะ อาเจียน อาการนี้จะเป็นได้นานถึง 20 ชั่วโมงแล้วตามด้วยอาการเจ็บหน้า อก ไอรุนแรง น้ำลายฟูม ดังนั้น เมื่อใดมีไอของแคดเมียม เช่น จากการเชื่อมเหล็กชุบ ควรใช้หน้ากากป้องกันไอและฝุ่นของแคดเมียม หรือสารประกอบแคดเมียม ในขณะทำงาน

เมื่อรับแคดเมียมเข้าร่างกาย

เมื่อรู้ว่ามีความเสี่ยงหรือมีสารโลหะหนักในร่างกายเยอะ แนะนำให้ตรวจหาสารโลหะหนัก ซึ่งในปัจจุบันก็มีการตรวจง่ายๆ โดยไม่ต้องเจาะเลือด เช่น การตรวจด้วยเครื่อง Oligoscan เป็นการตรวจวัดระดับแร่ธาตุและโลหะหนักระดับเนื้อเยื่อ

โดยมากอาการจะเป็นแบบไม่เฉพาะเจาะจง เช่น มีอาการอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น หรือนอนไม่หลับ บางครั้งมีความรู้สึกว่าสมองล้า ลืมง่าย หรือความคิดสร้างสรรค์เรื่องงานลดลง แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงอยู่แล้ว เช่น โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เบาหวาน เป็นต้น จะทำให้อาการแย่ลงหรือว่าการรักษาไม่สำเร็จผลอย่างที่ควรจะเป็น บางครั้งผู้ที่ได้รับสารพิษโลหะหนักอาจจะพบว่ามีอาการภูมิแพ้แบบไม่ทราบสาเหตุ หรือมักจะมีอาการเจ็บป่วยบ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุได้เช่นกัน

การกำจัดหรือล้างสารพิษโลหะหนักในร่างกาย ทำได้โดยการให้สารทางหลอดเลือด เพื่อที่จะไปจับกับโลหะหนักออกจากร่างกาย ซึ่งวิธีนี้มีการใช้ยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันก็ยังมีที่ใช้อย่างแพร่หลายทางพิษวิทยาอยู่ แต่ว่าต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
 


แคดเมียมปนเปื้อนในดินทำอย่างไร

การปนเปื้อนแคดเมียมในสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของมนุษย์ โดยเฉพาะการปนเปื้อนแคดเมียมในพื้นที่เพาะปลูก เพราะแคดเมียมไม่สามารถถูกย่อยสลายได้ และสามารถถูกสะสมผ่านทางห่วงโซ่อาหารได้ ดังนั้นจึงต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการบำบัดพื้นที่ปนเปื้อน ซึ่งวิธีการหนึ่งที่ได้รับการยอมรับและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือ วิธีการทางชีวภาพ โดยเฉพาะการใช้พืชในการบำบัดดินปนเปื้อน แต่การใช้พืชในการบำบัดยังมีประสิทธิภาพที่จำกัด

จึงมีการนำจุลินทรีย์ต้านทานแคดเมียมบางสายพันธุ์ ที่มีความสามารถในการช่วยส่งเสริมการเติบโตของพืช หรือช่วยในการละลายหรือเคลื่อนที่แคดเมียมให้หลุดออกมาจากดิน ซึ่งเพิ่มโอกาสให้พืชสามารถดูดดึงแคดเมียมขึ้นไปสะสมในพืชได้มากขึ้นรวมทั้งการที่พืชเติบโตดีขึ้นจะมีมวลชีวภาพที่มากขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะที่ดีในการนำพืชไปใช้ในการบำบัดโลหะหนักในดิน

กระบวนการนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการบำบัดโลหะหนักในดินด้วยพืชโดยการเติมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (Bioaugmentation-assisted phytoextraction)

อ่าน : สะพรึง! ซุกกากแร่แคดเมียม 1.5 หมื่นตัน สั่งห้ามเข้าใกล้อาคารเก็บ